- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 16 October 2018 20:29
- Hits: 7742
บล.โนมูระพัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“Mid-Small Cap Play”
CNS Daily Strategy: คาดตลาด “UP” ต้าน 1707/1714จุด รับ 1688/1680จุด ตลาดหุ้น Dow Jones ยังคงปรับฐานจากแรงถ่วงกลุ่มเทคโนโลยี แต่น่าจะสร้างฐานบริเวณ 25,000จุด+/- ซึ่งเป็นแนวรับ 200 วันได้ หนุนการฟื้นตัวระยะสั้น ผสานแรงกดดันจากทั้ง US Bond Yield และ Dollar Index ผ่อนคลายลง หนุนค่าเงินเอเชียเช้าวันนี้แข็งค่า -0.05% เป็นจิตวิทยาบวกต่อตลาดเอเชีย โดยวานนี้ต่างชาติกลับมาซื้อหุ้น TIPS บางๆ เป็นครั้งแรกในรอบ 9วันทำการ รวม 11.58ล้านเหรียญฯ เป็นจิตวิทยาบวกต่อตลาดหุ้นไทย แนะนำ Theme “Mid-Small Cap Play” : SEAFCO, PYLON, XO
Nomura : Key Factors
(*) US: Dow Jones น่าจะสร้างฐานบริเวณ 25,000จุด+/- ซึ่งเป็นแนวรับ 200 วันได้
(+) US: US Bond Yield 10ปี ลดลงสู่3.15% และ Dollar Index อ่อนค่าต่อเนื่องสู่ 95.05จุด
(+) Asia: MSCI EM-ASIA Forward PER เพียง10เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 10.75เท่า
(+) TIPs: ต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 9วันทำการ รวม 11.58ล้านเหรียญ
(+) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +0.62% สู่ $71.78 /bbl / BRT +0.44% สู่ $80.78 /bbl
(*) Fund Flow:ล่าสุดขายหุ้น-3,652ลบ.,Short Future-3,359สัญญา,ซื้อBond+659ลบ.
Nomura Daily Top Picks: SEAFCO, PYLON, XO
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “UP” ต้าน 1707/1714จุด รับ 1688/1680จุด ตลาดหุ้นDow Jones สหรัฐฯยังคงปรับฐาน หลังวานนี้ย่อ -89.44จุด หรือ -0.35% จากแรงถ่วงของกลุ่มเทคโนโลยี หลังตลาดประเมินผลประกอบการอาจไม่สดใส แต่อย่างไรก็ตามการสร้างฐานที่บริเวณ 25,000จุด+/- ซึ่งเป็นแนวรับค่าเฉลี่ย 200วัน น่าจะมีความแข็งแรง หนุนการฟื้นตัวระยะสั้น ประกอบกับ MSCI EM-ASIA Index ปัจจุบันมีค่า Forward PER เพียง 10เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 10.75เท่า สะท้อนตลาดหุ้นเอเชีย Upside Risk เริ่มเปิดกว้าง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่แรงกดดันผ่อนคลายลง หลัง US Bond Yield 10ปี ลดลงมาสู่ระดับ 3.15% และ Dollar Index อ่อนค่าต่อเนื่องสู่ 95.05จุด หนุนค่าเงินเอเชียเช้าวันนี้แข็งค่า -0.05% เช่นเดียวกับค่าเงินบาทแข็งค่าสู่ 32.64บาทต่อเหรียญฯ เป็นจิตวิทยาบวกต่อตลาดเอเชีย โดยวานนี้ต่างชาติกลับมาซื้อหุ้น TIPS บางๆ เป็นครั้งแรกในรอบ 9วันทำการ รวม 11.58ล้านเหรียญฯ เป็นจิตวิทยาบวกต่อตลาดหุ้นไทย ส่วนประเด็นที่น่าสนใจ 1) นโยบายคว่ำบาตรอิหร่าน กำลังหนุนราคาน้ำมันดิบโลกฟื้นตัว ล่าสุดเดือน กย 2018 เกาหลีใต้ไม่นำเข้านำมันจากอิหร่านเป็นครั้งแรกในรอบ 6ปี 2)จับตารายงานนโยบายค่าเงินของสหรัฐฯ หลังระบุถึง จีน อินเดีย เยอรมัน ไทย เป็นกลุ่มที่ค่าเงินอ่อนเกินจริง 3)สมาคมธนาคารจะหารือเรื่องมาตรการควบคุมอสังหาฯ วันนี้ ก่อนเสนอแบงค์ชาติ และ 4)มาบตาพุดเฟส 3เข้าครม วันนี้ หนุนกลุ่ม EEC และอิงการลงทุนเด่น
Asset allocation : หุ้น 75% และเงินสด 7.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
Daily Strategy : ถือหุ้น 75% Sector Rotation เน้นสะสม Domestic Play BBL, KBANK, TMB, CPALL, ROBINS, ADVANC, CK, STEC, PYLON, AMATA, GOLD, SC, ERW, BH, และ Global Play (PTT, PTTEP) วันนี้เน้น “Theme “Mid-Small Cap Play”
BANK : เสวนากังวลดอกเบี้ยต่ำวันนี้ จะหนุนโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยปลายปี และต้นสัปดาห์หน้าจะเริ่มทยอยประกาศผลประกอบการ กลยุทธ์แนะนำเก็งกำไรกลุ่มที่คาดกำไรโต qq yy ได้แก่ TMB(+2.1%yy, +6.1%qq), BBL(+16.4%yy, +3.3%qq), คาดประกาศ ดังนี้ 17ตค(TMB), 18ตค(TCAP, SCB, BBL), 19ตค(KBANK, KTB)
Golden Week 1-7ตค 2018 นักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัว +2.77%y-y และวันที่ 18 ตคนี้ ทางการจะหารือมาตรการเสริมการท่องเที่ยว(Double VISA) หนุน AOT, ERW, SPA
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน(TFFIF) กำลังจะเปิดขาย IPO 12-19 ตค ผสาน TOR 4 โครงการเร่งด่วน เข้า ครม 16 ตค หนุน STEC, AMATA, WHA, CK, PYLON
หุ้นเก็งเข้า MSCI รอบเดือน พย 2018 GULF, TOA
กลุ่ม รฟฟ เด่นการเติบโต เน้น GULF BGRIM PSTC BWG
OCT 2018 Portfolio Top Picks : AMATA GUNKUL PTT TMB SC STEC
2H18 Theme Domestic : Election play when oil surge
Best Picks 2H18 : PTT, IVL, BBL, KBANK, CPALL, CK, STEC, SEAFCO, PYLON, AMATA, GOLD
1. Index Driver : PTT, BBL, KBANK, CPALL, PTTEP, IVL
2. Government Spending : STEC, CK, PYLON, SEAFCO, AMATA, ROJNA, SCC
3. Property : GOLD, SC
4. Tourism & Transport : ERW, BTS
5. Global Play : IVL, PTL
6. ICT : ADVANC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
SEAFCO (TP19F 11.8*): Support 9.6/9.4 Resistant 10.0/10.2
Theme: Investment Related Play
Earnings Outlook: คาดกำไรสุทธิ 3Q18F ยังอยู่ในระดับสูงที่ 97.8 ลบ. เติบโตสูง +117% y-y, +5% q-q ตามลำดับ จากอานิสงค์รับรู้รายได้งานเสาเข็มโครงการ One Bangkok และงานกำแพงกันดินของรถไฟใต้ดินสายสีส้มเต็มไตรมาส หนุนรายได้รวม ทำ All-time high ต่อเนื่องอีกครั้งที่ 721 ลบ. เพิ่มขึ้น +71% y-y, +9% q-q จากมีรายได้ส่วนเพิ่มจากงานรถไฟฟ้าสีชมพู และคาด GPM ใกล้เคียงเดิมที่ 23.3% (2Q18: 23.4%)
Valuation: ปรับมูลค่าพื้นฐานขึ้นอิง 2019F ที่ 11.8 บาท อิง PER19F ที่ 23x (+1SD) รับขาขึ้นของการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนรอบใหญ่
Catalyst: คาดกำไรสุทธิ 3Q18F ยังอยู่ในระดับสูงที่ 97.8 ลบ. เติบโตสูง +117% y-y, +5% q-q พร้อม Potential upside จาก 4 โครงสร้างพื้นฐาน EEC มูลค่า 4.7 แสนลบ. + รถไฟฟ้าความเร็วสูง 3 สนามบิน น่าจะมีความชัดเจนในช่วง 4Q18-1Q19 หนุน Backlog เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
PYLON (TP19F 10*): Support 7.25/7.1 Resistant 7.5/7.75
Theme: Earnings Play
Earnings outlook: คาดกำไรสุทธิ 3Q18F 67.4 ลบ. (+1322% y-y, +117% q-q) จากฐานรายได้เข้ามาต่อเนื่อง (งานก่อสร้างรถไฟฟ้า) ใช้งานเสาเข็มได้เต็มประสิทธิภาพ กอปรกับงานส่วนใหญ่เป็นงานขนาดใหญ่ ซึ่งมีอัตรากำไรขึ้นต้นอยู่ในระดับสูง โดยปัจจุบัน Backlog คาดอยู่ในระดับ 1.1 พันลบ. Secure รายได้ไปแล้วจนถึงต้นปี 2019F
Valuation: ราคาหุ้นซื้อขาย PER 19F ระดับ 20x ใกล้เคียงปกติและเหมาะสม ยังเป็นจุดที่เข้าลงทุนได้ดี รับภาพ Election rally และมี Earning momentum ดี
Catalyst: คาดกำไรสุทธิ 3Q18F เติบโตเด่นที่ 67.4 ลบ. เพิ่มขึ้นทั้ง +1,322% y-y จากฐานต่ำในปีก่อนหน้า และ +117% q-q จาก เห็นสัญญาณภาวะ Supply ของกำลังผลิตเสาเข็มในประเทศเริ่มตึงตัวและไม่เพียงพอ (รถไฟฟ้า + ลงทุน EEC) สำหรับโครงสร้างพื้นฐานและโครงการภาคเอกชนที่เร่งลงทุนต่อเนื่อง คาดมีแนวโน้มที่ PYLON จะซื้อเครื่องจักรเพิ่มมากกว่าตลาดคาด เพื่อรองรับงานเสาเข็มที่ Demand มากล้นตลาดในปี 2019F อุตสาหกรรมเสาเข็มเข้าสู่ Bullish cycle เต็มตัว
XO (TP19F 12.6*): Support 10.0/9.6 Resistant 10.8/11.2
Theme: Earnings Momentum
Earning outlook: แนวโน้มกำไรโตเด่น y-y ต่อเนื่องอีกอย่างน้อย 4 ไตรมาส จากผลบวกของการล็อคต้นทุนวัตถุดิบราคาต่ำ ปรับราคาขาย คุมค่าใช้จ่ายโรงงานใหม่ และเร่งขยายฐานลูกค้า โดยล่าสุด เริ่มวางขายสินค้าใน คิงเพาเวอร์ 3 แห่ง หนุนกำไร 18F/19F โต 223%y-y/ 29%y-y สู่ระดับ 190.5 และ 246 ล้านบาท
Valuation: วันนี้ CNS ปรับมูลค่าเหมาะสมปี 19F ขึ้นเป็น 12.6 บาท/หุ้น (จากเดิม 11.7) เปิด Upside 23.5% ทั้งนี้ราคาปัจจุบันยังซื้อขายที่ระดับ PER19F ต่ำเพียง 17.6x คิดเป็น PEG19F 0.6x
Catalyst: คาดกำไรสุทธิ 3Q18F จะเร่งตัวขึ้นทำ All time high ที่ 51.8 ล้านบาท เติบโตโดดเด่น +170%y-y, +20%q-q
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical
[email protected] 0-2081-2771
Yada Kampalanonwat : Analyst Registration No. 083785
Fundamental Investment Analyst on Securities
[email protected] 0-2081-2783
OO15059