- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 06 November 2018 22:39
- Hits: 3143
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET เผชิญกับแรงขายตามภูมิภาค โดยหุ้นกลุ่มพลังงานมีแรงขายเด่น นำโดย PTT, PTTEP และหุ้นใหญ่อย่าง ADVANC ยังถูกขายอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กลุ่มธนาคารอย่าง KBANK, SCB, KTB เช่นกัน อย่างไรก็ตามมีแรงซื้อเด่นใน TU ภายหลังรายงานกำไรจากการดำเนินงานสูงกว่าคาด 23% สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,670.5 จุด (-11.2 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 3.7 หมื่นลบ. ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 6.0 หมื่นลบ.
นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยครั้งแรกในรอบ 23 วัน ที่ 141 ล้านบาท พร้อมกลับมาเปิดสถานะ Long SET50 index future สุทธิ 3,226 สัญญา
Investment theme
ผลการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐยังมีความไม่แน่นอน ในคืนวันนี้สหรัฐจะมีการเลือกตั้งกลางเทอม (ทราบผลเช้าวันพุธ 9.00-10.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) ของจำนวนส.ส. 435 คน และส.ว.จำนวน 35/100 คน โดยผลสามารถออกได้ 3 รูปแบบ นั่นคือ 1) Republican ยังสามารถครองคะแนนเสียงส่วนมากทั้งสภาสูง (ส.ว.), สภาล่าง (ส.ส.) ซึ่งทำให้ Trump ยังมีอำนาจในการบริหารสูง แนะจับตาคือการผ่านร่าง Tax cut 2.0 และแผนการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีก 2.57 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งอาจเห็น Dollar และ Bond yield ปรับขึ้น ถือเป็นความเสี่ยงต่อการลงทุนใน EM รวมถึง SET INDEX และ 2) หาก Democrat สามารถพลิกมาครองคะแนนเสียง (ต้องการจำนวนเสียงเพิ่มมากกว่า 23 เสียง จากปัจจุบันที่ 193 เสียง เพื่อกลับมาครองเสียงส่วนมากในสภา) คาดว่าอาจทำให้แผน Tax cut 2.0 และการปรับขึ้นวงเงินภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นไปด้วยความลำบาก ในขณะที่ Trump อาจจะโดนสอบสวนในหลายๆ คดีได้ง่ายขึ้น และการผ่านร่าง Debt ceiling เป็นไปด้วยความลำบาก ประเมิน Dollar อาจชะลอการแข็งค่า ในขณะที่ Bond yield อาจแกว่งตัวในกรอบเพราะนโยบาย FED ยังคง Hawkish และ 3) Democrat พลิกกลับมาครองเสียงส่วนมากทั้ง 2 สภา ซึ่งถือเป็น Case ที่มีความเป็นไปได้น้อย และหากได้จำนวนส.ว.มากกว่า 2/3 คาดตลาดหุ้นผันผวนสูงเนื่องจากโอกาสการถอดถอน
Investment Theme: สำหรับกรอบ SET เดือนนี้ประเมินค่อนข้างลำบากจากหลาย Event play ที่ยากต่อการคาดผลลัพธ์ อย่างไรก็ตาม เราคาดกรอบการแกว่งตัวที่ 1,620-1,685 จุด โดยแนะสะสม BEM, GPSC, MACO, CPN
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา จีนรายงาน Caxin - PMI ภาคบริการเดือนต.ค.ลดลงต่ำสุดในรอบ 13 เดือน ที่ 50.8 (จากระดับ 53.1 ในเดือนก่อน) / ม.หอการค้าเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับลดลงเป็นเดือนที่ 2 ที่ 81.3
Stock pick : -
Trading idea - เก็งกำไร STANLY ราคาเป้าหมาย 300.00 บาท โดยรายงานผลประกอบการ 505 ล้านบาท (+31%YoY,+28%QoQ) สนับสนุนจากยอดขายรถที่สูงกว่าอุตสาหกรรมที่ 11% (อุตสาหกรรมเติบโต 3.9%)และ Margin ที่สูงขึ้นเป็น 18.1% (จาก 17.4% ในไตรมาสก่อน) / ทยอยสะสม BEM โดยเราให้เป็น Stock pick ของเดือนพ.ย. คาดกำไร Q3 (ประกาศวันที่ 9 พ.ย.) ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทั้ง Core, Net profit ในขณะที่คดีความต่างๆ เริ่มถูกตัดสินเช่น คดีค่าผ่านทาง, ทางด่วนทับซ้อน คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากคดีความทั้งหมด 2.8 หมื่นล้านบาท แนะนักลงทุนจับตาการเจรจาสัมปทานคาดเกิดขึ้นใน 1Q19 เรามีมุมมองเชิงบวก แนะซื้อ 9.00 บาท
Technical View
ระยะสั้นไม่หลุด 1665 ยังคาดหวังการฟื้นตัวต่อเนื่องแบบ V-Shape : ดัชนีปรับตัวลงจากแรงขายหุ้นกลุ่มสื่อสาร พลังานและค้าปลัก ทำให้ดัชนีอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับ 1665 แต่ยังมีแรงซื้อกลับภายในวัน ระยะสั้นหากไม่หลุด 1665 ยังคาดหวังการฟื้นตัวแบบต่อเนื่องในลักษณะ V-Shape ได้ แนะนำพิจารณาแนวต้านเป็นขั้นๆที่ 1680 และ 1705 สำหรับระยะยาวหากผ่าน 1705 จะเริ่มกลับมามองเป็นขาขึ้นอีกครั้ง มองกรอบการเทรดภายในวันที่ 1665-1680/1705
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : Trading ในกรอบ 1665-1680/1705 เน้นขายทำกำไรแนวต้านต่างๆเพื่อเล่นรอบ หากหลุด 1665 แนะนำ Lock Profit หรือ Stop Loss 2) ไม่มีหุ้น : จังหวะอ่อนตัวหากไม่หลุด 1665 มองเป็นโอกาสซื้อเพื่อเล่นรอบในกรอบ 1665-1680/1705
แนวรับ : 1645, 1665 แนวต้าน : 1680, 1705
Keep an eye on…
ปัจจัยต่างประเทศ: 6 พ.ย. การเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐ
ปัจจัยในประเทศ: PTT เตรียมหารือจะแบกรับค่าใช้จ่ายที่ภาครัฐเสนอลดราคาน้ำมันปลีก 3 บาท/ลิตร
หุ้นเทคนิค:
SAWAD (B 45.00-46.00, Tp 48.00//50.00, Cut 44.50)
HMPRO (B 14.50-14.70, Tp 15.50//16.00, Cut 14.30)
ข่าวเด่นเช้านี้
TU รับงบไตรมาส 3 หด กำไรเหลือ 1,310 ล้าน เหตุบุ๊กด้อยค่าสินทรัพย์ (ข่าวหุ้น)
TU แจ้งไตรมาส 3/61 มีกำไรสุทธิ 1,310 ล้านบาท ลดลง 23.90% ฉุดกำไร 9 เดือนแรกเหลือ 2,189 ล้านบาท ลดลง 52.16% ระบุมีบุ๊กด้อยค่าของสินทรัพย์มูลค่า 420 ล้านบาท รวมถึงค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น
ความเห็น : กำไรสุทธิ 3Q61 ลดลงจากการบันทึกขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์จากการปิดธุรกิจแซลมอนในสกอตแลนด์ แต่กำไรปกติดีกว่าคาด อัตรากำไรขั้นต้นสูงสุดในรอบ 9 ไตรมาสจากราคาปลาทูน่าลดลงและปรับราคาขาย แนวโน้มผลประกอบการฟื้นตัวต่อเนื่องโดยราคาปลาทูน่ามีเสถียรภาพมากขึ้น แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 20.60 บาท เทคนิคแกร่ง ต้าน 18/18.4 รับ 17.2 บาท
GFPT ทุ่มลงทุนปั๊มกำลังผลิตรุกส่งออกจีน (ทันหุ้น)
GFPT วางงบลงทุนในระยะ 4-5 ปี ที่ 4,000-5,000 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตโรงเชือดเพิ่มแตะ 450,000 ตัวต่อวัน เล็งสัดส่วนการส่งออกจีนปี 2562 เพิ่มมากกว่า 10% ระบุปัจจัยลบเริ่มคลี่คลายตั้งแต่ไตรมาส 3/2561 ส่องภาพรวมครึ่งปีหลัง 2561 คาดดีกว่าครึ่งปีแรก
ความเห็น : การขยายกำลังการผลิตเป็นไปตามแผนของบริษัท ขณะที่การส่งออกไก่ไปจีนซึ่งเริ่มในปีนี้ยังมีปริมาณไม่มากนักแต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ผลประกอบการ 3Q61 คาดว่าลดลง YoY จากฐานสูง แต่จะฟื้นตัวอย่างมีนัยยะ QoQ เนื่องจากเป็นไฮซีซั่น ราคาไก่เพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งจากบริษัทร่วมพลิกจากขาดทุนเป็นกำไร แนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 14.60 บาท เทคนิค sideway ในกรอบ 14.0-15.6 บาท
"อาคม" ชงครม.เคาะสร้างรถไฟฟ้า 2 สาย 6 ธ.ค.เปิดปากน้ำ-เชื่อมเซ็นทรัลนั่งส.ค.62 (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา)
"อาคม" ดันรถไฟฟ้า 2 โครงการสุดท้าย "สีแดง-ส้ม (ตะวันตก)" ในแผนแม่บท เสนอ "ครม.ประยุทธ์" อนุมัติเปิดประมูลก่อสร้าง รฟม.คาดเปิด TOR ประมูลสร้างและเดินรถสีส้ม ใน ก.พ.62 ปิดท้าย เปิดหวูดสายปากน้ำ 6 ธ.ค.นี้ ทดลองนั่งฟรี 4 เดือน ส่วนเขียวเหนือเปิด 1 สถานี (หมอชิต-เซ็นทรัล) ส.ค.62 แก้รถติดห้าแยก
ความเห็น : : โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก และ สายสีม่วงใต้ ยังมีความล่าช้า แต่ก็ยังเดินหน้า โดยเฉพาะโครงการ EEC ระยะเร่งด่วน รวม 5 โครงการ มูลค่ารวมถึง 6.5 แสนล้านบาท ครม.ได้อนุมัติแล้ว คาดจะยังช่วยหนุนกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เราแนะนำเก็งกำไรใน CK (เป้าหมาย 31 บาท) และ STEC (เป้าหมาย 29 บาท)
PTT ประเมินงบ 9 เดือน กำไรพุ่งทะยานแสนล้าน รับผลบวกบริษัทลูก 'PTTEP-PTTGC' โตเด่น (ข่าวหุ้น)
PTT จับตา 9 เดือนโกยกำไรพุ่ง 1 แสนล้านบาท คาดไตรมาส 3 กำไรทะยาน 3.7 หมื่นล้านบาท รับผลบวกงบบริษัทลูก "PTTEP-PTTGC" โตเด่น ขณะที่ผลกระทบภาษี PTTOR จำกัด ล่าสุด IRPC แจ้ง Q3 กำไรสุทธิหดเหลือ 2,560 ล้านบาท
ความเห็น : สอดคล้องกับประมาณการของเราที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้ โดยกำไรจาก PTTEP และ PTTGC จะเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการในไตรมาสนี้ ขณะที่ธุรกิจหลักมีแนวโน้มชะลอตัวลง แนะนำ ทยอยสะสม ราคาเป้าหมาย 58 บาท เทคนิค แนวรับสำคัญที่ไม่ควรหลุดคือ 48 ต้านสั้น 51 บาท
'จีพีเอสซี' ปิดซ่อมโรงไฟฟ้าฉุดผลดำเนินงานไตรมาส4 (กรุงเทพธุรกิจ)
GPSC แจ้งว่า ผลการดำเนินงาน ของบริษัทไตรมาส 4/2561 จะถูกกระทบจาก โรงไฟฟ้าศรีราชา จะมีการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนเกือบตลอดทั้งไตรมาส 4/ 2561 ส่งผลให้ค่าซ่อมบำรุงปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ รายได้ค่าความพร้อมจ่ายลดลง รวมถึงต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน แต่อัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (FT) งวดก.ย.ธ.ค. 2561 อยู่ที่ -15.90 สตางค์ต่อหน่วย แต่ยืนยันจะบริหารจัดการการผลิตให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดซึ่งจะทำให้ผลประกอบการอยู่ในระดับที่ดีเทียบกับปีก่อนได้
ความเห็น : แนวโน้มผลประกอบการ 4Q61 มีโอกาสชะลอตัวตามปัจจัยฤดูกาลและแผนหยุดซ่อมบำรุง แต่เรามองเป็นโอกาสทยอยสะสม เชิงปัจจัยพื้นฐาน เรากลับมาแนะนำ Trading Buy หลังราคาหุ้นอ่อนตัวลงแรงกว่า 30% จากสูงสุดในช่วงต้นปี 2561 ทำให้ Valuation น่าสนใจมากขึ้น พร้อมโอกาสเติบโตไปกับกลุ่ม PTT ที่ยังเป็นจุดเด่นที่สำคัญของ GPSC ราคาเป้าหมาย SOTP เท่ากับ 66 บาท เทคนิคแนวรับ 55 ต้าน 58 บาท
Go with the Flow : กระแสเงินทุนต่างชาติ / ธุรกรรม Short-Selling / NVDR
กระแสเงินทุนต่างชาติ - กระแสเงินทุนยังเป็นการไหลเข้า มีเพียงเวียดนามและไทยที่ไหลออกเล็กน้อย ทางด้าน TFEX พลิกกลับมา Long สุทธิใน SET50 Futures 3,226 สัญญา แต่ Short สุทธิใน Single Stock Futures ที่ 2,343 สัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ พลิกซื้อเล็กน้อย 611 ล้านบาท
ธุรกรรม Short Selling - ปริมาณ Short Selling ลดลงอยู่ที่ 772.81 ล้านบาท นำโดยกลุ่ม Big cap ได้แก่ PTTEP, KBANK, ADVANC, CPALL และ BBL ตามลำดับ
การซื้อขาย NVDR - ปริมาณการซื้อ NVDR หนาแน่น นำโดย BBL และพลิกซื้อ PTT, CPALL ส่วน AOT และ LH ยังซื้อต่อ ส่วนฝั่งขาย นำโดย KBANK, IVL, INTUCH, PTTEP และ KTB พลิกกลับมาขายเป็นวันแรกในรอบหลายวัน
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000