" Democrat or Republican "                               

          ตลาดหุ้นเมื่อวานนี้ :SET Index วานนี้ปรับตัวลง -11.26 จุด (-0.67%) ปิดที่ 1,670 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบางเพียง 3.8 หมื่นล้านบาท เนื่องจากนักลงทุนลดความเสี่ยงก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ ประกอบกับความกังวล FED จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง นอกจากนี้ยังมีแรงขายกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงซึ่งกดดันต่อดัชนี ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาซื้อสุทธิเล็กน้อย 142 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 611 ล้านบาท อีกทั้ง Net Long TFEX 3,226 สัญญา 

          แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: มุมมองเป็นกลาง - บวก คาดดัชนีรีบาวด์ทดสอบ 1,675 - 1,680 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว จาก sentiment เชิงบวกตลาดหุ้นสหรัฐและภูมิภาคเอเชียที่รีบาวด์ขึ้น รวมถึงความคาดหวังการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในการประชุมนอกรอบ G20 ในวันที่ 30 พ.ย. - 1 ธ.ค.  อย่างไรก็ตามคาดว่าการดีดตัวจะอยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนจะชะลอการซื้อขายเพื่อรอผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐในวันนี้ (รู้ผลพรุ่งนี้ 7 พ.ย.) โดยล่าสุดโพลเอ็นบีซี นิวส์ระบุว่าพรรค Democrat มีคะแนนนำพรรค Republican อยู่ 7% ที่ 50% ต่อ 43% และคาดว่าพรรค Republican จะครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ส่วนพรรค Democrat จะครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมองลบเล็กน้อยต่อภาวะการลงทุน แต่หากพรรค Republican ครองเสียงข้างมากได้ทั้ง 2 สภา จะเป็นบวกต่อทิศทางการลงทุน เนื่องจากรัฐบาลมีแนวโน้มออกมาตรการปรับลดอัตราภาษีต่อไป ในทางกลับกันหากพรรค Democrat ครองเสียงข้างมากทั้ง 2 สภา จะเป็นลบต่อภาวะการลงทุน เนื่องจากการผ่านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์ จะเป็นไปอย่างลำบาก 

 

          - ทยอยสะสมหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการ 3Q18 จะออกมาดี MTC, SAWAD, ROBINS, ANAN, SVI, BCH, CHG, CKP, EA, GULF, PYLON และ STA 

          - กลุ่มรับเหมา (STEC, SEAFCO) นิคมฯ (AMATA) รับผลบวกจากการเลือกตั้ง และรัฐบาลอนุมัติโครงการขนาดใหญ่ใน EEC 5 โครงการวงเงิน 6.5 แสนลบ. 

          - กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL, MINT, ERW) ทยอยสะสมคาดได้ผลบวกจากภาครัฐเตรียมออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว (ฟรีวีซ่า ออน อาร์ไรวัล) ในช่วงเดือน พ.ย. ถึง ม.ค. 

          หุ้นแนะนำวันนี้: CENTEL (ปิด 41.5 ซื้อ/เป้า 45) เก็งกำไรก่อนภาครัฐเตรียมออกมาตรการกระตุ้นนักท่องเที่ยว (ฟรีวีซ่า ออน อาร์ไรวัล) ในสัปดาห์หน้า ด้านผลประกอบการ 3Q18 คาดมีกำไรสุทธิ 427 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 16%yoy, STA (ปิด 18.8 ซื้อ/เป้า 22) คาดกำไรสุทธิ 3Q18 จะเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนจากแรงหนุนของธุรกิจถุงมือยางที่มีกำไรมากขึ้น โดยราคานี้ยังไม่ได้สะท้อนภาพรวมธุรกิจที่มีอยู่ (ยางธรรมชาติ 4 บาท และถุงมือยาง 18 บาท),ROBINS (ปิด 67.25 ซื้อ/เป้า 76) คาดกำไรสุทธิ 3Q18 ประมาณ 689 ล้านบาทเพิ่มขึ้น13%yoy จาก SSSG ที่กลับมาเป็นบวก 0.5% เทียบกับที่หดตัว 0.1% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ระยะกลางได้ Sentiment บวกจากการเลือกตั้งหนุนยอดขายโตต่อเนื่อง

          Top picks ปีนี้ : ANAN, BBL, CPALL, MTC, ROBINS และ SPALI  

          KSS report วันนี้ : GPSC (ปิด 56.5 ถือ/เป้าใหม่ 62 จาก 72), IRPC (ปิด 6.15 ซื้อ/เป้า 8), Contractor sector  (Top pick : STEC) 

 

          (+/-) เลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐคืนนี้ออกได้หลายหน้า โดยแนวทางที่เป็นไปได้มากสุดคือDemocrat ชนะสภาล่าง และRepublican ชนะสภาสูง : ตลาดยังรอความชัดเจนต่อผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐที่จะมีขึ้นในคืนวันนี้และน่าจะทราบผลอย่างเป็นทางการในช่วงเช้าของวันถัดไป โดยโพลส่วนใหญ่คาดว่าDemocrat มีโอกาสชนะการแข่งขันในส่วนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร หรือ สภาล่าง โดยโพลสำรวจ พบว่า Democrat มีคะแนนนำ 50 : 43 ขณะที่โพลยังเชื่อมั่นว่าRepublican จะยังครองเสียงข้างมากในส่วนของวุฒิสภาหรือสภาสูงไว้ได้ ซึ่งหากผลเลือกตั้งเป็นไปตามคาดการณ์ของโพลส่วนใหญ่คาดว่าตลาดหุ้นสหรัฐจะตอบรับในทางลบแต่คาดว่าจะไม่รุนแรงและจะเกิดขึ้นในช่วงสั้นเพราะตลาดส่วนใหญ่รับรู้อยู่แล้วตามผลโพลที่สำรวจ 

          (-) Bond yield 10 ปี ของสหรัฐกลับมาสูงขึ้นใกล้แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีอีกครั้ง อาจเป็นปัจจัยลบกดดันสินทรัพย์เสี่ยงอีกรอบ : ล่าสุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US bond yield) 10 ปีของสหรัฐกลับมาเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.2% ใกล้แตะระดับ 3.27% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีอีกครั้ง เป็นเพราะนักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดอาจเร่งขึ้นดอกเบี้ยภายหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาอย่างแข็งแกร่ง อาทิ ตัวเลขจ้างงานภาคการเกษตรเพิ่มขึ้นเกินคาด, อัตราการว่างงานต่ำสุดในรอบ 49 ปี ที่ระดับ 3.7% ค่าจ้างต่อชั่วโมงเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเกิน 3% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์  

          (+/-) ประชุมครม.วันนี้ลุ้นอนุมัติมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีเป็นบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว Top Pick : MINT, CENTEL : เรายังคาดหวังว่าในวันนี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะนำมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเข้าเสนอที่ประชุม ครม.เพื่ออนุมัติ ก่อนเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นในช่วงปลายปี และชดเชยผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนที่ชะลอตัว อาทิ มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on arrival)