เมื่อวานที่ผ่านมา SET ผันผวนสูง โดยมีแรงซื้อกลุ่มปตท. นำโดย PTT, PTTEP, PTTGC  และกลุ่มท่องเที่ยวอย่าง AOT ภายหลังครม.อนุมัติฟรีค่าธรรมเนียม Visa อย่างไรก็ตามกลุ่ม ICT ยังคงเผชิญกับแรงขายอย่างต่อเนื่องนำโดย ADVANC, DTAC และกลุ่มโรงกลั่นอย่าง TOP, SPRC ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,669.3 จุด (-1.25 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 3.9 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 3.7 หมื่นลบ. 

          นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 ที่ 2,165 ล้านบาท แต่กลับมาเปิดสถานะ Short SET50 index future สุทธิ 5,075 สัญญา 

 

          เช้านี้ทราบผลการเลือกตั้งส.ส. ในเช้าวันนี้ คาดจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการของการเลือกตั้งส.ส. 435 คน สหรัฐ (จากปัจจุบัน Democrat 193 คน และ Republican 236 คน) โดยผลสามารถออกได้ 3 รูปแบบ นั่นคือ 1) Republican ยังสามารถครองคะแนนเสียงส่วนมากทั้งสภาสูง (ส.ว.), สภาล่าง (ส.ส.) ซึ่งทำให้ Trump ยังมีอำนาจในการบริหารสูง แนะจับตาคือการผ่านร่าง Tax cut  2.0 และแผนการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีก 2.57 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งอาจเห็น Dollar  และ Bond yield ปรับขึ้น ถือเป็นความเสี่ยงต่อการลงทุนใน EM รวมถึง SET INDEX โดยเราประเมินกรอบ SET ที่บริเวณ 1,620จุด +/- แนะทยอยสะสม TPIPP, GPSC, DIF และ TU และ 2) หาก Democrat สามารถพลิกมาครองคะแนนเสียง คาดว่าอาจทำให้แผน Tax cut 2.0 และการปรับขึ้นวงเงินภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นไปด้วยความลำบาก ในขณะที่ Trump อาจจะโดนสอบสวนในหลายๆ คดีได้ง่ายขึ้น และการผ่านร่าง Debt ceiling เป็นไปด้วยความลำบาก ประเมิน Dollar อาจชะลอการแข็งค่า ในขณะที่ Bond yield อาจแกว่งตัวในกรอบเพราะนโยบาย FED ยังคง Hawkish ประเมินกรอบการแกว่งตัว SET บริเวณ 1,685-1,700 จุด แนะเก็งกำไรกลุ่ม Logistic ,PTTEP และ 3) Democrat พลิกกลับมาชนะทั้ง 2 สภา โดยเราให้น้ำหนักกับผลค่อนข้างน้อย

          Investment Theme:  สำหรับกรอบ SET เดือนนี้ประเมินค่อนข้างลำบากจากหลาย Event play ที่ยากต่อการคาดผลลัพธ์ อย่างไรก็ตาม เราคาดกรอบการแกว่งตัวที่ 1,620-1,685 จุด โดยแนะสะสม BEM, GPSC, MACO, CPN 

 

          เมื่อคืนที่ผ่านมา สภาผู้ส่งออก (สรท.) คาดตัวเลขส่งออกปีหน้าประเทศไทยเติบโต 5% และปีนี้เติบโต 8% / ครม.ยกเลิกค่าธรรมเนียม Visa จำนวน 2,000 บาท มีผล 1 ธ.ค.- ม.ค. 62  สำหรับนักท่องเที่ยว 21 ประเทศ/ เยอรมันรายงาน PMI ภาคบริการต่ำสุดในรอบ 3 เดือนที่ 54.7 / Dollar กลับมาอ่อนค่าอีกครั้งที่ 95.9 

 

          Trading idea - ทยอยสะสม SF ราคาเป้าหมาย 10.60 บาท โดยรายงานกำไรจากการดำเนินงานเติบโต 18%QoQ, 16%YoY ที่ 157 ล้านบาท สนับสนุนจาก Mega Bangna ที่มีการปรับขึ้นค่าเช่า และขยายพื้นที่บริการ ในขณะที่คาดกำไร Q4 เติบโตอย่างต่อเนื่องจาก High season อีกทั้งเปิดโครงการนางลิ้นจี่ Phase2 และ Dusit marketplace /  ทยอยสะสม BEM โดยเราให้เป็น Stock pick  ของเดือนพ.ย. คาดกำไร Q3 (ประกาศวันที่ 9 พ.ย.) ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทั้ง Core, Net profit ในขณะที่คดีความต่างๆ เริ่มถูกตัดสินเช่น คดีค่าผ่านทาง, ทางด่วนทับซ้อน คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากคดีความทั้งหมด 2.8 หมื่นล้านบาท  แนะนักลงทุนจับตาการเจรจาสัมปทานคาดเกิดขึ้นใน 1Q19 เรามีมุมมองเชิงบวก แนะซื้อ 9.00 บาท

 

          หากหลุด 1665 Downside จะเปิดมากขึ้น มองแนวรับถัดไปที่ 1645 :  ดัชนีเปิด Gap โดดขึ้นจากแรงซื้อหลักของหุ้นกลุ่มพลังงาน จากนั้นตลอดทั้งวันแกว่ง Sideway Down และปิดที่ Low ระยะสั้นมองว่าดัชนีจะมีความเสี่ยงหากปรับตัวหลุดแนวรับที่ 1665 ซึ่งจะทำให้แนวโน้มหลักเปลี่ยนจากการแกว่ง Sideway กลับเป็นขาลงอีกรอบหนึ่ง และจะมีแนวรับถัดไปที่ 1645 และ 1620 ตามลำดับ โดยหากดัชนีหลุด 1665 แนะนำให้ Lock Profit และชะลอการเก็งกำในระยะสั้น เพื่อรอดูแนวโน้มที่แนวรับถัดๆไป

          กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : หากหลุด 1665 แนะนำ Lock Profit หรือ Stop Loss และรอดูแนวโน้มที่แนวรับถัดๆไป หรือหากเกิดแรง Rebound ระหว่างวันแนะนำขายทำกำไรเพื่อถือเงินสด 2)  ไม่มีหุ้น : หากหลุด 1665 แนะนำชะลอการลงทุน เนื่องจาก Downside เปิดมากขึ้น แต่หากไม่หลุดยังมองกรอบการแกว่ง 1665-1685

          แนวรับ : 1645, 1665 แนวต้าน : 1675, 1685

 

          ปัจจัยต่างประเทศ:  -

          ปัจจัยในประเทศ:   PTT เตรียมหารือจะแบกรับค่าใช้จ่ายที่ภาครัฐเสนอลดราคาน้ำมันปลีก 3  บาท/ลิตร

 

          BBL  (B 210.00-213.00, Tp 220.00//215.00, Cut 208.00)

          STEC (B 24.00-24.40, Tp 25.50//27.00, Cut 23.80)

 

 

SIRI ทุ่มงบลงทุน 1.9 พันล้าน เข้าซื้อหุ้น Standard International 35% (ข่าวหุ้น) 

          "แสนสิริ" ทุ่มงบ 1,900 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้น "Standard International" จำนวน 35% เพื่อรุกขยายธุรกิจโรงแรม หวังสร้างรายได้ประจำ มั่นใจช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้บริษัทในอนาคต

          ความเห็น : เรามองเป็นกลางต่อประเด็นนี้ เนื่องจากการลงทุนครั้งนี้ในช่วงต้นยังเป็นการแบ่งผลขาดทุน อย่างไรก็ตาม SIRI มองว่าธุรกิจโรงแรมและ Application การจองโรงแรมจะเป็นส่วนเติมเต็มให้กับฐานลูกค้า SIRI และเพิ่ม Brand Value ได้ซึ่งเรามองว่าเป็นเรื่อง Long Term ที่ยังไม่ผลต่อประมาณการกำไรพื้นฐานของ SIRI ในปี 2561-2562 และคงคำแนะนำเดิมที่ ถือ ราคาเป้าหมาย 1.62 บาท/หุ้น เทคนิคยังแกว่งลง แนวรับสำคัญ 1.5 บาท

 

TSTH หั่นเป้าปริมาณขายเหล็ก ปี 62 เหลือ 1.21-1.25 ล้านตัน (ข่าวหุ้น) 

          TSTH ย้ำงบครึ่งปีหลังโตกว่าครึ่งปีแรก รับฤดูกาลการขาย-ภาครัฐผลักดันโครงการขนาดใหญ่ออกมามากขึ้น ปรับลดเป้าปริมาณขายปี 62 เหลือ 1.21-1.25 ล้านตัน ทุ่มงบ 200 ล้าน ลงทุนโซลาร์รูฟท็อป 3 โรงงาน สรุปรูปแบบลงทุนสิ้นปี 61

          ความเห็น : ผู้บริหาร TSTH ได้ปรับลดเป้าหมายลงเป็นครั้งที่สอง จากความต้องการเหล็กเส้นในประเทศที่ซบเซา  แนวโน้มผลประกอบการ 3Q61/62 (ต.ค.-ธ.ค. 2561) คาดจะยังไม่เด่น  จากโครงการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลยังมีความล่าช้า  ปัญหาต้นทุน Graphite Electrode มีราคาแพง  แต่ราคาหุ้นซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชี 1.1 บาท มาก แนะนำ ถือ รอสัญญาณฟื้นตัว

 

เปิดแผนเซ็นทรัลต่อยอดจีแลนด์ เชื่อมทำเลทอง'ค้าปลีก-อสังหา' (ประชาชาติธุรกิจ) 

          แม่ทัพ "เซ็นทรัลพัฒนา" เปิดแผนลงทุนรอบใหม่หลังซื้อจีแลนด์ เดินเกมบุกค้าปลีก-อสังหาฯเต็มรูปแบบ กางแลนด์แบงก์แปลงยักษ์ พระราม 9-พหลโยธิน (ลาดพร้าว) 2 ทำเล "ยุทธศาสตร์" ของกลุ่มเซ็นทรัล ซินเนอร์ยี่การเติบโตอนาคต ชี้บิ๊กดีลคุ้มค่าการลงทุน เตรียมรีวิวโครงการยักษ์ "ซูเปอร์ทาวเวอร์"

          ความเห็น : ผลสรุปการทำ Tender Offer หุ้น GLAND ได้ 17.1% ทำให้ CPN ถือหุ้น GLAND รวมเป็น 67.53% โดยจะมีการพิจารณาแผนลงทุนบนพื้นที่บริเวณพระราม 9 และพหลโยธินซึ่งคาดจะเป็นโครงการแบบ Mixed use สนับสนุนการเติบโตของ CPN ในระยะยาว แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 89 บาท เทคนิค sideway แนวรับ 76 ต้าน  80 บาท  

 

MTC กำไรโตสนั่น48% สินเชื่อใหม่วิ่งเข้าเป้า "ชูชาติ"มั่นใจไตรมาส 4 กำไรทะลุพันล้าน (ข่าวหุ้น) 

          เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) ผลประกอบการไตรมาส 3/61 มาตามนัด! ลูบปากรับกำไร 965 ล้านบาท โต 48.46% ทำนิวไฮต่อเนื่อง ส่งผล 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย.) เป๋าตุงแล้ว 2,711 ล้านบาท พุ่ง 54% สินเชื่อใหม่ขยายตัวเข้าเป้า 2.13 หมื่นล้านบาท พร้อมคุมหนี้เสียระดับต่ำ 1.26% ด้าน "ชูชาติ" มั่นใจ ไตรมาส 4 กำไรยังสนั่นทุ่งพุ่งเกิน 1 พันล้านบาท วันที่ 13 พ.ย.นี้ลุ้นเข้า MSCI ต่อ

          ความเห็น :  แม้บริษัทรายงานกำไรออกมาตามคาด แต่ส่วนหนึ่งมาจากการตั้งสำรองที่ลดลงและการลดค่าใช้จ่าย SG&A แทน  ขณะที่เราเริ่มเห็นสัญญาณลบข้างหน้า จากการเติบโตที่น้อยลงของพอร์ตสินเชื่อ (Loan growth) และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM)  สวนทางกับ %NPL ที่  1.26% เร่งตัวขึ้น +9bps เทียบไตรมาสก่อน มองราคา MTC  ได้ตอบรับข่าวดีไปมากแล้วทั้งเรื่อง พรบ. Non-bank  และการเติบโตของกำไรบนระดับ P/E 36X ณ ปัจจุบัน  ในเชิงกลยุทธ์เป็นจังหวะที่ควร take profit มากกว่าเข้าลงทุนใหม่  

 

MACO โชว์งบ 9 เดือนโตแกร่ง กำไรพุ่ง 183 ล้าน จับตา Q4 เข้าไฮซีซั่นโฆษณา (ข่าวหุ้น) 

          MACO โชว์ 9 เดือนแรกกำไรโตแกร่ง 183 ล้านบาท หลังงบไตรมาส 3 ฟันกำไรสวย 68 ล้านบาท รับผลบวกควบรวมงบการเงิน "ทรานส์ แอด-Roctec" มั่นใจไตรมาส 4 โตต่อเนื่องเข้าไฮซีซั่นสื่อโฆษณา

          ความเห็น : ผลกำไรออกมาที่ 68 ลบ. หดตัว -9% QoQ ตามที่มองไว้ แต่ยังขยายตัวได้ +14% YoY โดยกำไรถือว่า ต่ำกว่าคาดของเรา 8% หลักๆ เกิดจากอัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนกว่าคาด โดยในไตรมาสนี้ MACO ได้รับผลกระทบจาก การรวมงบบริษัทลูก Trans Ad. (และ Roctech) มาในช่วงสิงหาคม ซึ่งทั้ง 2 มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่า MACO ผนวกกับรายได้เฉพาะสื่อ 262 ล้านบาท อ่อนตัว -6% QoQ เนื่องจากผู้ซื้อสื่อยังชะลอการใช้สื่อเพื่อไปเน้นในไตรมาสสุดท้าย อย่างไรก็ดีคาด 4Q61 จะกลับมาขยายตัวยได้ทั้ง QoQ และ YoY ดังนั้น คงคำแนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 2.54 บาท เทคนิคแกว่งในกรอบ 1.5-1.65 บาท

 

 

          กระแสเงินทุนต่างชาติ - กระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออก มีอินโดนีเซีย และไทยที่ไหลออกเล็กน้อย ทางด้าน TFEX พลิกกลับมา Short สุทธิใน SET50 Futures 5,075 สัญญา และ Short สุทธิใน Single Stock Futures ที่ 3,236 สัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ ซื้อสูงถึง 5,819 ล้านบาท

          ธุรกรรม Short Selling - ปริมาณ Short Selling เพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 939.75 ล้านบาท นำโดย ADVANC, PTTEP, CPALL, BEAUTY และ KBANK ตามลำดับ

          การซื้อขาย NVDR - ปริมาณการซื้อ NVDR หนาแน่นกว่าฝั่งขาย นำโดย AOT, PTT, KBANK, PTTGC และ PTTEP ส่วนฝั่งขาย นำโดย INTUCH, TOP, KCE และ BH พลิกกลับมาขาย ตามด้วย SPRC