- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 07 November 2018 22:57
- Hits: 6780
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ภาพตลาดและแนวโน้ม
เลือกหุ้นที่มีกำไรออกมาดี เท่านั้น
เมื่อวาน หุ้นมือถือ กดตลาด ADVANC INTUCH (กำไร AIS ต่ำคาดกดดันทิศทางกำไรกลุ่ม) ขณะที่กลุ่ม Underperform ได้แก่ MINT (กำไรปีนี้ปรับลงจากต้นทุนการซื้อกิจการ NH) TOP (กังวลงบ 3Q ไม่ดีอย่างคาดเหมือน SPRC) เป็นต้น
ส่วนกลุ่มที่ Outperform ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ ราคาหุ้นยังอยู่ข้างล่าง บวกกับ แนวโน้มงบ มีลุ้นฟืนตัว อย่าง CENTEL AOT (รับมาตรการกระตุ้นหนุนกำไรไตรมาส 4-1) ASIAN (เล่นตามงบธุรกิจ Pets can ที่กำไรดีตาม TU) หรือราคาลงรับแนวโน้มกำไรอ่อนตัวใน 3Q ไปแล้ว เช่น CPALL SCC
จากหุ้นรายตัวที่ ตลาดเลือกเล่นตาม แนวโน้มผลการดำเนินงาน "ดี/แย่" เรายังคงเชื่อว่า การเลือกหุ้นเข้าซื้อรอบนี้ล้อไปกับ "แนวโน้มกำไร ฟืน/ราคาหุ้นยังอยู่ข้างล่าง" ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ เหมาะสมกับตลาดช่วงนี้ (Valid) อยู่
ระยะสัปดาห์ คาดหุ้นไทย จะมีปัจจัยหนุน ให้ Sideways up ได้ ตาม 1) กำไร บจ.ไทย 3Q ที่มีแนวโน้มการปรับลงจำกัด สะท้อน Downside ตลาดขาลง จะมีจำกัดเช่นกัน 2) คาดผลเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ จะหนุนตลาดหุ้นเกิดใหม่รีบาวด์ 3) แรงขายฝรั่งคาดว่าจะเริ่มลดลงตลอดเดือน พย.-ธค. ตามธรรมชาติของฤดูกาลส่งท้ายปี
What to watch:
(+) ครม.อนุมัติ ฟรีวีซ่าท่องเที่ยว 21 ประเทศ พย. นี้ ถึงสิ้นเดือน มค.ปีหน้า / ประเด็นที่น่าสนใจ อยู่ที่รอบนี้ให้กับ อินเดีย ไต้หวัน ด้วย ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ โมเมนตั้มเริ่มมาแรงช่วงนี้ นอกจากนี้ วันที่ 11.11 ทาง อาลีบาบา กรุ๊ป จะเปิดให้ใช้ช่องทาง ขายของออนไลน์ โฆษณา การท่องเที่ยวไทย ซึ่งเราคาดว่ากลุ่มลูกค้าที่เห็นโฆษณากว่า 800 ล้านคน น่าเป็นประเด็นที่หนุนบรรยากาศในการ เข้าเล่นรอบกลุ่ม โรงแรม ท่องเที่ยว ได้ แนะนำ AOT CENTEL
(+) ผลเลือกตั้ง กลางเทอม สหรัฐฯ ล่าสุด พรรคเดโมแครต ยังคงมีคะแนนนำในสภาผู้แทนราษฎร 33 ที่นั่ง ส่วน รีพลับริกันกวาด 26 ที่นั่ง / ส่วนการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา เดโมแครต ได้ 31 ที่นั่ง ขณะที่รีพัลบริกัน ได้ 42 ที่นั่ง (ผลเลือกตั้ง ถ้าออกมาตามผลอัพเดท นี้จริงคาด Neutral ต่อตลาดหุ้นไทย เพราะ โพลผลตามนี้ ออกมานานแล้ว ตลาดรับรู้ตามนี้ไปนานแล้ว) (ที่มา: อินโฟเควสท์ เวลา 8.08 น.)
หุ้นแนะนำ
BANPU (Value play) ราคาหุ้นปัจจุบันสะท้อน PBV 0.9x (-0.8SD) PE 8.3 (-1.1SD) ขณะที่ราคาหุ้นสะท้อนราคาถ่านหินระยะยาว แค่ $50 ต่อตัน แต่ราคาถ่านหินในตลาดยืน $75 ต่อตัน
รายงานวันนี้
Banpu: Too cheap!
เราคาดกำไรหลัก 3Q18 ที่ 3.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% YoY และ 18% QoQ หนุนโดยราคาขายที่เพิ่มขึ้นสำหรับถ่านหินและแก๊ส (ซึ่งหักกลบกับผลกระทบจากปัจจัยด้านฤดูกาลของธุรกิจโรงไฟฟา) อย่างไรก็ตามค่าเงินบาทที่แข็งค่าเมื่อเทียบ ณ สิ้นไตรมาส 3 และไตรมาส 2 จะกดดันกำไรสุทธิเหลือ 2.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% YoY แต่ลดลง 28% QoQ ในขณะที่ 4Q18 เราคาดกำไรหลัก 3.1 พันล้านบาท ทรงตัว YoY (ดอกเบี้ยจ่ายและรายได้อื่นกลับมาสู่ระดับปกติหักกลบกับราคาถ่านหินที่เพิ่มขึ้น) แต่ลดลง 6% QoQ (ปัจจัยด้านฤดูกาลของธุรกิจไฟฟา) เรามองว่าราคาถ่านหินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และการขยายตัวของธุรกิจโรงไฟฟา รวมถึงการรุกเข้าสู่ประเทศเวียดนาม จะหนุนการเติบโตในอนาคต ราคาหุ้นเทรดอยู่ระดับ PBV และ PER ปี 2019 ที่ 0.9 เท่า (-0.8SD) และ 8.3 เท่า (-1.1SD) เราคงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร ราคาเปาหมาย 24 บาท
SF: Value play
เรามอง SF เป็นหุ้น Value Play ตาม theme กลยุทธ์ที่เราแนะนำสำหรับตลาดที่ผันผวนในช่วงนี้พอดี ซึ่ง SF เข้าเกณฑ์การเข้าเลือกหุ้น Value Play ทั้ง 4 ข้อ ล่าสุดบริษัทรายงานกำไรออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด โดยกำไรสุทธิ 337 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 4%YoY และ 47%QoQ) โดยมีกำไรพิเศษจำนวน 75 ล้านบาท หลักๆมาจากการปรับมูลค่ายุติธรรมอสังหาฯเพื่อการลงทุน จากการต่อสัญญาโครงการ La Villa โดยกำไรหลักจากการดำเนินงานอยู่ที่ 263 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 7%YoY และ ทรงตัว QoQ) กำไรหลักเป็นไปตามคาด และปลายปีนี้เปิดมอลล์ใหม่ 2 แห่ง จะเปิดตามแผนหนุนการเติบโตให้กำไรปี 2019 ปัจจุบันหุ้นเทรด PE 12.1 เท่า ให้ส่วนลดจากค่าเฉลี่ยในอดีตถึง 0.5SD เราแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเปาหมายพื้นฐาน 10.30 บาท
GOLD: Earnings forecast upgrade
เราปรับกำไรปี 2018 (Oct 2017-Sep 2018) - 2019 (Oct 2018-Sep 2019) ขึ้น 12% และ 9% ตามลำดับ เพราะรายได้อสังหาฯมีแนวโน้มมากกว่าคาด สำหรับมาตรการคุมสินเชื่ออสังหาของแบงค์ชาติ เรามองว่า GOLD แทบจะไม่ไดรับผลกระทบเลย เพราะบริษัทไม่ได้ทำคอนโดเลย และมีบ้านในแบบที่น่าจะเป็นบ้านหลังที่2 เพียงแค่ 12% ของพอร์ต และสำหรับปันผลเราคาดจะจ่ายได้ 5% (XD ในเดือนธันวาคม จ่ายเร็วที่สุดในกลุ่มอสังหาฯ) เราปรับราคาเปาหมายขึ้นเป็น 12 บาท แนะนำ ซื้อ
TU: Obvious core earnings recovery in play
เรามองว่ากำไรจะยังคงมีโมเมนตัมที่ดีใน 4Q18-2019 หนุนโดยราคาขายที่ฟืนตัว, ราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ทรงตัวมากขึ้น, การควบคุมต้นทุนที่ทำได้อย่างต่อเนื่อง และจะไม่มีการขาดทุนของธุรกิจแซลมอนใน US ตั้งแต่ปี 2019 โดยเรามองว่าอัพไซด์ต่อประมารการกำไรในระยะยาวจะมาจากการรุกเข้าสุ่ตลาดจีน และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาใหม่ในปี 2019 เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเปาหมาย 22.50 บาท
หุ้นมีข่าว
(+) SEAFCO บลจ.กรุงไทย เก็บหุ้น 0.18% ถือเพิ่มเป็น 5.07% (ที่มา กลต.)
(+) CENTEL AOT ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเลิกการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม วีซ่าเมื่อมาถึง (Visa On Arrival) จากเดิมที่ให้มีการเก็บอัตราค่าธรรมเนียม ประเภทนักท่องเที่ยว ชนิดใช้ได้ครั้งเดียว จำนวนเงิน 2,000 บาท โดย ให้ยกเลิกการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าวเป็นการชั่วคราว ถึงสิ้นเดือนมกราคม 2562 เป็นเวลา 60 วัน (ที่มา ASPEN)
(*) กลุ่มบริษัทผู้ผลิตพลังงานชีวภาพ BBGI และเป็นบริษัทในกลุ่ม บริษัท บางจากคอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) (BCP) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัญหาราคาน้ำมันปาล์มตกต่ำในปัจจุบัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันไบโอดีเซลใกล้เคียงกับราคาน้ำมันดีเซลหน้าโรงกลั่น ที่ไม่รวมภาษีและกองทุนต่าง ๆ ดังนั้นการเพิ่มสัดส่วนการผสมน้ำมันไบโอดีเซลให้มากขึ้นจากปัจจุบัน ในสัดส่วนร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 10 หรือร้อยละ 20 จะไม่ทำให้มีผลกระทบด้านราคาต่อผู้บริโภค ทั้งนี้ภาครัฐควรเร่งกำหนดคุณสมบัติน้ำมันไบโอดีเซลเพื่อรองรับสัดส่วนการผสมที่จะเพิ่มขึ้นในส่วนของ BBGI มีความพร้อมในการปรับกระบวนการผลิตเพื่อรองรับคุณสมบัติของน้ำมันไบโอดีเซลที่จะเปลี่ยนไป (ที่มา ASPEN)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
Trend Forecasting
SET Index ปิด 1669.33(-0.07%) มูลค่าการซื้อขาย 3.9 หมื่นล้านบาท
Fibonacci ratio a magic number..
ตัวเลข Fibonacci ratio ใช้หาแนวรับ-ต้านได้ถูกต้องแม่นยำหรือไม่....
เรามาประมวลผลสิ่งที่เคยวิเคราะห์ว่ามีสิ่งใดถูกต้องและสิง่ใดที่ไม่เป็นไปตามคาด
1.ดัชนีฟื้นตัวขึ้น ขณะที่ค่า RSI เริ่มฟื้นตัวขึ้นจากกรอบล่าง Oversold ได้ตามคาด
2.โครงสร้างของอ่อนตัวลงแต่สามารถยืนไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ได้ ก็อาจเป็นสิ่งยืนยันว่าตลาดได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว
3.ค่าเงินดอลลาร์ขึ้นทดสอบจุดต้านสำคัญที่ 3.2% อย่างไรก็ตาม MACD เกิดสัญญาณเตือนช่วงปลายทาง Bearish divergence ดังนั้นสัปดาห์นี้จับตาหากค่าเงินดอลลาร์เริ่มปรับลงในทางตรงกันข้ามสกลุเงินเอเชียแข็งค่าขึ้น นอกจากนี้ตลาดหุ้นภูมิภาคมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้เช่นเดียวกัน
4.หุ้นแนะนำพอร์ตทางเทคนิคประจำเดือนต.ค.ถึงปัจจุบันให้ผลตอบแทนน้อยกว่าตลาด
สรุป:ผลการวิเคราะห์แนวโน้มตลาดฟืนตัวขึ้นได้ตามคาดแต่การเลือกหุ้นยังไม่ถูกต้อง แนะจับตาดัชนีที่แนวต้าน 1680 จุดเนื่องจากผลตอบแทนตลาดปรับตัวขึ้นมาแล้วทั้งสิ้น 50% ขณะที่ชาร์ตค่าเงินดอลลาร์จะเป็นตัวบ่งชี้กระแสเงินลงทุนไหลเข้าออก
แนวโน้มตลาด: ตัวเลข Fibonacci ratio 38.2% แสดงกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1665-1685 จุด กรณีทะลุกรอบบนจะขึ้นสู่แนวต้านถัดไปที่ 1700 และ 1730 จุด ตามลำดับ
ตลาดพักตัวเราจะเลือกซื้อหุ้นอะไร? 1. สัญญาณแข็งแกร่งกว่าตลาด เช่น ตลาดพักตัว ขณะที่หุ้นที่แข็งแกร่งด้านราคาจะมีโอกาสสร้างกำไรได้ดีกว่า 2. หุ้นที่สามารถยืนปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยกลางเลือกใช้ 5&25-days EMA 3.Indicator ขึ้นไม่มาก ค่า RSI ไม่ควรสูงกว่า 70 4.ใช้จุด Stop loss หากไม่เป็นไปตามคาด
Technical screen bull signal: SCC, SAWAD, BWG
Port หุ้นคงเหลือ: KKP,PTTEP, IVL ,AOT, CENTEL, BEAUTY
แนวโน้มระยะสั้นมอง SET Index แนวรับ 1,660 แนวต้าน 1,680 / SET100 รับ 2435 ต้าน 2455
BSET100 รับ 10.65 ต้าน 10.85 / BMSCITH รับ 12.35 ต้าน 12.55
Track with Technical
SCC
แนะนำ:ซื้อ
เป้าหมาย: 450.00
Stop loss < 420.00
เหตุผล: หุ้นกลับขึ้นมายืนปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลางได้อย่างแข็งแกร่ง หนุนด้วยเครื่องมือวัดโมเมนตัม MACD บ่งชี้สัญญาณกลับตัว
SAWAD
แนะนำ:ซื้อ
เป้าหมาย:52.00
Stop loss <45.00
เหตุผล: หุ้นขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ 48 บ. กรณีทะลุผ่านจะส่งผลให้โครงสร้างระยะกลางเปลี่ยนเป็นขาขึ้น ขณะที่ MACD บ่งชี้รูปแบบกลับตัว
BWG
แนะนำ:ซื้อ
เป้าหมาย:1.45-1.50
Stop loss <1.20
เหตุผล: ราคาทะลุจุดต้านสำคัญ 1.20 บ่งชี้การเปลี่ยนเป็นโครงสร้างเป็นขึ้น หนุนด้วยวอลุ่มเพิ่มสูงขึ้นอยางมีนัยสำคัญ