- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 08 November 2018 16:00
- Hits: 4646
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
ผลการเลือกตั้งตามคาด เมื่อวานที่ผ่านมาการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐเป็นไปตามที่ตลาดคาด โดยพรรค Democrat สามารถพลิกกลับมาครองเสียงส่วนมากในสภาล่าง (House) ได้ด้วยคะแนนเสียงมากกว่า 223 เสียง (เกินครึ่งที่ 218 เสียง) ในขณะที่สภาสูง Republican ยังคงสามารถครองคะแนนเสียงส่วนมากได้ที่ 51 ภาพรวมถือว่าใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด ซึ่งเราประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,685-1,700 จุด แนะจับตา Dollar Index อาจกลับมาอ่อนค่าในระยะสั้น อย่างไรก็ตามเราประเมินว่า Bond yield จะคงทรงตัว จากนโยบาย Hawkish ของ FED อีกทั้งแนะนักลงทุนจับตาท่าที Trump ภายหลังสูญเสียเสียงในสภาล่าง จะส่งผลต่อการดำเนินนโยบายบริหารประเทศภายใต้ Amercican First เช่น การผ่อนหรือเพิ่มการกีดการทางการค้ากับจีน หลังการประชุม G20 ในปลายเดือน, ความรุนแรงของการคว่ำบาตรอิหร่าน และการออกกฎหมายต่างๆในอนาคต อย่างไรก็ตาม สำหรับกฎหมายที่ได้ประกาศใช้อย่างเป็นทางการ เช่น การขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 2.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ อาจยังคงอยู่ต่อ เนื่องจากเรามองว่า Democrat จะกีดกันกฎหมายในประเทศสหรัฐมากกว่านอกประเทศ
Investment Theme: สำหรับกรอบ SET เดือนนี้ ประเมินค่อนข้างลำบากจากหลาย Event play ที่ยากต่อการคาดผลลัพธ์ อย่างไรก็ตามเราคาดกรอบการแกว่งตัวที่ 1,620-1,685 จุด โดยแนะสะสม BEM, GPSC, MACO, CPN
Investment theme
เมื่อวานที่ผ่านมา SET ผันผวนสูงมาก โดยมีแรงซื้อเด่นใน ADVANC และกลุ่มปิโตรอย่าง PTTGC, IVL และกลุ่มธนาคารอย่าง KBANK อย่างไรก็ตาม MTC โดนแรงขาย Sell on fact และ KCE ภายหลังรายงานกำไรต่ำกว่าตลาดคาด ในขณะที่ NER เข้าซื้อขายเป็นวันแรก ติดลบ 20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,261 ล้านบาท ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,675.3 จุด (+6.0 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.0 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 3.9 หมื่นลบ.
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 ที่ 215 ล้านบาท พร้อมกลับมาเปิดสถานะ Long SET50 index future สุทธิ 5,655 สัญญา
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา PTTGC, TPIPP รายงานผลประกอบการ Q3 ใกล้เคียงคาด / นายวิษณุ เครืองาม นัดแถลงช่วงเวลาและขั้นตอนไปสู่การเลือกตั้ง / Dollar Index กลับมาแกว่งตัวบริเวณ 96.1 / Bond yield 10 ปีสหรัฐ ปรับขึ้นต่อเนื่องที่ 3.23%
Stock pick : VGI
VGI : ทยอยสะสม 10.20 บาท/หุ้น
- บริษัทรายงานกำไร 260 ลบ. +29%YoY ดีกว่าตลาดคาด 13% สนับสนุนจากรายได้ทำ Record high ที่ 1.2 พันลบ. จากการรวมงบ Tran Ad. ในขณะที่สื่ออาคาร 31%YoY และ Kerry ช่วยสร้างกำไรได้เด่นผลกำไรใน 1H61/62 คิดเป็น 41% ของประมาณการทั้งปี
- ขณะที่ผู้บริหารให้มุมมอง บวก ในช่วงที่เหลือจากการได้ประโยชน์ทางอ้อมของการเลือกตั้งที่คาดจะสร้างความมั่นใจต่อผู้ซื้อสื่อมากขึ้น และยังได้ปรับเป้ารายได้ขึ้น 10% จาก 4.4-4.6 พันลบ. เป็น 5 พันลบ. (vs ประมาณการของเรา 4.8 พันลบ.) และยังเชื่อมั่นว่า Trans Ad. จะเป็นการลงทุนระยะยาวที่ดีในการช่วยสนับสนุนการวางระบบสื่อดิจิตอลในอนาคต และคาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 20-25%
Trading idea - วันนี้ CKP, BCP ประกาศงบ คาดออกมาดี / ทยอยสะสม SF ราคาเป้าหมาย 10.60 บาท โดยรายงานกำไรจากการดำเนินงานเติบโต 18%QoQ, 16%YoY ที่ 157 ล้านบาท สนับสนุนจาก Mega Bangna ที่มีการปรับขึ้นค่าเช่า และขยายพื้นที่บริการ ในขณะที่คาดกำไร Q4 เติบโตอย่างต่อเนื่องจาก High season อีกทั้งเปิดโครงการนางลิ้นจี่ Phase2 และ Dusit marketplace
Technical View
Rebound เป็น Hammer จากแนวรับสำคัญ 1665 พิจารณาแนวต้านเป็นขั้นๆ: ดัชนีแกว่ง Sideway Downตลอดทั้งวัน ก่อนที่ช่วงบ่าย 3 จะมีแรงซื้อกลับอย่างรุนแรงจากกลุ่มพลังงาน สื่อสารและค้าปลีก ทำให้ดัชนีปิดที่เกือบ High เกิดเป็นแท่งเทียนกลับตัวแบบ Hammer ในระยะสั้นหากไม่หลุด 1665 จะกลับไปแกว่งในกรอบ Sideway ช่วง 1665-1690/1705 ยังคงแนะนำให้พิจารณาแรงขายตามแนวต้านเป็นขั้นๆ เพื่อทยอยขายทำกำไรตามแนวต้านต่างๆ โดยดัชนีจะเปลี่ยนจาก Sideway เป็นขาขึ้นเมื่อสามารถกลับไปยืนเหนือ 1705 กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : Trading ในกรอบ 1665-1690/1705 และแนะนำขายทำกำไรที่แนวต้านเป็นขั้นๆ เนื่องจากแนวโน้มหลักยังเป็นการแกว่ง Sideway 2) ไม่มีหุ้น : มองกรอบการเทรด 1665-1690/1705 แนะนำรอซื้อจังหวะอ่อนตัวสู่แนวรับ และขายกำไรในจังหวะ Rebound
แนวรับ : 1665, 1670 แนวต้าน : 1690, 1705
Keep an eye on…
ปัจจัยต่างประเทศ: -
ปัจจัยในประเทศ: PTT เตรียมหารือจะแบกรับค่าใช้จ่ายที่ภาครัฐเสนอลดราคาน้ำมันปลีก 3 บาท/ลิตร
หุ้นเทคนิค:
AMATA (B 23.70-24.10, Tp 25.00//26.00, Cut 23.50)
HMPRO (B 14.50-14.70, Tp 15.50//16.00, Cut 14.30)
ข่าวเด่นเช้านี้
TRC ลุยประมูลงาน 1 หมื่นล้าน ลุ้นคว้าก่อสร้างทางหลวง 560 ล้านพ.ย.นี้ (ข่าวหุ้น)
TRC โปรยข่าวดี SKW คว้างาน 600 ล้านบาท จาก PTTOR แย้มเดือน พ.ย.นี้ลุ้นคว้างานก่อสร้างทางหลวงอีก 560 ล้านบาท ลั่นไตรมาส 3/2561 ผลงานสดใส จ่อประกาศงบ 12 พ.ย.นี้ ฟากไตรมาส 4/2561 ลุยประมูลงานรวมกว่า 10,000 ล้านบาท
ความเห็น : เราคาดผลประกอบการในครึ่งปีหลังสามารถพลิกฟื้นกลับมามีกำไรที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตามใน Backlog จะเป็นรับเหมาก่อสร้างงานโยธาซึ่งมีกำไรต่ำ รวมถึงงานท่อช่วงหลังมีการแข่งขันรุนแรง ซึ่งจะทำให้กำไรครึ่งปีหลังจะไม่เด่นมากนัก เราประเมินรายได้ในปีนี้ 2,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อย 5.5% และ คาดจะมีกำไรสุทธิ 29 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 69% แนะนำ ถือ รอพัฒนาการในด้านบวก โดยเฉพาะโครงการโปแตซ
PSH เป้ายอดขายกลุ่มพรีเมียมปี 62 ไม่ต่ำกว่า 8 พันล. (ทันหุ้น)
PSH ตั้งเป้ายอดขายกลุ่มพรีเมียมปี 2562 ที่ 8,000 ล้านบาท ส่วนยอดโอนคาดเติบโต 200-300% แตะ 6,000 ล้านบาท ระบุมี Backlog รอรับรู้กว่า 1.6 หมื่นล้านบาท กินยาวถึงปี 2563 เตรียมเปิดโครงการใหม่ท้ายปี มูลค่า 1,700 ล้านบาท
ความเห็น : เราคงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 24.10 บาท/หุ้น มองว่าเป้า Presales ปีนี้ยังท้าทายจากที่ตั้งไว้ที่ 53,742 ล้านบาท (+13% YoY) ซึ่งอัตราเร่งของการขายและยอดการเปิดโครงการใหม่จะต้องเร่งมากขึ้นใน 4Q61 เราคาดผลประกอบการปีนี้เติบโต 6% และถือเพื่อรับปันผลที่ผลตอบแทนเฉลี่ย 6% ต่อปี เทคนิคแกว่ง sideway 20-21.5 บาท
PLAT ลั่นปี 62 รายได้โต 40% รับผลบวกเปิดตัว 'เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก'(ข่าวหุ้น)
PLAT มั่นใจงบปี 2561 ฟอร์มสวย ธุรกิจโรงแรมเด่นโชว์อัตราใช้บริการพุ่ง 90% ลุยเปิดตัว "เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก" เดือน ก.พ. 2562 หนุนรายได้ปีหน้าโตอีก 40%
ความเห็น : : การเลื่อนเปิดโครงการ เดอะมาร์เก็ต แบงคอก จากเดือน ธ.ค. ไปเป็น 14 ก.พ. ปีหน้า คาดผลกระทบจำกัดต่อประมาณการของเรา โดยคาดกำไรปี 2562 ยังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากการเปิดโครงการดังกล่าวซึ่งปัจจุบันมีผู้จองพื้นที่เช่าแล้ว 80-85% และคาดจะมีอัตราเข้าเช่าไม่ต่ำกว่า 90% เมื่อเปิดบริการ แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 9.20 บาท เทคนิคระยะสั้นปรับฐาน แนวรับ 7.4 ต้าน 8 บาท
IVL เก็งงบ Q3 โต 139% ลุ้นกำไรเกิน 8.4 พันล้าน (ทันหุ้น)
IVL จับตาแจ้งงบ Q3/2561 วันนี้ (8 พ.ย.61) ลุ้นกำไรโต 139% สู่ 8,393 ล้านบาท จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นเป็น 2.7 ล้านตัน และคาดมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนและกำไรจากการต่อรองธุรกิจรวม 1,100 ล้านบาท มองผลงานไตรมาส 4/2561 โตเด่นจากปีก่อน ตามปริมาณการขายที่ขยายตัวต่อเนื่องจากการซื้อกิจการ เตรียมชงบอร์ดวางแผนงานปี 2562 ในเดือนธันวาคมนี้
ความเห็น : ผลประกอบการ 3Q61 ยังคงเดินหน้าทำจุดสูงสุดต่อ หนุนโดยปริมาณขายที่ปรับขึ้น ช่วยชดเชยผลกระทบจากมาร์จิ้นที่เริ่มกลับสู่ระดับปกติหลังพุ่งขึ้นแรงใน 2Q61 เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของอุตสาหกรรมโพลีเอสเตอร์ และยังคงแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายกลางปี 2562 เท่ากับ 72 บาท อิง PBV 2.5เท่า เทคนิคลุ้นรีบาวน์ ต้าน 56/60 รับ 53 บาท
BCPG สนซื้อกิจการร่วมทุน-ชู EIRR 15% (ทันหุ้น)
BCPG งบ Q3/2561 กำไรพุ่ง 1,139 ล้านบาท หลังบุ๊กกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน แถมควบคุมค่าใช้จ่ายและผลตอบแทนจากการลงทุนเป็นไปตามแผน มองโอกาสเข้าซื้อกิจการ-ร่วมทุน ชู EIRR12-15% หนุนอนาคตแกร่ง
ความเห็น : ผลประกอบการ 3Q61 มีกำไรสุทธิ 1,139 ล้านบาท (+481% YoY, +172% QoQ) สูงกว่าคาด เนื่องจากกำไรพิเศษที่สูงกว่าคาด แนวโน้มผลประกอบการหลัก 4Q61 อ่อนตัว QoQ แนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย SOTP ปี 2562 เท่ากับ 20.20 บาท เทคนิคแกว่งในกรอบ 18-19.5 บาท
Go with the Flow : กระแสเงินทุนต่างชาติ / ธุรกรรม Short-Selling / NVDR
กระแสเงินทุนต่างชาติ - กระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้า ยกเว้นประเทศเกาหลีใต้ที่ไหลออก ทางด้าน TFEX พลิกกลับมา Long สุทธิใน SET50 Futures 5,655 สัญญา แต่ Short สุทธิใน Single Stock Futures ที่ 1,101 สัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ กลับมาขาย 5,677 ล้านบาท
ธุรกรรม Short Selling - ปริมาณ Short Selling ซื้อเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1,575.15 ล้านบาท นำโดย PTTEP, ADVANC, IVL, KBANK และ BEAUTY ตามลำดับ
การซื้อขาย NVDR - ปริมาณการซื้อ NVDR นำโดยกลุ่มธนาคาร ได้แก่ KBANK, BBL, SCB ลำดับที่ 3,5 ส่วนหุ้น PTT, CPALL ลำดับ 2, 4 ส่วนฝั่งขาย ยังคงนำโดย INTUCH, TISCO พลิกกลับมาขาย ตามด้วย KCE, SCC และ SPRC
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000