หาจังหวะสะสมหุ้นเป้าหมาย หากราคาหุ้นปรับตัวลงแรงผิดปกติจากภาวะตลาด

 

  ราคาปิด 140.50 บาท

  ราคาเหมาะสม 153.00 บาท

          เรามองว่าหุ้นกลุ่มธนาคารมีโอกาสฟื้นตัวในสัปดาห์หน้าจากแรงเก็งกำไรงบ 3Q61 ล่าสุด TISCO, KTC รายงานกำไรออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดแต่ใกล้เคียงกับที่เราคาดการณ์ เป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่ม 

          SCB รายงานงบวันที่ 18 ต.ค. เราคาดกำไร 3Q61 ที่ 1.11 หมื่นล้านบาท +9.8% YoY และ +1.0% QoQ พร้อมโอกาสที่งบจะดีกว่าคาดจากการตั้งสำรองที่ลดลง ขณะที่การลงทุนระบบ IT หนักๆ ไปแล้วในช่วงก่อนหน้า หนุนการเติบโตระยะยาวให้โดดเด่นเหนือกลุ่ม

 

  ราคาปิด 45.00 บาท

  ราคาเหมาะสม 60.00 บาท

          ภาพอุตฯ ไฟแนนซ์มีความชัดเจนขึ้น หลังครม.อนุมัติหลักการ พ.ร.บ.กำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน โดยไม่มีเงื่อนไขกำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ย เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ เช่น SAWAD และ MTC

          ขณะที่กำไรของ SAWAD ใน 3Q61 เราคาดเติบโต +12% YoY และ +15% QoQ เป็น 696 ล้านบาท รวมทั้งคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น คาด NPL ลดลงเหลือ 5.2% ใน 3Q61 จาก 5.4% ใน 2Q61

 

  ราคาปิด 18.80 บาท

  ราคาเหมาะสม 20.80 บาท

          เราคาดว่าหุ้น Defensive อย่างกลุ่มโรงพยาบาลจะทนแรงเสียดทานของตลาดที่ผันผวนได้ดีกว่าหุ้นกลุ่มอื่นๆ อีกทั้งกำไรใน 2H เข้าสู่ไฮซีซั่นของธุรกิจ หนุนต่อผลการดำเนินงานโตเด่น

          เบื้องต้นเราประเมินกำไรใน 3Q61 คาดเติบโต QoQ และ YoY จากภาวะฝนตกที่ยาวนานกว่าปกติ รวมถึง WMC ที่กลับมามีกำไรตั้งแต่ 2Q61 ที่ผ่านมา ดังนั้น เราคาดกำไรปกติปี 2561 เติบโต +21% YoY เป็น 1,102 ล้านบาท และต่อเนื่อง +13% ในปี 2562 เป็น 1,241 ล้านบาท

 

  ราคาปิด 62.50 บาท

  แนวต้านทางเทคนิค 64.00 บาท 

          ภาพทางเทคนิคมีโอกาสฟื้นตัว หลังปรับตัวเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 62.00 บาท +/- เราคาดว่ามีโอกาสรีบาวน์ขึ้นทดสอบ 64.0 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 61.75 บาท 

          ราคาหุ้นที่ปรับตัวบงสะท้อนปัจจัยลบจากนักท่องเที่ยวจีนที่ชะลอตัวแล้ว ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนช่วง Golden Week (วันที่ 1-7 ต.ค.) +2.8% YoY ดีกว่าคาดของตลาดที่คาดว่าจะหดตัว YoY ช่วยลดความกังวลให้กับตลาด

          คืนวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างดัชนี DJIA และ S&P500 ยังปิดลบเป็นวันที่ 2 อีกราว 2% ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียยังไม่สดใส หรือหากฟื้นตัวในวันนี้เชื่อว่าจะเป็นไปได้อย่างจำกัด สำหรับภาพตลาดหุ้นไทยวานนี้เกิดแรงขายแบบแพนนิค เปิด Gap ลงลึกลงไปแกว่ง 1680 จุด +/- พร้อมแรงขายจากต่างชาติทะลุหลัก 1 หมื่นล้านบาท เป็นครั้งที่ 2 ในรอบปีนี้ โดยมีรายการ Big Lot หุ้น KBANK/ KBANK-F/ PTT รวมกันกว่า 3.8 พันล้านบาท สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยในวันนี้ เราคาด SET INDEX อ่อนตัวลงต่อจากบรรยากาศดังกล่าวสู่แนว 1650-1655 จุด คิดเป็น PER61 ที่ 15.28x ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีของ 1Yr Forward PER ที่ 15.24x บนภาพรวมเศรษฐกิจและการทำกำไรของตลาดหุ้นไทยยังแข็งแกร่ง ณ บริเวณนี้เชื่อว่าจะมีนักลงทุน Bargain Hunter เริ่มเข้ามาสะสมหุ้นหลักที่ผลการดำเนินงานแกร่ง และ Valuation เริ่มน่าสนใจ

          สำหรับผลการดำเนินงานของ TISCO / KTC ออกมาใกล้เคียงที่เราคาด แต่ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ อาจเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเริ่มหันกลับมามองกลุ่มธนาคารที่จะประกาศงบในสัปดาห์หน้า รวมถึงกลุ่มไฟแนนซ์อย่าง MTC/ SAWAD ได้เช่นกัน

          กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ เน้นทยอยสะสมเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว (Buy on Weakness) ในกลุ่ม Domestic Play ที่แนวโน้มผลประกอบการ 3Q61 โตเด่นกว่ากลุ่ม หรือ Valuation ปรับลงมาอยู่ในโซนปลอดภัย หรือมีการจ่ายปันผลระดับสูงเป็นเบาะรองรับ ได้แก่ ADVANC/ BBL/ SCB/ BJC/ AMATA/ SAWAD เป็นต้น

          ปัจจัยติดตามสัปดาห์หน้า ได้แก่ การรายงานผลการดำเนินงาน 3Q61 ของกลุ่มธนาคาร วันที่ 18-19 ต.ค. และ DTAC วันที่ 17 ต.ค./ การรายงาน GDP 3Q61 ของจีน วันที่ 19 ต.ค. 

          บทวิเคราะห์สำคัญวันนี้ของเราได้แก่ คาดการณ์งบการเงิน 3Q61 ของหุ้น CPF/ TTW รวมถึงประเด็นการยกเลิกดีลการซื้อ GLOW ของ GPSC และผลกระทบจากการโอนสินทรัพย์ PTTOR ของ PTT

 

          1. ต่างชาติขายสุทธิวานนี้ 1.05 หมื่นล้านบาท สูงสุดตั้งแต่ เดือน ส.ค.2556 เกิดอะไรขึ้น?

          2. กกพ.มีมติไม่อนุมัติให้ GPSC เข้าซื้อ GLOW เรามองอย่างไร 

          3. กลุ่มธนาคารเริ่มรายงานงบ 3Q61 แล้ว งบ TISCO ออกมาเป็นอย่างไร?

          4. Preview งบ 3Q61 ของ TTW หุ้น Defensive ที่น่าสนใจเมื่อภาวะตลาดผันผวน

 

          วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลดลงแรงถึง 38.93 จุด (-2.26%) ปิดที่ 1682.89 จุด ซึ่งสอดคล้องกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวลดลงแรงวานนี้ โดยมูลค่าการซื้อขายของ SET INDEX อยู่ที่ระดับ 8.3 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากรายการ Big Lot หุ้น KBANK และ KBANK-F มูลค่ารวม2.7 พันล้านบาท และ PTT มูลค่า 1.0 พันล้านบาท 

          กระแสเงินทุน : นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 8 หนาแน่นถึง 1.1 หมื่นล้านบาท สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค. 2556 รวม 8 วันทำการขายสุทธิสะสม 3.1 หมื่นล้านบาท ขณะที่สถาบันในประเทศซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 อีกราว 1.7 พันล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิสะสมรวมราว 9.2 พันล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิหนาแน่นถึง 2.3 หมื่นสัญญา นับเป็นวันที่ 3 รวมราว 3.1 หมื่นสัญญา สวนทางกับกลุ่มสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิ 7.4 พันสัญญา 

          ตลาดตราสารหนี้ : นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการราว 811 ล้านบาท

 

 

กกพ. มีมติไม่เห็นชอบต่อคำขออนุญาตของ GPSC เพื่อเข้าซื้อหุ้น GLOW โดย GPSC อยู่ระหว่างพิจารณาว่า จะยื่นอุทธรณ์มติ กกพ. ดังกล่าวหรือไม่

กบง. มีมติเพิ่มเงินชดเชยน้ำมันดีเซลเป็นไม่เกิน 1.50 บาท/ลิตร หากราคาน้ำมันดิบดูไบเคลื่อนไหวในกรอบ US$82.5-87.5/บาร์เรล แต่หากราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ในระดับต่ำกว่า US$82.5/บาร์เรล จะชดเชยไม่เกิน 1 บาท/ลิตร

ดร.สมคิด รองนายกรัฐมนตรี เผยเตรียมหารือกับ PTT เพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยไม่ให้ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น

ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจสหรัฐฯเผยอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อให้มีการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีของสหรัฐฯและจีนได้เข้าเจรจากันก่อนประชุม G20

EIA รายงายสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล

สหรัฐฯรายงานเงินเฟ้อเดือน ก.ย. ขยายตัว 2.3%YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อยที่ระดับ 2.4%YoY

ติดตามการรายงานนำเข้า-ส่งออกจีน เดือน ก.ย. ตลาดคาดส่งออกขยายตัว 9.5%YoY และนำเข้าขยายตัว 15.6%YoY วันที่ 12 ต.ค.

ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า

 

ติดตามการรายงานเงินเฟ้อจีนเดือน ก.ย. ตลาดคาดขยายตัว 2.5% YoY วันที่ 16 ต.ค.

ติดตามการรายงานเงินเฟ้ออังกฤษ และอียู เดือนก.ย. ในวันที่ 17 ต.ค.

ติตตามการรายงานเงินเฟ้อ ญี่ปุ่น เดือนก.ย. ตลาดคาดขยายตัว 1.3% YoY และการรายงาน GDP 3Q61 ของจีน ตลาดคาดขยายตัว 6.6% YoY วันที่ 19 ต.ค.