- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 26 October 2018 22:29
- Hits: 7040
บล.ฟินันเซียไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Domestic and Earnings Play//Short-Term Profit Taking
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลงทดสอบแนวรับสำคัญบริเวณ 1,600 จุดในช่วงเปิดตลาดตามคาด ก่อนที่ช่วงบ่ายจะมีแรงซื้อกลับหนาแน่นและทำให้ดัชนีพลิกมาปิดบวกได้ถึง 21 จุด ณ สิ้นวัน แรงซื้อส่วนใหญ่มาจากสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิสูงถึง 4.4 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 16 อีก 4.1 พันลบ. (แต่พลิกมา Long ใน Index Futures กว่า 6 พันสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : บรรยากาศการลงทุนในภาพรวมดูดีขึ้นหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯรีบาวด์ได้แรงเมื่อคืน ทำให้คาดว่า SET Index มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อจากวานนี้ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามเรามองกรอบการบวกระยะสั้นยังจำกัดบริเวณ 1,655-1,660 จุด โดยคาดตลาดยังค่อนข้างผันผวนในระยะนี้สังเกตจาก VIX Index ที่ยังไม่ลงมาในระดับปกติ ขณะระยะนี้ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญทั้งฝั่งสหรัฐฯและจีนซึ่งจะสะท้อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ขณะที่บ้านเรากำลังเข้าช่วงประกาศผลประกอบการ 3Q18 ที่หนาแน่นขึ้นของกลุ่ม Real Sector
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้น Domestic ที่คาดมีกำไร 3Q18 แข็งแกร่ง//ทำกำไรระยะสั้นหลังซื้อวานนี้บริเวณ 1,600 จุด
หุ้นเด่นเดือนต.ค. : BDMS, CPALL, CPN, MINT, PTTGC
Fund Flow นี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$671ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$309ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$125ล้าน ขณะที่ไหลเข้าอินโดนีเซีย US$8ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคแต่อาจเบาบางเพราะนักลงทุนยังมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกจากมาตรการกีดกันทางการค้า
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> MTC <<
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 60 บาท
คาดกำไรสุทธิ 3Q18 ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องที่ 980 ลบ. +8% Q-Q, +51% Y-Y เพราะเป็น High Season ของการปล่อยสินเชื่อ และการเปิดสาขาใหม่อีก 120 แห่ง อยู่ที่ 3,000 แห่ง และคาดจะทะลุ 1 พัลบ. ได้ใน 4Q18 เราคาดกำไรทั้งปี 3,808 ลบ. +52% Y-Y และปีหน้า 5,388 ลบ. +42% Y-Y
เป็นหุ้นใน SET50 ที่ราคาปรับตัวลงแรงเกิน 5% ในรอบ 5 วันทำการที่ผ่านมา จึงคาดว่าจะเห็นการฟื้นกลับได้เร็วในช่วงตลาดรีบาวน์
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) ECB ยังเชื่อว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะฟื้นตัว แม้ว่าข้อมูลภาคการผลิต ต.ค. 18 จะออกมาอ่อนแอสุดในรอบ 2 ปี โดยผลประชุม ECB เมื่อคืนยังคงนโยบายการเงินเหมือนเดิม ทั้งอัตราดอกเบี้ยและการซื้อสินทรัพย์ 1.5 หมื่นล้านยูโร/เดือน ไปจนถึง ธ.ค. 18 ประธาน ECB ยังเชื่อว่าจะเห็นตัวเลขเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นปลายปีนี้ ส่วนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะเกิดขึ้นกลางปีหน้า ขณะที่ ปัญหาของอิตาลีคาดว่าจะไม่บานปลาย ในมุมมองของเรายังไม่เห็นพัฒนาการเชิงบวก และยังเป็นไปได้ยากที่ ECB จะเร่งขึ้นดอกเบี้ย แนวโน้มเงินสกุลยูโรที่อ่อนค่า (เดือนนี้อ่อนมาแล้ว 4%) จะยิ่งหนุนให้ Dollar Index ปรับตัวขึ้น ความเสี่ยงที่สินทรัพย์ลงทุนจะถูกผลกระทบจาก Reverse Dollar Carry Trade ยังมีอยู่ต่อไป
(+) ทองคำเริ่มกลับมาน่าสนใจ ราคาทองคำโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 สัปดาห์ติดต่อกันราว 4% จากจุดต่ำสุดที่ $1,180/Oz ตามความต้องการเพื่อการลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยสะท้อนมายังสถานะของ SPDR Gold Trust ที่เพิ่มขึ้น 19.47 ตันตั้งแต่ 9-24 ต.ค. 18 ทำจุดสูงสุดในรอบ 37 วันทำการที่ 749.64 ตัน ที่น่าสังเกตคือ ราคาทองคำสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้พร้อม Dollar Index และราคาพันธบัตรในสหรัฐฯ บ่งชี้ว่ากระแสเงินกำลังไหลเข้าหา Safe Haven ระยะสั้น เรามองว่าทองคำเริ่มน่าสนใจในการลงทุน เพราะปรับขึ้นใกล้เคียง 20% จากจุดต่ำสุดของรอบขาลงชุดใหญ่ที่ $1,046/Oz ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนจากตลาดหมีเป็นตลาดกระทิง อีกทั้ง ถ้าอิงตามสถิติ ราคาทองคำมักปรับตัวขึ้นได้ดีในเดือน พ.ย.-ธ.ค. ของทุกปีที่ประมาณ 1% ต่อเดือน โดยเราคาดกรอบราคาทองคคำในประเทศระยะนี้ที่ 19,000-19,800 บาท/บาททอง และกรอบของ GLD ที่ 1.68-1.80 บาท
(0) PTTEP กำไรสุทธิ 3Q18 อยู่ที่ 1.04 หมื่นลบ. (+190% Q-Q, +220% Y-Y) ต่ำคาดเล็กน้อย จากปริมาณขายที่ต่ำกว่าคาดเพราะหยุดซ่อมบำรุงและการเรียกรับก๊าซน้อยลง รวมถึงมี Fx ประมาณ 200 ลบ. แต่หากไม่รวม Fx กำไรปกติใกล้เคียงคาด แนวโน้มกำไรปกติ 4Q18 คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีที่ 1.35 หมื่นลบ. (+16% Q-Q, +39% Y-Y) จากทั้งปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นเพราะเป็น High Season และ PTTGC กลับมาเดินเครื่องปกติ กอปรกับ ราคาขายเฉลี่ยยังมีโอกาสเพิ่มขึ้นจากการปรับสัญญาซื้อขายก๊าซกับ PTT เราปรับใช้ราคาเป้าหมายไปปี 2019 ที่ 169 บาท โดยได้มีการปรับประมาณการขึ้น จากการปรับเพิ่มสมมติฐานราคาน้ำมันดิบ และได้รวมผลจากการชนะประมูลแหล่งบงกช ราคาหุ้นที่ปรับตัวลง ทำให้ Upside กลับมาดูน่าสนใจอีกครั้ง จึงปรับคำแนะนำขึ้นจากถือเป็นซื้อ
(+) AP คาดกำไร 3Q18 ที่ 870 ลบ. โตเด่น 41% Y-Y แต่ลดลง 26% Q-Q จากส่วนแบ่ง JV ที่ลดลง เนื่องจากไม่มีคอนโดใหม่เริ่มโอน ส่วนกำไรที่โตสูง Y-Y มาจากยอดโอนคาดแตะ 6.6 พันล้านบาท (+5% Q-Q, +43% Y-Y) จากแนวราบที่ไปได้ดี และการโอนคอนโดต่อเนื่อง ขณะที่ยอดขาย 3Q18 เร่งขึ้นตามการเปิดโครงการใหม่ และคาดว่าดีต่อเนื่องใน 4Q18 หนุนให้ทั้งปีมีโอกาสทำได้สูงกว่าเป้า ราคาหุ้นปรับลง 14% ภายใน 1 เดือนจากความกังวลกับมาตรการธปท. และภาวะตลาดโลกที่ผันผวน ทำให้ Upside เปิดกว้างเมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมที่ 10 บาท รวมถึง Valuation ถือว่าถูก คิดเป็น PE2018-19 เพียง 7.2 เท่า หรือค่าเฉลี่ยในอดีต -2SD อีกทั้ง คาดจ่ายเงินปันผลราว 5% ต่อปี จึงปรับคำแนะนำขึ้นจากถือเป็นซื้อ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
26 ต.ค.- สหรัฐฯ: 3Q18 GDP
31 ต.ค. -1 พ.ย.- จีน: PMI ภาคการผลิต
4 พ.ย.- สหรัฐฯ: เริ่มมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านอย่างสมบูรณ์แบบ
6 พ.ย.- สหรัฐฯ: เลือกตั้งกลางเทอม
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัวจากที่ลงแรงในวันก่อนหน้า นำโดยหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีอย่าง Microsoft ที่ประกาศผลประกอบการออกมาดีกว่าคาด
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น แม้ ECB จะออกมายืนยันว่าตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาแย่กว่าคาด ยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแผนการขึ้นดอกเบี้ย
(+) ตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวขึ้นตามการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐ
(+) ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.51 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 67.33ดอลลาร์/บาร์เรล หลังซาอุฯส่งสัญญาณว่าจะรักษากำลังการผลิตเพื่อพยุงไม่ให้ราคาน้ำมันปรับลงกว่านี้มากนัก
(-) ค่าการกลั่นสิงคโปร์ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 5.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
() ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1232.4 ดอลลาร์/ออนซ์
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO15475