- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 22 October 2018 20:08
- Hits: 4452
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
ทยอยสะสมหุ้น Domestic or Defensive Play
Smart Pick
สะสม BDMS
ราคาปิด 25.00 บาท
ราคาเหมาะสม 31.40 บาท
เราคาดผลการดำเนินงาน 3Q61 โตทั้ง QoQ และ YoY หนุนด้วยการเข้าสู่ High Season ของธุรกิจ อีกทั้งสภาพอากาศที่ฝนตกนานกว่าปกติ เกิดโรคระบาดมากขึ้น ทำให้จำนวนผู้ป่วยทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ
นอกจากนี้เชิงเทคนิค ราคาหุ้นลงมาใกล้แนวรับใหญ่บริเวณ 24.50 บาท ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว 200 วัน เรามองว่า Downside ของราคาหุ้นค่อนข้างจำกัด
เก็งกำไร CPN
ราคาปิด 79.00 บาท
ราคาเหมาะสม 86.50 บาท
เรามองว่าผลการดำเนินงานใน 3Q61 ถึง 4Q61 คาดเพิ่มขึ้น QoQ และทำระดับสูงสุดของปีใน 4Q61 จากการเปิดให้บริการเต็มพื้นที่ของห้าง CTW ตั้งแต่ 3Q61 และการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียม
เรามีมุมมองเป็นบวกต่อกลยุทธ์ระยะยาวของ CPN หลับเข้าถือหุ้นใน DTC และ GLAND สะท้อนแผนงานธุรกิจเชิงรุกมากยิ่งขึ้น และถือเป็นการสะสม Landbank ทางอ้อมของ CPN
สะสม TPIPP
ราคาปิด 6.30 บาท
ราคาเหมาะสม 7.00 บาท
เราคาดกำไรปกติ 3Q61 ราว 1.09 พันล้านบาท +9%QoQ และ +98% YoY จากโรงไฟฟ้า TG4-6 คงอัตรากำลังการผลิตสูง และโรงไฟฟ้า TG7 (Coal/RDF 70MW) เริ่ม COD เดือน ส.ค. และกำไร 4Q61 ทำระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาสต่อเนื่อง จากการ COD โรงไฟฟ้า TG8 ในเดือนพ.ย. และการเพิ่มประสิทธิภาพของ TG4-6
TPIPP เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในภาวะตลาดที่ผันผวน เราคาดเงินปันผล/ไตรมาสราว 0.10 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield ราว 1.6%
เก็งกำไร QH
ราคาปิด 3.10 บาท
แนวต้านทางเทคนิค 3.20 บาท
ภาพเชิงเทคนิค ราคาหุ้น QH มีโอกาสเกิด Technical Rebound เพื่อทดสอบแนวต้าน 3.20 บาท หลังปรับตัวลงถึง 10.4% MTD ประเมินว่า แนวรับบริเวณ 3.06 บาทจะทำงานได้ดี และกำหนดจุดตัดขาดทุน หาก QH ลงหลุด 3 บาท
ประเด็น ธปท.ปรับเกณฑ์กำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย เรามองว่า QH เป็นหุ้นที่ปลอดภัยต่อประเด็นนี้ เนื่องจากรายได้กว่า 85% มาจากสินค้าแนวราบที่เป็นอุปสงค์ที่แท้จริงและส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมสูงถึง 45-50% ช่วยจำกัด Downside
Profit Taking : N.A.
กลยุทธ์วันนี้
วันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX ปรับตัวลงหลุดแนว 1670 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน กดดันกลุ่มค้าปลีก (-1.4%) และกลุ่มขนส่ง (-1.4%) หลังดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เริ่มอ่อนตัวลง และปัญหานักท่องเที่ยวจีนหดตัว นอกจากนี้แรงขายจากต่างชาติกลับมาหนาแน่นกว่า 6 พันล้านบาทอีกครั้ง
สำหรับบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ เรามีมุมมองเป็น “กลางถึงลบ” เนื่องจาก 1) ช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย ทำให้มูลค่าการซื้อขายอาจต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาทต่อวัน 2) ตลาดหุ้นเอเชียเช้าวันนี้เปิดปรับตัวลงเช่นกัน เพราะขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุน 3) แรงขายจากต่างชาติที่หนาแน่นในวันศุกร์ที่ผ่านมากว่า 6 พันล้านบาท และ 4) ค่าเงินบาทเทียบกับ USD ที่อ่อนค่าเช้าวันนี้กดดันจิตวิทยาการลงทุน เราประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX ระหว่าง 1650-1670 จุด โดยกลุ่มน้ำมัน /โรงกลั่น คาดเป็นกลุ่มประคองภาพรวมในวันนี้ ตามการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน/ค่าการกลั่น
ด้านผลการดำเนินงาน 3Q61 ที่ประกาศวันศุกร์ที่ผ่านมา KBANK/ KTB/ KKP เป็นไปตามที่เราประเมิน โดยรวมกลุ่มธนาคารรายงานคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น ภาระการตั้งสำรองลดลง และไตรมาสนี้การกำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุนลดลงเมื่อเทียบกับ 2Q61 ที่ผ่านมา เชิงกลยุทธ์กลุ่มธนาคารอาจทำได้เพียงทรงตัวในช่วงนี้ เพราะขาดปัจจัยบวกใหม่หลังสิ้นสุดการประกาศงบการเงิน ยกเว้นนักลงทุนที่ลงทุนระยะ 3-6เดือนข้างหน้า เรามองว่า BBL / SCB เป็นทางเลือกของการสะสม ส่วน KKP มีความเด่นในแง่ของผลตอบแทนจากเงินปันผล สำหรับสัปดาห์นี้ ติดตามการรายงานงบของภาคการผลิตแท้จริง (Real Sector) เริ่มต้นจาก SCC และ PTTEP ในวันที่ 24 และ 25 ต.ค.นี้ตามลำดับ
กลยุทธ์หลักช่วงนี้ เราแนะนำให้เก็งกำไรต่อแนวโน้มกำไร 3Q61 ที่เติบโตเป็นสำคัญ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม Domestic Play ที่ปรับตัวลงมาตามความผันผวนของทิศทางตลาด เช่น BDMS/ BCH/ ADVANC/ TRUE/ CPN/ TPIPP เป็นต้น
Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA Head of Research 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist 662-009-8059
OO15278