- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Saturday, 13 October 2018 00:12
- Hits: 22781
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selections >> BDMS, ROBINS, UREKA
Stock S R Comment
BDMS 24.00 27.00 ขยายฐานรายได้ รับผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น
ROBINS 62.50 67.00 เพิ่มสัดสวนสินค้า Private Brand หนุนอัตราการทำกำไร
UREKA 1.31 1.55 ประมูลงานต่อเนื่อง ธุรกิจเครื่องจักรกล AI สอดคล้องธีม Thailand 4.0
It's a trading market, not trending market
SET : SET Index ปรับตัวลงสู่กรอบแนวรับสำคัญของเราเมื่อวานนี้ที่ 1680 จุด แนะนำนักลงทุนที่เข้าซื้อหุ้นไปที่บริเวณดัชนี 1700 จุดและ 1680 จุดถือหุ้นต่อไปได้ การปรับฐานครั้งนี้ไม่ได้ตามมาด้วยประมาณการ EPS ที่ปรับลง ระดับ PE จึงมีความน่าสนใจมากขึ้น และมองเป็น Healthy correction ส่วนการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ เราประเมินว่าอาจต้องรอให้ Bond yield 10 ปีของสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะสมดุลมากกว่านี้ที่ราว 3.0 - 3.1% (ล่าสุดอยู่ที่ 3.17%) ดังนั้นเราจะยังคงไม่เห็นการเข้าซื้อของนักลงทุนต่างชาติอย่างมีนัยสำคัญในช่วงนี้ต่อไป
Thai yield : ถึงแม้เราจะเห็นปรากฏการณ์โยกย้ายเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในช่วงนี้ จากระดับ Earning yield gap ที่ถูกกดดันและยังคงอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย (ดูรูป) แต่หากพิจารณาเฉพาะสินทรัพย์ในประเทศ เราประเมินว่าอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ไทยยังไม่อยู่ในระดับที่จะจูงใจให้มีการโยกย้ายเงินลงทุนออกจากตลาดหุ้นไปสู่ตราสารหนี้มากนัก เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา Bond yield ของไทยปรับขึ้นมาน้อยมากโดยเปรียบเทียบ จนทำให้ล่าสุดระดับ Earning yield gap ของตลาดหุ้นไทยที่เทียบกับพันธบัตรไทยยังคงอยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ย และเพิ่มขึ้นอีกด้วยภายหลังจากการปรับฐานของหุ้นครั้งนี้ (ดูรูป) เราจึงประเมินว่านักลงทุนในประเทศจะยังไม่มีแรงจูงใจในการทำ Asset allocation มากนัก ทั้งนี้ จากการคำนวณของเราพบว่า ระดับ Bond yield 10 ปีของไทยที่จะทำให้ Earning yield gap ปรับเข้าสู่ค่าเฉลี่ย จนอาจทำให้มีการโยกย้ายเงินออกจากตลาดหุ้นอย่างมีนัยสำคัญนั้นจะอยู่ที่ราว 3.3% ซึ่งยังคงห่างไกลจากระดับปัจจุบันที่ 2.86% อย่างมาก
Sideways : เรายังคงมั่นใจว่าตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ยังคงเป็นตลาด Sideways แบบสมบูรณ์แบบ เนื่องจากไม่เห็นปัจจัยที่จะเป็นแรงผลักดันหรือแรงกระแทกดัชนีที่สำคัญจนทำให้เกิดเป็น Trend ขาขึ้นหรือขาลงแต่อย่างใด นอกจากนั้น พฤติกรรมของนักลงทุนต่างชาติในช่วงหลังถึงแม้จะมีการขายสุทธิในตลาด Spot แต่หากดูในตลาด Futures จะพบว่าเป็นลักษณะของการ Trading อย่างเต็มตัว ยกตัวอย่างเช่นเมื่อวานนี้ที่ดัชนีมีการปรับตัวลง นักลงทุนกลุ่มนี้ก็พร้อมใจ Long สุทธิกลับอย่างมีนัยสำคัญกว่า 23,000 สัญญา ถือเป็นยอด Long สุทธิสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ด้วยภายใต้ภาวะตลาด Sideways นี้ เราจึงย้ำกลยุท์การลงทุนที่สำคัญอีกครั้งว่า การ Follow buy หรือ Follow sell นั้นมีโอกาสผิดพลาดอย่างสูง และยังคงแนะนำให้ใช้กลยุทธ์ขึ้นขาย-ลงซื้อตามกรอบแนวต้านแนวรับของเราต่อไป
Bouncing stocks : มองหุ้นที่น่าสนใจสำหรับการเข้าสะสมในช่วงตลาดปรับฐานนี้ ได้แก่หุ้นที่มีลักษณะดังต่อไปนี้
1) เป็นหุ้นขนาดใหญ่ใน SET50
2) เป็นหุ้นที่มีการปรับตัวลงมามากกว่าดัชนีนับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา
3) เป็นหุ้นที่มีค่า Beta มากกว่า 1
4) เป็นหุ้นที่เราแนะนำ "ซื้อ" ในเชิงพื้นฐาน
ซึ่งจากการคัดกรองของเราล่าสุดพบว่า ได้แก่ TU, MINT, ROBINS, PTTEP, PTT
แนวรับ 1,675 แนวต้าน 1,697
บทวิเคราะห์วันนี้ :
TISCO (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 110 บาท) กำไร 3Q61 ได้ปัจจัยหนุนจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย
Today's Event :
SENA ลูกหุ้นเข้า 247,954 หุ้น
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
OO15012