- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 17 October 2018 17:45
- Hits: 6935
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ผลประกอบการไตรมาส 3/61 ที่ดี จะช่วยลดทอนความกังวลจากผลตอบแทนพันธบัตร
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นหลังการรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 ออกมาดี ช่วยลดทอนความกังวลจากการเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตร โดยผลประกอบการของบจ.ใน S&P500 จำนวน 48 แห่ง มีกำไรดีกว่าตลาดคาดอยู่ 4.42% การที่ผลการดำเนินงานยังมีโมเมนตัมที่ดีจะช่วยให้ความน่าสนใจของการลงทุนในหุ้น (EYG) เพิ่มขึ้น เมื่ออิงความสัมพันธ์ (EYG = Earning yield – Bond yield) ดังนั้นเรามองตลาดระยะสั้นมีโอกาสฟื้นตัว
สำหรับตลาดหุ้นไทย เรามองนักลงทุนจะกลับมาโฟกัสผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 กลุ่มธนาคารที่จะประกาศสัปดาห์นี้ซึ่งคาดช่วยหนุนแรงซื้อเก็งงบระยะสั้น และคาดฟื้นตัวตามภูมิภาคตามบรรยากาศการลงทุนที่กลับมาเป็นบวก โดยเราเชื่อว่า SET Index มีโอกาสกลับขึ้นทดสอบที่ 1710-1720 จุดในสัปดาห์นี้ แนะ follow buy หุ้นกลุ่มธนาคารที่มีแนวโน้มรายงานกำไรออกมาโดดเด่นกว่ากลุ่ม อาทิ BBL, KTB รวมถึงหุ้นกลุ่มภายในประเทศที่คาดฟื้นตัวกลับ อาทิ BJC, ROBINS, CPALL, SCB, AMATA, WHA, ADVANC
OSP (Not rated) จะมีขนาด Market cap ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม หากเปรียบเทียบในเชิงของ PER อิง Concensus จะอยู่ที่ 29-30 เท่า หรือแพงลำดับที่ 11 ของกลุ่ม แต่ถูกกว่า CBG และ ICHI ที่ซื้อขาย PER 48 และ 34 เท่า ดังนั้นทางกลยุทธ์เรามองมี Trading opportunity จากการ switching หุ้นเครื่องดื่มที่แพงกว่ามายัง OSP ซึ่งมี upside จาก valuation gap ที่ราว 10-50% ทั้งนี้เราไม่ได้มีการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของ OSP
Investment Theme หุ้นใหญ่และกลุ่มหุ้นเลือกตั้ง BBL, SCB, STEC, CPALL, AMATA/ หุ้นเล็กที่น่าสนใจ GUNKUL*, PSTC*, DTC*, EASTW*, AEONTS* / หุ้นกระแสเงินสดมั่นคง-ปันผล CPNREIT, CPN, PSH, AP, SPF*, EA, BCPG
ภาพรวมกลยุทธ์: ซื้อขายที่แนวรับและเลือกเก็งกำไรเมื่ออ่อนตัว ถือหุ้นที่มี หรือทยอยสะสมหุ้นใหญ่ รวมทั้งสามารถเลือกเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็ก // หุ้นแนะนำวันนี้ BBL, AMATA / เก็งกำไร KTC (เป้า 40 ตัดขาดทุน 32), KSL* (เป้า 4.00 ตัดขาดทุน 3.60)
แนวรับ 1680 / แนวต้าน : 1720 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%
ประเด็นการลงทุน
สหรัฐฯขาดดุลสูงสุดในรอบ 6 ปี - กระทรวงการคลังสหรัฐฯเผยยอดขาดดุลงบประมาณปี 61 (สิ้นสุด 30 ก.ย.) ปรับเพิ่มขึ้น 17% สู่ระดับ 7.99 แสนล้านเหรียญฯ สูงสุดในรอบ 6 ปี ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการปรับลดภาษีและการเพิ่มงบประมาณในภาคกลาโหมของปธน.ทรัมป์
กลุ่มการแพทย์ - ผลกำไรกลุ่มโรงพยาบาล เติบโต 9% หลักๆมาจาก BCH ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงสุดที่ 14% yoy ในช่วง 3Q18 ตามมาด้วย BDMS ที่เติบโต 10% และ BH ที่จะเติบโต 8% ดังนั้นกำไรรวมของกลุ่มคาดจะสามารถเติบโต 9% yoy
ส่งออก - ส.อ.ท.เปิดเผยว่า แนวโน้มการส่งออกของไทยปีนี้น่าจะเติบโตได้ 9-10% แต่สิ่งต้องติดตามใกล้ชิดคือ มาตรการตอบโต้ทางการค้าของสหรัฐระลอก 2 ที่มีมูลค่า 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ครอบคลุมสินค้าจำนวนมาก และอาจทำให้ปี 2562 ขยายตัวได้เพียง 4-5%
ทิ้งตราสารหนี้โยกเงินซบกองทุนหุ้น - มอร์นิ่งสตาร์ เผย 9 เดือน นักลงทุนแห่ถอนกองทุนตราสารหนี้ 1.8 แสนล้าน หนีดอกเบี้ยขาขึ้น ซบกองหุ้นขนาดใหญ่ 7.2 หมื่นล้าน
ดีแทคลุย 900 เคาะ 28 ต.ค.นี้ - ดีแทคเข้ายื่นเอกสารร่วมประมูลคลื่น 900 เตรียมเคาะราคาวันที่ 28 ต.ค.นี้ คาดได้เงินเข้ารัฐ 4 หมื่นล้านบาท
ประเด็นติดตาม: 17 ต.ค. – โอสภสภา (OSP) เริ่มซื้อขาย/ 18 ต.ค. – FOMC meeting minutes / 18 ต.ค. – BGC เริ่มซื้อขาย / 19 ต.ค. – SONIC เริ่มซื้อขาย
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
17 ต.ค. – โอสภสภา (OSP) เริ่มซื้อขาย
18 ต.ค. – FOMC meeting minutes
28 ต.ค. – กสทช.เปิดประมูลคลื่น 900 MHz
ประเด็นลงทุนสำหรับหุ้นแนะนำ
BBL (240) : คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 ชะลอ QoQ แต่เพิ่มขึ่น YoY มีผลกระทบจากสินเชื่อกู้บ้านต่ำ
AMATA (28.25) : ยอดขายที่ดินมีโอกาสฟื้นตัวจากอุปสงค์ชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น คาดรายงานยอดขายที่ดินแกร่งในช่วงครึ่งปีหลังจนถึงปีหน้าเมื่อพิจารณาจาก FDI ที่ฟื้นตัว
KSL* (4) : เก็งกำไรแบบตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 3.6 บาท
KTC* (40) : เก็งกำไรแบบตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 32 บาท
หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ: กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ / CHOW*, SSP*, AEONTS*, EGCO, GULF*, BJCHI*, TH*, THANI*, BBL (ควรตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5%)
นักกลยุทธ์: กิจพณ ไพรไพศาลกิจ
Email: [email protected]
OO15115