- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 24 October 2018 16:56
- Hits: 6695
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
พักเงินใน Defensive หรือ หุ้นปันผลเด่น
Smart Pick
สะสม ADVANC
ราคาปิด 195.00 บาท
ราคาเหมาะสม 237.00 บาท
ADVANC รายงานงบ 3Q61 วันที่ 1 พ.ย. เราคาดกำไรเติบโต YoY เป็นไตรมาสที่ 5 ที่ 8.2 พันล้านบาท +9.3% YoY ด้วยบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นทั่วโลกที่ผันผวน กลุ่มสื่อสารน่าจะเป็นที่พักเงินได้ดีในช่วงนี้
ขณะที่การแข่งขันด้านราคาในอุตฯ เริ่มคลายตัว หลัง DTAC เข้าประมูลคลื่น 900MHz ในวันที่ 28 ต.ค. บวกต่อ ARPU ของอุตฯ ในปี 2562 และ ADVANC เป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลปีละ 4%
สะสม TTW
ราคาปิด 12.20 บาท
ราคาเหมาะสม 15.30 บาท
เราคาดกำไรปกติ 3Q61 ของ TTW ที่ 773 ล้านบาท +5.2% YoY และ +11.6% QoQ หนุน ได้แก่ (1) ยอดผลิตน้ำ +6.5% YoY และ (2) ส่วนแบ่งกำไรจาก CKP โตเด่น +113% YoY เป็น 89 ล้านบาท
จุดเด่นของ TTW คือ ธุรกิจ Defensive ที่มีการเติบโตของกำไรต่อเนื่อง พร้อมให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 6% ต่อปี นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยบวกจากส่วนแบ่งกำไรของ CKP คาดเติบโตก้าวกระโดดตั้งแต่ 4Q62 จากการเริ่มรับรู้รายได้เขื่อนไซยะบุรี
สะสม DIF
ราคาปิด 14.90 บาท
ราคาเหมาะสม 15.60 บาท
เรามองว่า DIF เป็นที่พักเงินได้ดีในช่วงเวลาที่ SET INDEX มีความผันผวน เนื่องจาก DIF มีสินทรัพย์และกระแสเงินสดมั่นคง จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ ไตรมาสละ 0.24-0.25 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 1.6% ต่อไตรมาส ขณะที่เงินปันผลทั้งปี 2561 และ 2562 เราคาดหุ้นละ 1.02 บาท และ 1.05 บาท ตามลำดับ ให้ผลตอบแทนรวมถึงปีละ 7% ซึ่งสูงกว่า TFIFF ที่ให้ผลตอบแทน 4.75-5.30%
เก็งกำไร CPALL
ราคาปิด 65.00 บาท
แนวต้านทางเทคนิค 68.00 บาท
ราคาหุ้นปิดที่แนวรับบริเวณ 65.00 บาท ดังนั้น ทางเทคนิคมีโอกาสเกิด Technical Rebound แนวต้าน 67.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 63.25 บาท
เรามองว่าวันนี้หุ้นกลุ่ม Domestic Play จะเคลื่อนไหวได้ดีกว่าหุ้นกลุ่ม Global Play เนื่องจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX, BRENT ปรับฐานลงแรงเป็นปัจจัยลบกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี
Profit Taking : N.A.
กลยุทธ์วันนี้
ภาวการณ์ลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกกลับมาผันผวนสูงอีกครั้ง ดังจะเห็นได้จาก 1) DJIA วานนี้ปิดเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันก่อนจะเกิด Technical rebound กลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าวได้อีกครั้ง 2) ดัชนี VIX INDEX +5% ยืนเหนือ 20 จุด 3) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดลบถึง 4% 4) คณะกรรมาธิการกลุ่มสหภาพยุโรป ปฏิเสธแผนงบประมาณปี 2562 ของอิตาลีที่ทำขาดดุลราว 2.4% ต่อ GDP และ 5) ตัวเลขการส่งออกไทยเดือนก.ย.หดตัว 5.2%YoY เป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2559 ล้วนเป็นปัจจัยกดดันบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยในวันนี้ จับตาแนวรับ 1,645-1,650 จุด จะทำงานได้แข็งแกร่งหรือไม่ เพราะถือเป็นแนวรับทางจิตวิทยาที่สำคัญของตลาดหุ้นไทย ทั้งนี้ติดตามการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย เพื่อประเมินแรงขายจากต่างชาติ หลังวานนี้ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่ 5 ตลาดกว่า US$1.0 พันล้าน
สำหรับการส่งออกของไทยเดือน ก.ย. หดตัว YoY ครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ต.ค.2559 จากฐานสูง และตลาดส่งออกไปยังจีนติดลบถึง 14.1% YoY แต่เราเชื่อว่าเป็นการลดลงเพียงชั่วคราว เพราะภาคเอกชนจีนอาจชะลอการสั่งซื้อเพียงช่วงสั้นเพื่อรอดูสถานการณ์การค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ นอกจากนี้ มูลค่าการส่งออกของจีนตั้งแต่เดือน ก.ค.2561 เป็นต้นมา ยังขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง หลังสหรัฐฯ เริ่มเก็บภาษีนำเข้าจากจีนอย่างเป็นทางการแล้วก็ตาม
เราประเมินว่า หุ้นที่น่าจะทรงตัวได้ดีกว่าตลาดรวมในช่วงนี้ คือ หุ้นที่มี Valuation ในแง่ของ PER หรือ PBV ถูกกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มอุตสาหกรรม และจ่ายปันผลในระดับสูงสม่ำเสมอ ดังนั้น ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำปรับพอร์ตลงทุนให้มีความ Defensive มากขึ้น ด้วยการพักเงินในหุ้นปันผล/ กองทุนประเภท REIT หรือ IFF ได้แก่ ADVANC/ TTW/ DIF/ CPNREIT/ WHART/ HREIT เป็นต้น
HOT Topic
1. น้ำมันดิบ NYMEX, BRENT ปรับฐานลงแรง -4%
2. ตลาดหุ้นเอเซียวานนี้ปรับตัวลงแรง ขณะที่ SET Index ปิดทำการ เรามองอย่างไร
3. SCC รายงานงบ 3Q61 วันนี้ คาดกำไรปกติที่ 1.0 หมื่นล้านบาท -9% YoY และ -16% QoQ
4. บทวิเคราะห์ภาพเศรษฐกิจ หลังตัวเลขส่งออกไทยเดือน ก.ย. -5.2% YoY
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วันจันทร์ที่ผ่านมา SET INDEX ปรับตัวลงเป็นวันที่ 4 อีก 9.35 จุด ปิดที่ 1658.56 จุด (-0.56%) มูลค่าการซื้อขายราว 4.1 หมื่นล้านบาท โดยมีรายการ Big lot หุ้น KBANK-F มูลค่ากว่า 1.6 พันล้านบาท
กระแสเงินทุน: นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 14 แต่เพียง 62 ล้านบาท รวม 14 วันทำการขายสุทธิสะสมราว 5 หมื่นล้านบาท และมีสถานะ Short สุทธิในตลาด SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 อีกราว 2.9 พันสัญญา รวม 3 วันทำการมีสถานะ Short สุทธิสะสมราว 2 หมื่นสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิสะสมราว 2.4 หมื่นสัญญา ขณะที่กลุ่มสถาบันในประเทศซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีกราว 597 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิสะสมราว 2.1 พันล้านบาท และกลุ่มสถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Long สุทธิในตลาด SET50 Index Futures เป็นวันที่ 5 อีกราว 2.2 พันสัญญา รวม 5 วันทำการมีสถานะ Long สุทธิสะสมราว 1.8 หมื่นสัญญา ส่งผลให้ QTD กลุ่มสถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Long สุทธิราว 3.4 หมื่นสัญญา
ตลาดตราสารหนี้ : นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 2 อีกราว 1.8 พันล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิสะสมราว 2.1 พันล้านบาท และค่าเงินบาทมีทิศทางอ่อนค่าเล็กน้อยสู่ระดับ THB32.81/USD
ปัจจัยสำคัญวันนี้
อียูประกาศให้อิตาลีทำการทบทวนข้อเสนอร่างงบประมาณประจำปี 2562 และให้ยื่นร่างแผนงบประมาณฉบับใหม่อีกครั้งภายใน 3 สัปดาห์ พร้อมทั้งแสดงความกังวลต่อหนี้สินภาครัฐฯของอิตาลีที่อยู่ในระดับสูง
ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจสหรัฐฯเผยประธานาธิบดีสหรัฐฯและประธานาธิบดีของจีนมีแผนพบปะกันนอกรอบการประชุม G20 ในเดือน พ.ย. 2561
กระทรวงพาณิชย์ไทยรายงานมูลค่าการส่งออกเดือน ก.ย.2561 หดตัว 5.2%YoY ติดลบครั้งแรกในรอบ 19 เดือน
ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีกำหนดเข้าพบปะกับประธานาธิบดีรัสเซียในวันที่ 11 พ.ย.นี้
API รายงานสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 9.88 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.69 ล้านบาร์เรล
รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานซาอุดิอาระเบีย เผยสมาชิกกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC พร้อมเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบเต็มที่ เพื่อให้ตลาดน้ำมันดิบโลกมีเสถียรภาพ
วันนี้ มีหุ้น IPO คือ TIGER เข้าซื้อขายวันแรกในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ในตลาด mai ราคา IPO 3.65 บาท ราคาพาร์ 0.50 บาท
ติดตามการรายงานภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯโดยเฟด (Beige Book) และการประชุมธนาคารกลางยุโรป วันที่ 25 ต.ค.
ติดตามการรายงาน GDP 3Q61 ของสหรัฐฯ ครั้งที่ 1 ตลาดคาดขยายตัว 3.3% YoY วันที่ 26 ต.ค.
ติดตามการรายงานผลการดำเนินงาน 3Q61 ของ SCC (24 ต.ค.)/ PTTEP (25 ต.ค.)
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist 662-009-8059
OO15347