วานนี้ SET Index ปิดที่ 1,675.33 จุด +6.00 จุด (+0.36%) ด้วยมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด 5 หมื่น ลบ.โดยนักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน สวนทางกับนักลงทุนสถาบันที่เริ่มขายหุ้นออกมา สำหรับวันนี้คาด SET Index Sideway ในกรอบ 1,655-1,688 จุด โดยจับตาการประกาศผลกำไรบริษัทจดทะเบียนในวันนี้ และผลประชุม Fed ในคืนนี้

Market Factors

 

(Alert) คืนนี้ติดตามถ้อยแถลงหลังสิ้นสุดการประชุมของ Fed เพื่อพิจารณามุมมองต่ออัตราเงินเฟ้อและทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในปีหน้า โดยล่าสุด Fed Fund Futures สะท้อน Implied Prob. ต่อการขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีหน้าที่ 8% เพิ่มขึ้นจาก 28.8% ในวันก่อนหน้า

(-) ราคาน้ำมันดิบปรับลงต่อ หลัง EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ สัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาดจะลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล สร้างความกังวลต่อภาวะอุปทานน้ำมันดิบโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างเร่งตัว

(-) คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประเมิน GDP ช่วง 3Q61 โตชะลอตามส่งออก-ท่องเที่ยว ก่อนฟื้นตัวในช่วง4Q61จากการเร่งเบิกจ่ายเงินงบประมาณและคงประมาณการทั้งปี 4-4.8%

(+) ครม.ยกเลิกค่าธรรมเนียมวีซ่านักท่องเที่ยวเมื่อมาถึงในช่วงสิ้น พ.ย.61-สิ้น ม.ค.62 สำหรับนักท่องเที่ยว 21 ประเทศ(รวมประเทศจีน) หวังดึงดูดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ มองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ได้แก่ AOT และ AAV

 

 

สัปดาห์นี้คาด SET Index ผันผวนในกรอบ โดยประเมินแนวรับ 1,645 จุด (Fwd PE 15.2x) และแนวต้าน 1,700 จุด (Fwd PE 15.7x) พร้อมจับตาหุ้นเข้าสู่ช่วง Earning Season ในสัปดาห์นี้ (โดยเฉพาะในวันที่ 8-9 พ.ย.) เช่น PTTGC,CPN,BEM,BANPU,TOP แต่อย่างไรก็ดีในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค. เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย โดยคาด SET Index จะปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักจาก 1) ช่วง High Season ของธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจอุปโภคบริโภคที่จะมีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น และ 2) การเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ในเดือนก.พ.จะเป็นตัวกระตุ้นหลายภาคธุรกิจเริ่มฟื้นตัวมากขึ้น ดังนั้นในสภาวะที่ SET Index มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง เราได้คัดเลือกหุ้น 2 กลุ่มซึ่งมาจากการใช้ Blooomberg Screening ดังนี้ 1) Earning Growth (หุ้นกลุ่มที่ Consensus คาดกำไรช่วง 3Q61/หรือประกาศแล้ว โต YoY, กำไรช่วง 4Q61 และปี 61-62 โต YoY) ได้แก่ STEC(S24.3,R25.5), BDMS (S24.5,25.5) 2) Q3 Bottom (หุ้นกลุ่มที่คาดกำไรช่วง 3Q61 หดตัวQoQต่อเนื่องจากช่วง 1Q61-2Q61 และช่วง 4Q61 คาดกำไรฟื้นตัว QoQ) ได้แก่ BLA (S29.75,R33), AH(S23.6,R25)

*** (S,R) = (Support, Resistance) ใน 1 สัปดาห์ ***

 

 

VGI (BUY:[email protected]): ช่วง 2Q61/62 กำไรโต8%YoY หนุนด้วยธุรกิจสื่อนอกบ้านของ MACO และสื่อโฆษณาในอาคารที่ยังโตดี สอดคล้องไปกับเม็ดเงินของอุตสาหกรรมเดือน ก.ค.-ก.ย. ที่โต 8.7%YoY รวมทั้งเริ่มมีส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนใน KETH เพิ่มเข้ามา (ตั้งแต่เดือน ส.ค.) ส่วนช่วง 2H61/62 คาดกำไรโตทั้ง HoH และ YoY โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจาก O2O Ecosystem ที่คาดจะสร้าง Synergy ได้ดีขึ้น + Upside 8.5%

 

 

MTC (Trading BUY:TP@58): ช่วง 3Q61กำไรสุทธิโตเด่น 4%YoY หลังฐานลูกหนี้ขยายตัวได้ดีและมีสาขาเพิ่มกว่า 754 สาขาจากปีก่อน ส่วนทั้งปีคาดกำไรโต 50.5%YoY หนุนด้วยความต้องการสินเชื่อเงินด่วนที่มีอยู่มาก แต่ด้วยราคาหุ้นมี Upside จำกัดจากมูลค่าพื้นฐานปี 62 ที่ 58 บาท จึงปรับคำแนะนำเป็นเพียง “Trading Buy”

NYT (BUY:[email protected]): ช่วง 3Q61 ประกาศกำไรสุทธิ2 ลบ. เติบโต 26.8%YoY หนุนด้วยรายได้จากการให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อขนถ่ายสินค้าและบริการ เติบโต 3.5%YoY และรายได้จากการให้บริการคลังสินค้า เติบโต 18.9%YoY ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นจากผลแห่งประหยัดต่อขนาดและการลดลงของฐานการคำนวณภาษีโรงเรือนสำหรับปี 60 + มี Upside 21.1% จากมูลค่าพื้นฐานปี 62 ที่ 6.30 บาท จึงแนะนำ ”ซื้อ”

 

 

7-Nov-18    Change (pts.)    6-Nov-18

SET Index    1,675.33    6.00    1,669.33

SET50 Index    1,108.12    6.23    1,101.89

SET100 Index    2,453.82    11.27    2,442.55

 

 

 

High    1,676.09    Gainers    568 

Low    1,656.51    Unchanged    443

Value (Bt m)    50,638.61    Losers  815 

Volume (*000)    15,121,683          

 

SET Data    2018F    2019F    Long Term

Fwd PER (x)    15.5    14.1    14.1

EPS Growth (%)    13.9    9.3    7.5

EV/EBITDA (x)    10.5    9.7    9.3

FWD PBV (x)    1.9    1.8    1.7

Dividend Yield (%)    3.1    3.4    3.7

ROE    13.2    12.4    12.4

 

Unit : M Bt    7-Nov-18    WTD    MTD    YTD

Institution    (2,640.93)    (3,043.08)    4,165.45    168,081.75

Proprietary    1,367.68    1,696.08    2,739.43    (5,972.00)

Foreign     215.38    2,522.03    332.60    (272,840.42)

Individual    1,057.86    (1,175.03)    (7,237.48)    110,730.67