WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Mayบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 
 
Market summary
  เมื่อวานที่ผ่านมา SET เผชิญกับแรงขาย นำโดยหุ้นเข้าใหม่อย่าง OSP และหุ้นขนาดกลางอย่าง BEAUTY, RS, DDD และกลุ่มท่องเที่ยวนำโดย AOT, MINT กลุ่มนิคม AMATA, WHA และกลุ่ม Commodity อย่าง BANPU, STA, IVL และสำหรับหุ้นเข้าใหม่อย่าง BGC ปรับตัวขึ้น 15 % ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.4 พันล้านบาท ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,682.91 จุด (-12.1 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.6 หมื่นลบ. ลดลงจากวันก่อนหน้าที่ 5.3 หมื่นลบ.
  นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยเป็นวันที่ 12 ติดต่อกันที่ 3,149 ล้านบาท (นักลงทุนสถาบันพลิกกลับมาขายสุทธิที่ 603 ล้านบาท) และกลับมาเปิดสถานะ Short SET50 index future สุทธิ 6,364 สัญญา
 
Investment theme
  สหรัฐขาดดุลงบประมาณสูงสุดในรอบ 6 ปี  : สหรัฐรายงานตัวเลขขาดดุลงบประมาณปีนี้ ขาดดุลเพิ่มขึ้นมากถึง1.1แสนล้านเหรียญ(เพิ่มขึ้น 17%) เป็น 7.8แสนล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 3.9% ของอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2555 โดยสำนักงบประมาณสหรัฐได้คาดการณ์ตัวเลขขาดดุลนี้จะสูงขึ้นทะลุ 1.0ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2563 และอาจจะสูงขึ้นอีกหาก Trump ชนะการเลือกตั้งกลางเทอมในเดือนพ.ย. พร้อมตามมาด้วยการปรับลดอัตราภาษีอีกครั้ง โดยรัฐบาลอาจจำเป็นต้องกู้โดยการออกพันธบัตร และจะเป็นการผลักดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในระยะยาวได้ โดยเราประเมินว่าผลการเลือกตั้ง ส.ส.ของสหรัฐในวันที่  6 พ.ย.นี้ มีความสำคัญต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสียงทั่วโลกผ่านทิศทาง Dollar และ Bond yield เนื่องจากแผนการปรับลดภาษีในประเทศ, เพิ่มวงเงินภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างสหรัฐ-จีน, การผ่านร่าง Debt ceiling 
  Investment Theme:  คงคำแนะนำถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40% โดยประเมิน SET ปรับฐานในกรอบ 1,670-1,710 จุด จนกว่าจะเห็นปัจจัยสนับสนุนใหม่จากทั้งต่างประเทศและในประเทศ แนะทยอยสะสมกลุ่มค้าปลีกที่มีหลายปัจจัยสนับสนุน และคาดรัฐออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ (CPALL, BJC) กลุ่มก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง (TEAMG, STEC, SCCC) และในระยะสั้นแนะติดตามผลประกอบการกลุ่มธนาคารใหญ่อย่าง KBANK และ KTB ซึ่งหากออกมาดีกว่าตลาดคาดสูงกว่า 10% มีโอกาสที่จะเป็นตัวผลักดัน SET ขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,710 จุด +/-
 
Big issue 
  เมื่อคืนที่ผ่านมา –  ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยเดือนก.ย.ปรับตัวลดลงเหลือ 48.4 (ลดลงจากเดือนส.ค.ที่ 49.8) / BBL และ SCB รายงานกำไรใกล้เคียงตลาดคาด  ในขณะที่ KBANK ดีกว่าคาด 4% / Dollar แข็งค่าต่อเนื่องที่บริเวณ 96.00
 
 Stock pick : -
  Trading idea – กลุ่มค้าปลีกแนะเก็งกำไร CPALL, BJC อ้างอิงจากสถิติย้อนหลังก่อนการเลือกตั้ง ในขณะที่ปัจจุบันรัฐออกหลายมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ และลดค่าครองชีพ  / เก็งกำไร STEC คาดกำไร 3Q18 เติบโตเด่น YoY, QoQ พร้อมให้เป็น stock pick กลุ่มก่อสร้าง ราคาเป้าหมาย 29.0 บาท / ทยอยสะสม BEM คาดผลประกอบการ Q3 ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์/ /หลีกเลี่ยงการลงทุนกลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL
 
Technical View
 
 
  มีโอกาสอ่อนตัวทดสอบ 1665 หากหลุดจะกลับเป็นขาลงในรอบใหม่   :  ดัชนีปรับตัวลงต่อ โดยระหว่างวันมีแรง Rebound เพียงทดสอบ 1695 (Low ก่อนหน้า) จากนั้นปรับตัวลงและปิดบริเวณ Low เช่นเดียวกับวันก่อนหน้า ทำให้คาดว่าดัชนีมีโอกาสอ่อนตัวลงต่อเนิ่องทดสอบ Low ที่ 1665 ซึ่งหากหลุดแนวรับนี้ จะทำให้ดัชนีเปลี่ยนแนวโน้มจาก Sideway เป็น “ขาลง” ในรอบใหม่ และเนื่องจากขณะนี้หลังดัชนีหลุด 1690 จึงแนะนำให้ชะลอกาเก็งกำไรเพราะแนวโน้มระยะกลางมีโอกาสกลับตัวเป็นขาลงอีกครั้ง
  กลยุทธ์การลงทุน 1) ดัชนีหลุด 1690 แนะนำ เลิกเก็งกำไรและ Stop Loss โดยหากยังมีหุ้นแนะนำใช้ 1680 เพื่อ Stop Loss  
2)  ไม่มีหุ้น : เนื่องจากดัชนีหลุด 1690 แนะนำ เลิกเก็งกำไร และรอดูแนวโน้มตามแนวรับจนกว่าดัชนีจะเริ่มหยุดลงหรือมีสัญญาณ Rebound ที่ชัดเจนกว่านี้
  แนวรับ : 1640, 1665 แนวต้าน : 1690, 1695
 
Keep an eye on...
  ปัจจัยต่างประเทศ: Trump เตรียมเจรจาการค้าญี่ปุ่น / Trump ส่ง Pompeo ไปยังซาอุสืบคดีการหายตัวไปของ Khashoggi 
 
ปัจจัยในประเทศ:  -
  หุ้นเทคนิค:
  PTT (B 50.00-50.50, Tp 52.00//53.00, Cut 49.50)
  BBL (B 211.00, Tp 217.00, Cut 208.00)
 
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์ 
Research Department Tel. 02-658-5000
OO15223

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!