กลยุทธ์ : ความผันผวนของตลาดหุ้นโลก คาดน่าจะยังไม่จบ แต่ความรุนแรงน่าจะลดลง หลังดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐลงไปประมาณ -10% (วัดจากจุดสูงสุดในวันทึ่ 3 ต.ค. ถึงต่ำสุดวันที่ 24ต.ค.) คาดกันว่าความผันผวนที่เกิดขึ้น มาจาก 1. แรงขายทำกำไรหลังมองอัตราการทำกำไรของตลาดหุ้นสหรัฐถึงจุดสูงสุด 2. ผลของการตั้งกำแพงภาษีระหว่างสหรัฐกับจีน เริ่มส่งผลต่องบ Q3/18 ของบริษัทในสหรัฐใน 3. ความกังวลว่าเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวหลังตัวเลข GDPQ3/18 ขยายตัวได้เพียง 6.5% และ 4. ความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วเกินไปของ FEDแรงขายของต่างชาติในตลาดหุ้นไทยช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ถือว่าหนักหน่วง เนื่องจากเป็นการขายหุ้นในกลุ่มพลังงาน เป็นหลัก หลังราคาน้ำมันดิ่งลงมาอยู่ที่ประมาณ 75 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ ซึ่งตอนนี้ราคาน้ำมันเริ่มนิ่งลง หลังลงจากจุดสูงสุดที่ประมาณ 86 ดอลลาร์/บาร์เรล ราคาน้ำมันหลังจากนี้ต้องติดตามดูผลการคว่ำบาตรของสหรัฐต่ออิหร่านในวันที่ 4 พ.ย. โดยสรุปแล้ว ความผันผวนของตลาดหุ้นโลกที่เกิดขึ้นน่าจะยังมีอยู่ แต่จะชัดเจนหลังผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐในวันที่ 6 พ.ย. เนื่องจากจะได้เห็นความชัดเจนเรื่องนโยบายของสหรัฐหากพรรครีพับริกัน ครองเสี่ยงข้างมากทั้ง 2 สภา ส่วนแนวโน้มงบของตลาดหุ้นไทย ผ่านEarning momentum ratio ในปัจจุบันพบว่า ไม่ได้แย่ลง แต่ยังประคับประคองตัวคล้ายกับของภูมิภาค แนวโน้มดัชนี SET ในวันนี้น่าจะยังรีบาวน์ขึ้นได้ต่อ ตามตลาดหุ้นในภูมิภาค สลับแรงขายทำกำไร แต่ไม่น่าจะทำให้ดัชนี SET ลงมาในแดนลบได้มาก โดยมองแนวต้านที่ 1655-1660 จุดและแนวรับที่ 1638-1634 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร PTT PTTEP IVL KBANKBBL SCC

  ซื้อเก็งกำไรกลุ่มอสังหาฯ : เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มอสังหาฯ ที่คาดว่าจะมีกำไรไตรมาส 3/61 ออกมาดี โดยบริษัทที่คาดว่าจะมีกำไรออกมาเติบโตทั้ง yoy และ qoq ประกอบด้วยLPN คาดกำไร 268 ล้านบาท (+32.2% yoy, +7.6% qoq), PSH คาดกำไร 1,582 ล้านบาท(+22.6% yoy, +1.2% qoq), ANAN คาดกำไร 763 ล้านบาท (+752% yoy, +43% qoq) ส่วนบริษัทที่คาดว่าจะมีกำไรเติบโต yoy แต่ลดลง qoq คือ AP คาดกำไร 904 ล้านบาท (+45%yoy, -23% qoq) และบริษัทที่คาดว่าจะมีกำไรเติบโต qoq แต่ลดลง yoy ได้แก่ SPALI คาดกำไร 1,440 ล้านบาท (-16% yoy, +17.8% qoq), QH คาดกำไร 886 ล้านบาท (-5.8% yoy,+4.4% qoq) และ SIRI คาดกำไร 401 ล้านบาท (-44% yoy, +3.7% qoq) โดยเราให้น้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มนี้เป็น เพิ่มน้ำหนัก โดยมองการฟื้นตัวของผลกำไรจะยิ่งโดดเด่นในไตรมาส4/61 และการประเมินมูลค่าที่ถูกหลังจากที่ราคาหุ้นในกลุ่มปรับลดลงมามากก่อนหน้านี้นอกจากจะมี upside จากราคาเป้าหมายสูงแล้ว ยังมีอัตราเงินปันผลตอบแทนที่สูงในระดับ 4-7% อีกด้วย ในกลุ่มนี้เราให้ SPALI และ QH เป็น top pick โดยมีราคาเป้าหมาย 28 บาทและ4.20 บาทตามลำดับ ในขณะที่เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไร ANAN โดยมีราคาเป้าหมาย 6.20 บาท

  26 ต.ค. : คาด DELTA ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 โดย Bloomberg consensusคาดมีกำไรสุทธิ 1,525 ล้านบาท (+8.2% yoy, +9.7% qoq)

  26 ต.ค. : คาด GLOW ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 โดย Bloomberg consensusคาดมีกำไรสุทธิ 1,996 ล้านบาท (-17.2% yoy, +11% qoq)

  26 ต.ค. : คาด PSL ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 โดย Bloomberg consensusคาดมีกำไรสุทธิ 150 ล้านบาท (จากขาดทุน 174 ล้านบาทในไตรมาส 3/60, +63% qoq)

  1 พ.ย. : คาด HMPRO ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 โดย Bloomberg consensusคาดมีกำไรสุทธิ 1,354 ล้านบาท (+14.5% yoy, +3.2% qoq)

  1 พ.ย. : คาด ADVANC ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 โดย Bloomberg consensusคาดมีกำไรสุทธิ 7,908 ล้านบาท (+5.9% yoy, -1.2% qoq)

  DELTA : Company note คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย : 76 บาท 

  PLANB : Company note คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย : 8 บาท

  JASIF : Company note คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย : 11 บาท 

  PTTEP : Company note คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย : 173 บาท

  กลยุทธ์ : SET Index มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 1655 และ 1670 จุด แต่เราแนะนำให้ขายทำกำไรในระยะสั้นถ้าปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบ 1670 จุด ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1720 จุด และมีแนวรับที่ 1630 จุดเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ

  Srisawad Corporation (SAWAD TB; THB 42.00) –ซื้อ

  Jay Mart (JMART TB; THB 5.25) – ซื้อ