Stock          S          R       Comment

DDD          26.75      32.00     ไตรมาส 4 High Season พร้อมบุ๊ครายได้จากการขายธุรกิจในฟิลิปปินส์ 40 ล้าน

JMT          10.00      12.00     ราคาหุ้นอ่อนตัวมามาก แต่แนวโน้มผลการดำเนินงานยังแกร่ง

VGI           7.25       8.00     Kerry โตตามธุรกิจออนไลน์ หนุนกำไรระยะยาว

 

          SET : จากการที่ SET Index ปัจจุบันซื้อขายด้วยระดับ Forward PE ต่ำกว่า 14 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่มีเสถียรภาพมากที่สุดของดัชนีในระยะหลัง และจากสถิติในอดีตบ่งชี้ว่าการลงทุนที่ระดับดังกล่าวสามารถคาดหวังผลตอบแทนเชิงบวกได้ในช่วง 1, 2, 3, 6 เดือนข้างหน้า เราจึงแนะนำให้นักลงทุนที่สะสมหุ้นไปที่บริเวณดัชนี 1700 จุดและ 1680 จุดก่อนหน้านี้สามารถถือหุ้นต่อไปได้ และแนะนำให้นักลงทุนที่ยังคงมีการถือเงินสดในระดับมากกว่าปกติสามารถเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นได้ รวมถึงผู้ที่ต้องการเข้าซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีต่างๆ (LTF/RMF) ด้วยเช่นกัน

          Italy update : ประเมิน SET Index ยังอยู่ในช่วงของการสร้างฐานต่อไปในช่วงที่เหลือของเดือนนี้ โดยปัจจัยภายนอกล่าสุดที่เข้ามาสนับสนุนการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯได้แก่  การที่คณะกรรมาธิการยุโรปตีกลับร่างกฎหมายงบประมาณของอิตาลีให้ไปแก้ไขใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราประเมินไว้ก่อนหน้านี้ โดยอิตาลีจะมีเวลาอีก 3 สัปดาห์ในการยื่นข้อเสนองบประมาณฉบับใหม่ ส่วนปัจจัยภายในล่าสุดที่อาจจะออกมาดูไม่ดีนักนั่นก็คือ ...

          Export : กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขการค้าระหว่างประเทศประจำเดือนกันยายนมี  ไฮไลท์ที่น่าสนใจดังนี้

          1) การส่งออกหดตัว 5.2% สวนทางกับที่ตลาดคาดขยายตัวที่ 5.6% อย่างไรก็ดี หากตัดหมวดทองคำออกไป การส่งออกในเดือนนี้จะหดตัวเพียง 0.6% เท่านั้น ส่วนการนำเข้าขยายตัว 9.9% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 15.0%

          2) ตลาดส่งออกที่หดตัวอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ จีน ที่หดตัวไปถึง 14% ถือเป็นการหดตัวมากที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี  เพราะฉะนั้นคงจะปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า การส่งออกของไทยเริ่มได้รับผลกระทบจากประเด็นสงครามการค้ามากขึ้นแล้ว มองสินค้าส่งออกไปจีนที่เริ่มน่าเป็นกังวล ได้แก่  I) เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ II) รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และ III) แผงวงจรไฟฟ้า เนื่องจากสินค้าทั้ง 3 กลุ่มมีการหดตัวอย่างมีนัยสำคัญในช่วงหลัง และเป็นการหดตัวมากที่สุดในรอบ 2 ปี  แนะนำหลีกเลี่ยงหรือลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่ม AUTO และ ETRON ไปก่อนในช่วงนี้

          3) กระทรวงพาณิชย์มีการประเมินผลกระทบการส่งออกไทยจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนในเดือนกันยายน พบว่าผลบวกจากสินค้าไทยที่ทดแทนสินค้าจีนในตลาดสหรัฐฯ ไม่สามารถชดเชยผลลบทั้งทางตรงและทางอ้อมได้ และนำมาสู่มูลค่าการส่งออกที่หายไปราว 400 ล้านเหรียญฯหรือคิดเป็น 1.8% ของมูลค่าการส่งออก

          4) ทางฝั่งของการนำเข้า สัญญาณที่เริ่มน่ากังวลได้แก่การนำเข้าสินค้าทุน ที่ในเดือนกันยายนหดตัวไป 5.8% ถือเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 20 เดือน (ดูรูป) โดยสินค้าในหมวดเครื่องจักรกลและส่วนประกอบหดตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน สะท้อนถึงภาวะการลงทุนในประเทศที่ยังคงเป็นไปอย่างล่าช้า

          มุมมองของเรา : โมเมนตัมของการส่งออกที่เริ่มชะลอนี้ เป็นการยืนยันมุมมองของเราที่ว่า การขยายตัวของ GDP ไทยในช่วง 2H18 จะเริ่มชะลอลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วง 1H18 ซึ่งน่าจะทำให้ กนง. ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องเร่งรีบขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่เหลือของปีนี้ ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยในประเทศที่อยู่ในระดับต่ำต่อไปเช่นนี้ จะทำให้หุ้นโดยเฉพาะหุ้นปันผลสูง ยังคงเป็นตราสารที่น่าสนใจสำหรับการลงทุน เมื่อเปรียบเทียบกับตราสารหนี้หรือผลิตภัณฑ์รูปเงินฝาก และเป็นที่มาที่เราคาดว่ากลุ่มนักลงทุนภายในประเทศจะยังเป็นผู้ประคับประคองดัชนีที่สำคัญต่อไป

          แนวรับ  1,643  แนวต้าน 1,681

 

 

TIGER เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (460mn sh @ Bt3.65) ตลาด MAI