กลยุทธ์ : เมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลง 3% หรือ 2.17 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่69.75 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA)ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดน้ำมัน เราคาดว่าราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงแรงจะส่งผลให้มีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานอย่าง PTTEP PTT ออกมาในวันนี้ได้ โดยในเดือนที่ผ่านมาที่ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงมาอยู่ที่บริเวณ 69 +/- ดอลลาร์/บาร์เรล ราคาหุ้นของPTTEP จะเคลื่อนไหวอยู่แถว 140+/- บาทและราคาหุ้นของ PTT ก็ลงไปที่ระดับ 49-50 บาทดังนั้นวันนี้แนะนำ ขายทำกำไร/short หุ้น PTTEP และ PTT ออกไปในระยะสัน้ ก่อน และ ซื้อเก็งกำไร หุ้นกลุ่มโรงกลัน่ อย่าง TOP SPRC PTTGC IRPC ซึ่งจะได้ประโยชน์จากการที่ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงแรง ส่งผลให้ crude premium ปรับลงและค่าการกลัน่ จะปรับตัวดีขึ้นด้วยวันนี้คาดตลาดจะยังคงมีโอกาสปรับตัวลงต่อจากแรงขายของนักลงุทนต่างประเทศที่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องจะยังกดดันตลาดต่อไป แม้ว่ากองทุนในประเทศจะซื้อพยุงตลาดมาตลอดทางก็ตาม โดยกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีจะเผชิญแรงขายทำกำไรจากการที่ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงแรง ส่วนกลุ่มธนาคารพาณิชย์อาจถูกขาย sell on fact หลังงบออกได้ (วันนี้คาด BBLKBANK SCB จะประกาศงบ) วันนี้มองแนวรับที่ 1688-1690 จุดและแนวต้านที่ 1700-1710จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร CENTEL LH SAT TKN

 

  TRUE : เราแนะนำ ซื้อ TRUE โดยมีราคาเป้าหมาย 7.35 บาท เราคาดว่า TRUE จะมีกำไรปกติ 5 ล้านบาทใน 3Q18 (ขาดทุนจากการดำเนินงานปกติ 340 ล้านบาทใน 3Q17 และ 264ล้านบาทใน 2Q18) จากการที่รายได้จากการให้บริการเติบโต 7%, ดอกเบี้ยจ่ายลดลง (-16%yoy, -5% qoq) และค่าเสื่อมราคาจากต้นทุนค่าเครื่องโทรศัพท์ทรงตัว (+3% yoy, -4% qoq)ขณะเดียวกัน เราประมาณการว่ารายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่จะเพิ่มขึ้น 9% yoy เพราะบริษัทสามารถชิงลูกค้ามาจากคู่แข่ง ส่วนรายได้จากธุรกิจบรอดแบนด์ผ่านสายจะเติบโต 15%จากความต้องการบริการ FTTH (fibre-to-the-home) ที่เพิ่มขึ้นในต่างจังหวัด รวมทั้งการที่บริษัทหันมาเน้นตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ มากขึ้น ยังคงเลือก TRUE เป็นหุ้น toppick เพราะเล็งเห็นแนวโน้มที่ผลประกอบการจะฟื้นตัว ซึ่งเราประมาณการว่าบริษัทจะมีกำไรปกติ 4.4 พันล้านบาทในปี FY19

 

  18 ต.ค. : คาด SCB ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 โดยเราคาดมีกำไรสุทธิ 10,691ล้านบาท (+5.5% yoy, -3.8% qoq)

  18 ต.ค. : คาด BBL ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 โดยเราคาดมีกำไรสุทธิ 8,933ล้านบาท (+9.4% yoy, -2.8% qoq)

  18 ต.ค. : คาด KBANK ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 โดยเราคาดมีกำไรสุทธิ 9,243ล้านบาท (-2.5% yoy, -15.3% qoq)

  19 ต.ค. : คาด KTB ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 โดยเราคาดมีกำไรสุทธิ 7,321ล้านบาท (+24.7% yoy, -5.1% qoq)

  19 ต.ค. : คาด KKP ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 โดยเราคาดมีกำไรสุทธิ 1,527ล้านบาท (-11.4% yoy, -1.6% qoq)

  19 ต.ค. : จีนประกาศตัวเลข GDP YoY ไตรมาส 3/61 จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 6.7%

  19 ต.ค. : จีนประกาศตัวเลข Industrial Production YoY เดือนก.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ 6.1%

  19 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Existing Home Sales เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 5.3 ล้านยูนิตจากเดือนก่อนหน้าที่ 5.34 ล้านยูนิต

 

  TMB : Company Flash note คำแนะนำ : ถือ ราคาเป้าหมาย : 2.24

  TCAP : Company Flash note คำแนะนำ : ถือ ราคาเป้าหมาย : 51.00

 

  กลยุทธ์ : SET Index ปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคไปเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1700 จุด ทำให้แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1670 จุด และมีแนวรับถัดไปที่ 1630จุดเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ โดยมีแนวต้านสำคัญที่1700 จุด

  Bangkok Expressway and Metro (BEM TB; THB8.40) – ซื้อ

  Sappe (SAPPE TB; THB 23.70) – ซื้อ