สิ้นสุด ฤดูมรสุม     

          กรมอุตุฯ ประกาศ 27 ต.ค.นี้ ไทย เข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ เราคาดว่า ตลาดหุ้นไทยก็จะผ่านพ้นฤดูมรสุมนี้ไป เฉกเช่นเดียวกัน ดังนั้น (ใครที่รับไปตลอดฤดูมรสุม ที่หุ้นตก) เตรียมรับรุ่งอรุณแห่งฤดูใหม่ เมื่อท้องฟาเปิด...    

          การลงมาของดัชนีฯ บริเวณ 1,600 จุด พบว่า Valuation yield gap ของตลาดหุ้นไทย กลับลงมาอยู่ในโซน ถูก ที่น่าเข้าลงทุน ซึ่งผ่านมา 10 ปี โซน Yield gap 3.7% ตรงนี้ เคยหลุดไปแค่ 2-3 ครั้ง คือช่วงปี 2010-11, 2015 ซึ่งที่ผ่านมาแทบไม่เคยหลุด ยกเว้นจะมีเหตุการณ์พิเศษ เช่น เกิดการปฏิวัติ, น้ำท่วมใหญ่, วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์     

          กลยุทธ์ คงแนะ จับพวงมาลัยไว้ให้แน่น แล้วประคองพอร์ตไปจนกว่าแรงขายฝรั่งจะจบลง (พ้นเดือน ตค.นี้ไป) อย่าเพิ่งด่วนขาย Short against port เพื่อมารับล่าง-สำหรับหุ้นที่เราแนะนำ ในพอร์ต  

          (+) Equity yield gap หุ้นไทย กลับลงมาบริเวณที่น่าลงทุน อีกครั้ง ตลาดหุ้นไทย แถว 1,600 จะสะท้อน Equity yield gap ราว 3.7% หรือ -0.2SD ซึ่งเป็นบริเวณ Support zone valuation ที่น่าเข้าซื้อ อิงค่าเฉลี่ย Earnings yield gap ไทยที่ 4% ซึ่งที่ผ่านมาแทบไม่เคยหลุด ยกเว้นจะมีเหตุการณ์พิเศษ เช่น เกิดการปฏิวัติ, น้ำท่วมใหญ่, วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์      

          (+) MS อัพเดท มุมมองเชิงลบต่อ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยคาดตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะรีบาวด์สั้นๆ ในลักษณะ Dead cat bounce เด้งเพื่อลงต่อ และแนะนำ หลีกเลี่ยงการเข้าซื้อหุ้น Growth, Tech, Discretionary  ซึ่งคาดว่า ราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าวจะ Underperform ดัชนีฯ S&P500 โดยคาดราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าว จะลงได้อีก 6-7% (-1SD) หรือ ลงอีก 15-20% ค่า PE ถึงจะลงแตะค่าเฉลี่ย Average PE 15 Yrs. 

          MS คาดการรีบาวด์ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในเร็วๆนี้ จะขึ้นได้ไม่ไกล และ กำลัง Peak out  โดยเหตุผลที่อยู่เบื้องหลัง ตลาดหุ้นสหรัฐฯขาลงรอบนี้ มาจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯที่กำลังชะลอตัว, กำไร บจ.สหรัฐฯ ขาลง สืบเนื่องจาก ต้นทุน (ดอกเบี้ย, ค่าจ้างแรงงาน, ราคาพลังงาน) ที่เพิ่มขึ้น      

          แต่ในส่วนของหุ้นไทย เรายังคงยืนยันมุมมอง ต่อการปรับฐานของตลาดหุ้นสหรัฐฯว่าจะมีผลกระทบต่อหุ้นไทยจำกัด และมีความเป็นไปได้ที่ตลาดหุ้นไทยจะ Decoupling ออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในระยะถัดไป           

หุ้นแนะนำ   

          ดูตารางจากบทวิเคราะห์ Thai Market Strategy