SET ปิด gap ทางเทคนิคตั้งแต่เปิดตลาด และฟื้นตัวปิด 1,659.78 จุด+0.3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.7 หมื่นล้าน ต่างชาติขาย 1.4 พันล้านบาท

 

SET ปรับลดลงปิด gap ทางเทคนิคและฟื้นตัวได้ดี แม้ยังไม่สามารถยืนได้เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือนบริเวณ 1,672 จุด แต่ในทางกลยุทธ์ เราแนะนำทยอย “ซื้อ” หุ้นเข้าพอร์ตต่อไป มอง upside risk จาก 1) ปัจจัยในประเทศที่คาดว่าจะเข้าสู่ช่วง pre-election rally ปลายปีนี้ 2) valuation ของ SETอยู่ในโซนถูกที่ PE19 14.3x และ earnings yield gap 4.2% 3) แรงกดดันเงินเฟ้อต่ำ ทำให้ มองการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ปีหน้าจะ “จำกัด” แล้ว และธปท.จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยแรง และยังไม่ขึ้นในการประชุม กนง.วันนี้ 4) การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ในการประชุม G20 ปลายเดือนนี้

 

ทำอะไรดี: ราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ปรับลดลงแรง -6.6% เมื่อคืนนี้จะกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่จะเป็นปัจจัยบวกต่อ 1) เงินเฟ้อต่ำ และธนาคารกลางทั่วโลกมีโอกาส Hawkish ลดลง เป็น “บวก” ต่อกลุ่ม Leasing และ MicroFinance อย่าง KKP TISCO SAWAD MTC (เข้า MSCI สิ้นเดือน พ.ย.)THANI 2) กลุ่มหุ้นที่ใช้น้ำมันเป็นต้นทุนอย่างกลุ่มรับเหมาฯ STEC CKSEAFCO...กลยุทธ์ลงทุนเน้นกลุ่มค้าปลีก-รับเหมาฯ-EEC ชอบ CPALLGLOBAL COM7 BEAUTY PLANB STEC CK SEAFCO WHA AMATA

 

แนะนำ “ถือ” AMATA CK CPALL COM7 CPN HMPRO EA PLANB ROBINS และ STEC (ไม่เปลี่ยน)

Fundamental: (หน้า 5)

 

ดีกว่าคาด: BA CPALL (ธุรกิจ 7-Eleven เติบโตได้ดี รายได้+9% SSSG +1.8%) DCC GRAMMY LH

ใกล้เคียงคาด: AP BCH BEAUTY LPH MINT PLANBSEAFCO SIRI SPALI

ต่ำกว่าคาด: AMATA (ยอดโอนที่ดินลดลงเหลือ 39 ไร่) ERWSAMART SDC VIBHA

Fund Selection: การปรับลดลงแรงของตลาดหุ้นโลก ส่งผลให้PE ของดัชนี MSCI ACWI ปรับลดลงมาที่ PE 16x (ต่ำสุด15.6x) โดยกองฯ หุ้นโลกที่คุณภาพสูงให้ผลตอบแทนดีกว่าดัชนีอ้างอิงต่อเนื่อง ชอบ KFGBRAND, T-Healthcare และCIMB-Principal GOPP-A

 

OPEC: ปรับลดควาดการณ์ความต้องการเพิ่มขึ้นเพียง 1.29ล้านบาร์เรล/วัน (ลดลงจากคาดเดิม 70,000 บาร์เรลต่อวัน)ขณะที่กำลังการผลิตน้ำมันนอกกลุ่ม OPEC จะเพิ่มขึ้น 2.23ล้านบาร์เรล/วัน (เพิ่มจากเพิ่ม 120,000 บาร์เรล/วัน)

 

ถือทนแกว่งรอสัญญาณ: (The Technical Story)

SET ฟื้นตัวขึ้นหลังลงไปปิด Gap 1,645 จุด มีด่านที่ 1,666 จุด ทะลุได้มีแนวต้านถัดไปที่ 1,675 และ/หรือ 1,680 จุด กรณีปรับลงหลุด1,655 จุด อาจถอยลงไปทดสอบ 1,650 และ/หรือ 1,643 จุด

 

DTAC เข้าซื้อเพิ่ม เป้าหมาย 49.25 / 53

BEAUTY เข้าซื้อที่ 10.00 เป้าหมาย 11 / 11.70

AEONTS เข้าซื้อเพิ่ม เป้าหมาย 195 / 198

 

Derivatives Recommendation:(ดูรายงาน The Derivatives Story)

“Trading” S50Z18 ในกรอบ 1,092 – 1,110 จุด

“Long” Block MTC เป้าหมาย 53.50 / 55.50...Leverage 8x

TradeCode: Buy > CPALL, TU, DOD

 

Tactical Portfolio: ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (5.-9 พ.ย.) Tactical Portfolio ให้ผลตอบแทน -1.3% w-w ต่ำกว่า SET ที่ให้ผลตอบแทน -0.9% w-w โดยPLANB CPALL ให้ผลตอบแทนสูง +1.5%, +0.4% มองหุ้นกลุ่มที่มีรายได้อิงกับการบริโภคภายในประเทศ outperform ตลาดปลายปีนี้ ขณะที่ EA DTACROBINS ให้ผลตอบแทนต่ำที่สุดในพอร์ต ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา…ทั้งนี้เราแนะนำ “ซื้อ” COM7 และ CK เข้ามาแทน DTAC และ SAWAD ในสัปดาห์นี้มอง COM7 กำไร 3Q18 ออกมาดีกว่าที่เราและตลาดคาด มี upside risk ต่อประมาณการกำไร ขณะที่ CK ที่เข้าประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินกับกลุ่ม CP และราคาหุ้นยังต่ำกว่า NAV มาก มอง upside มากกว่าdownside โดยหลังปรับพอร์ตมีหนุ้ 10 ตัว ได้แก่ AMATA CK COM7 CPALLCPN EA HMPRO PLANB ROBINS และ STEC

 

 AMATA: ถูกที่ 40% discount ของ NAV และมีรายได้หลักมากกว่า50% ของรายได้

 AOT: ได้ประโยชน์ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวและการประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ปีหน้า

 BEAUTY: เป็นหุ้น growth stock ที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และได้ market share ที่สูงขึ้น

 CHG: เข้าสู่รอบการเติบโตใหม่ โดยมีปัจจัยผลักดันจากผู้ป่วยเงินสดชาวไทยที่เติบโต และฐานรายได้ใหม่จากผู้ป่วยต่างชาติ

 CPN: เข้าสู่รอบเติบโตสูงด้วย 23% EPS CAGR ช่วง 2017-20Fจากการเปิดศูนย์การค้า 3-4 แห่งต่อปี และ operating leverageจากการปรับค่าเช่า

 EA: เป็นหุ้น growth stock ยังโตสูงต่อเนื่องถึงปี 2019 จากสัญญาในมือที่จะทยอยดำเนินการ และมีโอกาสโตมหาศาลต่อเนื่องจาการขยายธุรกิจสู่แบตเตอรี่เก็บกักพลังงานซึ่งเป็นแนวโน้มของการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้า

 GLOBAL: มีการเติบโตของกำไรที่สูงต่อเนื่องใน 3 ปีข้างหน้า จากการปรับกลยุทธ์ในบริษัทฯ และได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการบริโภคในต่างจังหวัด

 KCE: ได้ประโยชน์จากแนวโน้มเงินบาทที่อ่อนค่า ในขณะที่การเติบโตของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์เร่งตัวขึ้นชัดเจนในตลาดโลก

 RS: หุ้นเติบโตสูงจากการต่อยอดธุรกิจมีเดียมายังธุรกิจรีเทล โดยใช้ความแข็งแกร่งของฐานคนดูดิจิตอลทีวีช่อง 8 เสริมรายได้และกำไร

 STEC: กำไรจะกลับมาเติบโตโดดเด่นจากรายได้ และ margin ที่ฟื้นตัว

+ADVANC เปิดวิสัยทัศน์กลุ่มลูกค้าองค์กร มุ่งสู่ “ผู้นำบริการ ICT เพื่อองค์กรครบวงจร” คาดสิ้นปีนี้รายได้กลุ่มลูกค้าองค์กรโต 10% แตะ 14,000-15,000 ล้านบาท หรือมีสัดส่วนรายได้ 11-12% ของรายได้รวม หวังเพิ่มเป็น 15% ในปี2019(ข่าวหุ้น)

 

+BCP กางแผนธุรกิจ 4 ปี ทุ่มงบลงทุน 77,000 ล้านบาท เพื่อขยายทุกธุรกิจไม่หยุด วางเป้าปี 2023 EBITDA มากกว่า30,000 ล้านบาท พร้อมดันมาร์เก็ตแชร์ธุรกิจการตลาดพุ่งแตะ 18% ตั้งเป้าปี 2020 กำลังการผลิตพุ่ง 135,000บาร์เรลต่อวัน(ข่าวหุ้น)

 

+BSM โชว์ไตรมาส 3Q18 กำไร 7.12 ล้านบาท โต 258.28% พร้อมอวดงบ 9 เดือนแรกกำไรสวย 36.90 ล้านบาทมั่นใจรายได้ปีนี้เข้าเป้า(ทันหุ้น)

 

+GULF มาตามนัด ประกาศงบไตรมาส 3Q18 โชว์กำไรสุทธิ 1,205 ล้านบาท โตทะลัก 78.25% หนุน 9 เดือนแรกกำไรสุทธิพุ่ง 2,475 ล้านบาท หลังมี COD โรงไฟฟ้า GBL เข้ามาเพิ่ม(ข่าวหุ้น)

 

+KIAT ส่งสัญญาณปีนี้ธุรกิจฟื้นตัว คาดผลงานไตรมาส 4 ติดเครื่องวิ่งต่อ จากการเข้าลงทุนในบริษัทย่อย พร้อมโชว์ผลงานไตรมาส 3Q18 กวาดกำไร 30.94 ล้านบาท มั่นใจรายได้ปีนี้เข้าเป้า หรือโต 30%(ทันหุ้น)

 

+LIT เผยกำไร 3Q18 อยู่ที่ 38.44 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย ยันรายได้ไตรมาส 4 เติบโตต่อ หวังทำ All Time Highพร้อมเดินหน้าย้ายเข้า SET ภายใน 3 ปีตามแผนด้าน(ข่าวหุ้น)

 

+PSH เผยไตรมาส 4Q18 จ่อบุ๊กรายได้จากแบก็ ล็อก 11,784 ล้านบาท จากแบ็กล็อกที่มีทั้งหมด 35,749 ล้านบาท ส่วนผลงาน 9 เดือนแรกโชว์กำไรสุทธิ 4,089 ล้านบาท เติบโต 8.09% เหตุค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง(ข่าวหุ้น)

 

+SPCG ยันกำไรปี 2018 ยังโตกว่าปีก่อน แม้ยอดขายจะใกล้เคียงกับปีก่อนประมาณ 6,000 ล้านบาท หลังมีการควบคุมต้นทุนทางการเงินได้ดี โชว์มียอด COD รวม 290 MW พร้อมลุยลงทุนโครงการในญี่ปุ่น ขนาดรวมกว่า 500 MW(ข่าวหุ้น)

 

+TFG ควัก 358 ล้านบาท ปันผลระหว่างกาล 0.07 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD 26 พ.ย.นี้ หลังไตรมาส 3Q18 กำไรพุ่ง526 ล้านบาท รับอานิสงส์ปรับพอร์ตส่งออกไก่-ราคาขายสุกรปรับตัวสูงขึ้น(ข่าวหุ้น)

 

+TITLE แยม้ งบไตรมาส 4Q18 โตก้าวกระโดด อานิสงส์รับรู้ยอดโอนโครงการ The Title หาดในยางเฟส 1 และเฟส 2 ที่ขายไปแล้วเกือบ 100% หนุนรายได้ปี 2018 ทะยานแตะ 600 ล้านบาท กำไรทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์(ทันหุ้น)

 

+/-TMB ปักหมุดหั่นหนี้เสียเอสเอ็มอีปีหน้าเหลือ 4% จากปัจจุบันมีสูงถึง 8% พร้อมวางเป้าหมายสินเชื่อเอสเอ็มอีปีหน้าโต6-8% สินเชื่อคงค้างแตะ 9.7 หมื่นล้านบาทขณะที่สินเชื่อเอสเอ็มอีปี 2018 ปล่อยพลาดเป้าหมายทำได้จริง 0-2%ทำให้สินเชื่อคงค้างปีนี้อยู่ที่ 9.1-9.2 หมื่นล้านบาท(ข่าวหุ้น)

 

+TPIPL เทิร์นอะราวด์พลิกกำไรบวก 512 ล้านบาท ครั้งแรก รอบ 6 ไตรมาส หลังได้โรงไฟฟ้า TPIPP ที่ COD ไตรมาส 3จำนวน 150 MW หนนุ ขณะที่ปูนฟื้นตัวจากการขึ้นราคา 5% ขณะปรมิ าณขายเพิ่มขึ้นตามโปรเจ็กต์ ทำซัพพลายส่วนเกินของตลาดลดน้อยลง เชื่อฟื้นตัวกำไรต่อเนื่อง(ทันหุ้น)

 

+WICE งบไตรมาส 3Q18 กำไรสุทธิพุ่ง 30 ล้านบาท บุ๊กรายได้บริษัทลูก-รับผลบวกไฮซีซั่นโลจิสติกส์ มั่นใจโค้งสุดท้ายดีต่อเนื่อง หนุนรายได้ปี 2018 โต 30% ตามเป้าหมาย(ข่าวหุ้น)

 

0IPO “สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์” เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอ 68 ล้านหุ้น เดินสายโรดโชว์ 14 พ.ย. และ 20 พ.ย.นี้ เล็งเปิดจองปลายเดอื นนี้ พร้อมเข้าซื้อขายใน mai ภายในต้นเดอื น ธ.ค.18 หวังระดมทุนขยายธุรกิจตุนแบ็กล็อกกว่า716.52 ล้านบาท(ข่าวหุ้น)