กลยุทธ์ : แม้ว่าเราจะเชื่อว่าแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศจะยังคงมีอยู่ในช่วงนี้ แต่น่าจะเริ่มชะลอตัวลงจาก 1) U.S. Bond Yield เริ่มปรับตัวลง 2) ค่าเงินบาทเริ่มกลับมาแข็งค่าในปลายสัปดาห์ก่อน 3) ปริมาณการถือครองหุ้นของต่างประเทศ (foreign ownership) ลดลงต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี และมีโอกาสที่จะกลับมาซื้อคืนหากการเลือกตั้งมีความชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นในต้นปีหน้า ปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ประกอบด้วย 1) การประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 ของกลุ่มธนาคาร 2) การคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 3/61ของหุ้นนอกกลุ่มธนาคาร 3) U.S. Bond Yield 10 ปีของสหรัฐฯ 4) ทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก 5) ความคืบหน้ากรณีสหรัฐขู่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2.67 แสนล้านดอลลาร์ 6) DTAC จะยื่นเอกสารเข้าประมูลคลื่น 900 MHz ในวันที่ 16 ต.ค. หรือไม่ และ7) หุ้น IPO โอสถสภา (OSP) เข้าซื้อขายวันแรกในวันที่ 17 ต.ค. เรามองว่าตลาดในวันนี้มีโอกาสที่จะเปิดมาปรับตัวลงได้จากแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศ แต่น่าจะมีแรงซื้อสู้มาจากกองทุนใปประเทศเพื่อพยุงดัชนีไม่ให้หลุดลงไปต่ำกว่า 1680 จุดได้ โดยหุ้นกลุ่มธนาคารน่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 3/61 ที่จะทยอยประกาศออกมาในสัปดาห์นี้ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานก็น่าจะมีแรงซื้อคืนเข้ามาหลังราคาน้ำมันดีดขึ้นจากความกังวลความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับซาอุฯ ได้ วันนี้มองแนวรับที่ 1688-1690 จุดและแนวต้านที่ 1700-1710 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร AOT BJC PTTGC TMB TRUE

 

  CPF : เราแนะนำ ซื้อ CPF โดยมีราคาเป้าหมาย 27.25 บาท โดยเราคาดว่า CPF จะมีกำไรปกติ 3 พันล้านบาท (+11% yoy, +27% qoq) ใน 3Q18 จากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่เพิ่มเป็น 13.4% (12.2% ใน 2Q18, แต่ยังต่ำกว่า 13.9% ใน 3Q17) ซึ่งเป็นผลมาจาก 1) ราคาสัตว์บกและสัตว์ปีกสูงขึ้น, 2) ราคาสุกรในเวียดนามปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง, 3) ต้นทุนอาหารสัตว์ลดลงและ 4) ไตรมาสนี้ปกติเป็นไฮ-ซีซั่นของการส่งออก ในอดีต ราคาไก่เนื้อและสุกรจะอยู่ในวงจรขาลงประมาณ 1-2 ปี เราจึงคาดว่าราคาน่าจะทยอยปรับตัวขึ้นในปี FY19 และถึงแม้ราคาไก่และสุกรน่าจะไม่ปรับตัวขึ้นอย่างก้าวกระโดดเพราะคาดจะยังมีอุปทานล้นตลาดในปีหน้า แต่เราเชื่อว่า downside มีอยู่จำกัดเพราะราคาหุ้นในปัจจุบันต่ำกว่าต้นทุนของผู้ผลิตส่วนใหญ่ นอกจากนี้ เราคาดว่าราคาสุกรในเวียดนามจะทรงตัวในระดับสูงอย่างน้อยจนถึง 1H19เราเล็งเห็นปัจจัยผลักดันราคาหุ้นจากราคาสัตว์บกที่ฟื้นตัวเร็วกว่าคาด ส่วน downside riskต่อคำแนะนำคือราคาสัตว์บกลดลงและต้นทุนอาหารสัตว์สูงขึ้น

 

  16 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Industrial Production เดือนก.ย. โดยตลาดคาด -0.1% จากเดือนก่อนหน้าที่ 0.4%

  17 ต.ค. : คาด TMB ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 โดยเราคาดมีกำไรสุทธิ 2,167ล้านบาท (+8.2% yoy, +6.9% qoq)

  17 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Housing Starts เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 1.2 ล้านยูนิต จากเดือนก่อนหน้าที่ 1.282 ล้านยูนิต

  17 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Building Permits เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 1.275 ล้านยูนิตจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.229 ล้านยูนิต

  18 ต.ค. : คาด SCB ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 โดยเราคาดมีกำไรสุทธิ 10,691ล้านบาท (+5.5% yoy, -3.8% qoq)

  18 ต.ค. : คาด BBL ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 โดยเราคาดมีกำไรสุทธิ 8,933ล้านบาท (+9.4% yoy, -2.8% qoq)

  18 ต.ค. : คาด KBANK ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 โดยเราคาดมีกำไรสุทธิ 9,243ล้านบาท (-2.5% yoy, -15.3% qoq)

 

  TISCO : Company Note คำแนะนำ: ขาย ราคาเป้าหมาย 72 บาท

 

  กลยุทธ์ : SET Index ปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญของเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 1700 จุดลงไป ทำให้แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1670 จุด และมีแนวรับถัดไปที่ 1630จุดเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ โดยมีแนวต้านสำคัญที่1695-1700 จุด

  BEC World (BEC TB; THB 6.70) – ซื้อ

  PTG Energy (PTG TB; THB 11.40) – ซื้อ