- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 24 October 2018 18:08
- Hits: 5055
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ภาพตลาดและแนวโน้ม
Stay the course
แม้ว่าดัชนีฯตลาดหุ้นไทย ยังไม่ฟืนตัว อย่างที่คาด จากแรงขายหุ้น High PE สลับกับหุ้นที่โดนผลกระทบ ข่าวนักท่องเที่ยวจีนหดตัวแรงเกินคาด แต่เราคง คำแนะนำ จังหวะที่หุ้นตก ตามบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นโลก คือ โอกาสในการ เลือกซื้อหุ้น
กลยุทธ์ คงแนะ จับพวงมาลัยไว้ให้แน่น แล้วประคองพอร์ตไปจนกว่าแรงขายฝรั่งจะจบลง (พ้นเดือน ต.ค.นี้ไป) อย่าเพิ่งด่วนขาย Short against port เพื่อมารับล่าง-สำหรับหุ้นบูลชิพใหญ่ ตลอดจนหุ้นที่เราแนะนำ ไว้ในพอร์ต
What to watch :
(-) MS ออกรายงาน คงเตือนการปรับฐานของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ว่ายังไม่จบ : คาดหุ้น Discretionary / Growth / Tech จะเป็นกลุ่มที่ลงฉุดตลาดหุ้นสหรัฐฯ และ MS ย้ำเรื่อง Earnings peak ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่เคยเตือนมาตั้งแต่ต้นปี แต่รอบนี้ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้น จากการกักตุนสต็อกสินค้าล่วงหน้า และ ผลกระทบจากมาตรการกีดกันการค้า, ภาวะต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการขาดแคลนแรงงาน, ต้นทุนพลังงานและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ขาขึ้น, ต้นทุนดอกเบี้ยขึ้น และภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวกดดันอุปสงค์
แต่ในส่วนของหุ้นไทย เรายังคงยืนยันมุมมอง ต่อการปรับฐานของตลาดหุ้นสหรัฐฯว่าจะมีผลกระทบต่อหุ้นไทยจำกัด และมีความเป็นไปได้ที่ตลาดหุ้นไทยจะ Decoupling ออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ
(+/-) ราคาน้ำมันดิบโลก ดิ่ง 4.5% โดยน้ำมันดิบเบรนท์ลดลงเหลือ $76/บาร์เรล คาดลดความวิตกต่อผลกระทบต้นทุนพลังงานกับ เศรษฐกิจไทย
(+) ประชุม ECB พรุ่งนี้ คาดจะเพิ่มรายละเอียด มาตรการ Operation twist (หรืออย่างช้าการประชุมนัดสุดท้าย เดือน ธ.ค.) และนโยบายการเงินที่จะเอื้อให้เกิดการ Reinvest พันธบัตรระยะยาวในยุโรปเพิ่มขึ้นอีกครั้ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน
หุ้นแนะนำ
UTP ดูรายงานวันนี้
รายงานวันนี้
UTP : Tactical call
การใช้กระดาษบรรจุภัณฑ์ กำลังจะพลิกหน้าประวัติศาสตร์ใหม่อีกครั้ง เมื่อตลาดค้าออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญ กระตุ้นความต้องการใช้กระดาษบรรจุภัณฑ์ในการส่งสินค้า เพิ่มขึ้นจากการใช้งานในอุตสาหกรรมทั่วไป พบว่ามีความต้องการใช้ที่ขยายตัวสูงกว่า GDP ในประเทศมาโดยตลอด โดยเราแนะนำ "ซื้อ" UTP ตอนนี้ก่อนที่จะเข้าสู่ยุคทองของธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์ จาก "Paradigm Shift" สู่ยุคอุตสาหกรรมออนไลน์ ปัจจุบันหุ้นเทรด PE เพียง 10 และ 9.3 เท่า ในปี 2018-19 ตามลำดับ และเงินปันผลสูงราว 4.9% เราเปิด Tactical Call BUY โดยให้ราคาเป้าหมายพื้นฐานที่ 16.50 บาท อิง PE 14.3 เท่า จากค่าเฉลี่ยในอดีต +0.5SD
ANAN : Big payoff from JV investments
เรามีการปรับประมาณการกำไรหลักปี 2018 ขึ้น 8% และ 2019 ขึ้น 6% สะท้อนอัตรากำไรสุทธิของโครงการ JV ที่ทำได้ดีกว่าคาด เราคาดกำไรหลัก 3Q18 ที่ 716 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 408% YoY และ 23% QoQ ซึ่งถือว่าเติบโตสูงที่สุดในกลุ่ม ราคาหุ้นในปัจจุบันเทรดในระดับต่ำกว่า BV 11% และ PER ที่ 6.7 เท่า (1SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย) เรามีการปรับราคาเป้าหมายไป ณ สิ้นปี 2019 ที่ 6.20 และยังคงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร
WORK : Stay aside for now
เรามองว่ากำไรใน 3Q18 จะปรับตัวลดลง YoY และ QoQ จากการออกอากาศเอเชียนเกมส์ ที่คาดจะขาดทุน สำหรับภาพปีหน้าบริษัทจะมีการออกรายการใหม่อย่างน้อย 10 รายการ และคาดว่าอัตราค่าโฆษราจะสามารถกลับไปยืนที่ 8 หมื่นบาท/นาทีได้ จากปีนี้ที่อยู่ที่ 7-7.5 หมื่นบาท/นาที และปีหน้าจะมีค่าใช้จ่ายจากการตัดจำหน่ายคอนเทนท์บางส่วนที่จะตัดในปีนี้เป็นปีสุดท้ายราว 150-200 ล้านบาท ในด้านของธุรกิจอื่นๆ ทั้งคอนเสิร์ตและขายสินค้าคาดจะยังเติบโตได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเรารอดูผลตอบรับของรายการใหม่ที่จะหนุนให้สามารถปรับขึ้นค่าโฆษณาได้ในอนาคต เรายังคงคำแนะนำ ขาย
Residential Property (กลุ่มบ้าน) : Positive effect from new TFRS 15 accounting standard
มาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS15 ที่จะเริ่มใช้ใน 1 ม.ค. 2019 จะส่งผลให้รายจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับ agent ไม่ต้องรับรู้ทันที แต่จะรับรู้เมื่อการขายเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งในกรณีนี้น่าจะเห็นการปรับงนการเงินย้อนหลังซึ่งอาจปรับผ่าน P&L หรือปรับผ่าน retained earnings เรามองว่าจะส่งผลบบวกต่อผู้ประกอบการเกือบทุกเจ้าที่ทำคอนโดขาย ซึ่งผู้ที่ขายต่างชาติมากที่สุดคือ SIRI ORI LPN เป็นต้น
Flow Tracker : กระแสเงินลงทุนจากต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สี่
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 479 ล้านเหรียญสหรัฐฯในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งแรงขายชะลอลงจากยอดขายสุทธิ 702 ล้านเหรียญสหรัฐในสัปดาห์ก่อนหน้า สำหรับกระแสเงินลงทุนในภูมิภาค 5 ประเทศที่เราดู พบว่ากระแสเงินจากต่างชาติรวมเป็นยอดขายสุทธิ 2,465 ล้านเหรียญ ซึ่งชะลอจากยอดขายสุทธิ 3,302 ล้านเหรียญในสัปดาห์ก่อนหน้า สำหรับตลาดหุ้นไทย ดัชนี Volume Flow ของดัชนี SET ปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สาม โดยแรงขายเข้ามากดดันในหุ้นทุกกลุ่มที่เราทำการวิเคราะห์
หุ้นมีข่าว
(*) "นายสมพงษ์ เวียงแก้ว รองปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงสมุทรปราการ-บางปู และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือส่วนต่อขยาย ช่วงคูคต-ลำลูกกา ว่า ตามแผนเดิมเตรียมจะเสนอ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อขอเปิดประมูลช่วงปลายปี 2561 นี้ แต่ล่าสุดได้มีการสั่งทบทวนและชะลอโครงการรถไฟฟ้าช่วงส่วนต่อขยายดังกล่าวไว้ก่อน (ที่มา แนวหน้า)
(0) ดับฝันชานเมือง กทม.สั่งเบรกลงทุนรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเหนือ-ใต้ 2หมื่นล้าน หวั่นไม่คุ้มค่า อีก 2 ปีค่อยทบทวนใหม่อีกรอบ เล็งขยายสัมปทาน บีทีเอสแลกค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสาย (ที่มาไทยโพสต์)
(+) GULF GPSC MTC KTC หุ้นมีโอกาสติด MSCI ประกาศ 13 พ.ย.นี้ (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ) (*) ดอกเบี้ยกู้บ้านเริ่มปรับขึ้น BAY เริ่มปรับตั้งแต่ ก.ค. เน้นลอยตัวแทนคงที่ (ที่มา โพสต์ทูเดย์)
(*/+) นางวจีทิพย์ พงษ์เพ็ชร ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หลังจากเปิดรับฟังความเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงเกณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยเมื่อวันที่ 22ต.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีผู้ให้ความเห็นเป็นจำนวนมาก ทั้งผู้บริโภค สถาบันการเงิน และผู้ประกอบการ ซึ่งเบื้องต้นความเห็นครอบคลุมหลายประเด็น เช่น วันที่เริ่มบังคับใช้ ความหมายของบ้านหลังที่ 2 หรือสัญญาที่ 2 อัตราการวางเงินดาวน์ของสัญญาที่ 2 หรือสัญญาที่ 3 เป็นต้น โดย ธปท. จะนำความเห็นมาประกอบการพิจารณา ก่อนจะกำหนดหลักเกณฑ์ที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงต้นเดือน พ.ย. 61 (ที่มา เดลินิวส์)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO15359