CNS Daily Strategy: คาดตลาด “ย่อในกรอบ” ต้าน 1722/1725 จุด รับ 1705/1690จุด จิตวิทยาการลงทุนเป็นลบ หลังหุ้นเทคโนโลยี และกลุ่มสินค้าแบรด์เนมสหรัฐฯ ย่อลงถ่วงตลาด แต่อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยไม่ได้มีกลุ่มเทคโนโลยี หรือ เป็น Supply Chain ของกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย น่าจะทำให้การปรับฐานจำกัดกว่า กอปรกับ สัญญาณ Bond Yield 10ปี ของสหรัฐฯ ลดลงต่อเนื่องสู่ 3.161% เช่นเดียกับ Dollar Index ที่อ่อนค่าลง ช่วยลดความเสี่ยงต่อ Outflow ขณะที่ปัจจัยภายในยังเชิงบวก หลัง ครม. มีมติเห็นชอบ การสรรหา สว. ตามกรอบของ กกต และพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่งจะช่วยจำกัด Downside  วันนี้แนะนำ Theme “Domestic Play” : BBL, TMB

 

 

(+) US: Bond yield  10 ปี ลดระดับลงต่อเนื่องเช้านี้อยู่ที่ 3.161%

(+) US :Dollar Index ที่อ่อนค่าลง 95.402 จุด

(+) TH: ครม.เห็นชอบ พ.ร.ฎ.และเริ่มกระบวนการเลือก ส.ว. ตามกรอบกกต แล้ว

(-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -2.39 % สู่ $73.17 /bbl / BRT -2.25% สู่ $83.09 /bbl

(*) Fund Flow:ล่าสุดขายหุ้น -1806 ลบ., Long Future +548 สัญญา, ซื้อ Bond +4859ลบ.

Nomura Daily Top Picks: BBL, TMB

 

Equity Daily Outlook :  คาดดัชนีวันนี้ “ย่อในกรอบ” ต้าน 1722/1725จุด รับ 1705/1690จุด จิตวิทยาการลงทุนโลกเป็นลบ หลังหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มีค่า PER สูง เริ่มถูกขายทำกำไรต่อเนื่อง หลัง Bond Yield ของสหรัฐฯ ยืนเหนือ 3% เป็นเหตุให้ขายหุ้น High PER กอปรกับทางการจีนมีมาตรการให้ ตม. คุมเข้มการนำเข้าสินค้า Luxury กดดันกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย LVMH ทำให้หุ้นสินค้า Brand Name  ลดลงอย่างหนักถ่วงตลาด แต่อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยไม่ได้มีกลุ่มเทคโนโลยี หรือ เป็น Supply Chain ของกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย น่าจะทำให้การปรับฐานจำกัดกว่า กอปรกับ สัญญาณ Bond Yield 10ปี ของสหรัฐฯ หลังทยานขึ้นแตะ 3.259% เมื่อ 2 วันก่อน ก็ลดระดับลงต่อเนื่องเช้านี้อยู่ที่ 3.161% สะท้อนตลาดซึมซับความเสี่ยงล่วงหน้าไปมากแล้ว   เช่นเดียวกับ Dollar Index ที่อ่อนค่าลง 95.402จุด ช่วยลดความเสี่ยงต่อ Outflow ให้ชะลอลง ส่วนปัจจัยภายในประเทศ ภาพการเมืองยังเดินหน้าตาม Road Map หลังครม.เห็นชอบ พ.ร.ฎ.และเริ่มกระบวนการเลือก ส.ว. ตามกรอบกกต แล้ว เป็นปัจจัยบวกต่อภาพ Election Rally ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนเฉพาะตัวของไทย ส่วนปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องติดตาม 1) ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบังเผยโครงการแหลมฉบังเฟส 3 เครียมเสนอครม.สัปดาห์หน้า เป็นสัญญาณบวกกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานเชื่อม EEC เร่งด่วน 4โครงการ มีความต่อเนื่อง  2) วันนี้ ธปท.จะพบผู้ประกอบการอสังหาฯเพื่อรับฟังความคิดเห็นมาตรการควบคุมอสังหาฯ น่าจะมีสัญญาณบวก และ 3) ธปท.จัดเสวนาทิศทางและบทบาทธนาคารกลางในอนาคต เชิญอดีตผู้ว่าการแบงก์ชาติ 8 ประเทศ แลกเปลี่ยนความเห็น ประเมินดอกเบี้ยต่ำนาน เพิ่มความเสี่ยงในภาคอสังหา-ครัวเรือน จะเป็นปัจจัยหนุนโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยปลายปีนี้ หนุนกลุ่ม ธนาคาร

 

 

Daily Strategy : ถือหุ้น 75% Sector Rotation เน้นสะสม Domestic Play BBL, KBANK, TMB, CPALL, ROBINS, ADVANC, CK, STEC, PYLON, AMATA, GOLD, SC, ERW, BH, และ Global Play (PTT, PTTEP) วันนี้เน้น “Theme “Domestic Play”

 

BANK : เสวนากังวลดอกเบี้ยต่ำวันนี้ จะหนุนโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยปลายปี และต้นสัปดาห์หน้าจะเริ่มทยอยประกาศผลประกอบการ กลยุทธ์แนะนำเก็งกำไรกลุ่มที่คาดกำไรโต qq yy ได้แก่ TMB(+2.1%yy, +6.1%qq), BBL(+16.4%yy, +3.3%qq), คาดวันประกาศงบ ดังนี้ 11 ตค(TISCO), 17ตค(TMB), 18ตค(TCAP, SCB, BBL), 19ตค(KBANK, KTB, KKP)

Golden Week 1-7ตค 2018 นักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัว +2.77%y-y และวันที่ 18 ตคนี้ ทางการจะหารือมาตรการเสริมการท่องเที่ยว(Double VISA) หนุน AOT, ERW, SPA

กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน(TFFIF) กำลังจะเปิดขาย IPO 12-19 ตค ผสาน TOR 4 โครงการเร่งด่วน เข้า ครม 16 ตค หนุน STEC, AMATA, WHA, CK,  PYLON

หุ้นเก็งเข้า MSCI รอบเดือน พย 2018 GULF, TOA

กลุ่ม รฟฟ เด่นการเติบโต เน้น GULF BGRIM PSTC BWG

OCT 2018 Portfolio Top Picks : AMATA GUNKUL PTT TMB SC STEC

Road to Election 2019 : PTT, PTTEP,  BBL, KBANK, TMB,  CPALL, ROBINS, ADVANC,  STEC, AMATA, SC, GOLD, PLANB

 

2H18 Theme Domestic : Election play when oil surge

 

Best Picks 2H18 : PTT, IVL, BBL, KBANK, CPALL, CK, STEC, SEAFCO, PYLON, AMATA, GOLD

1.  Index Driver : PTT, BBL, KBANK, CPALL, PTTEP, IVL

2.  Government Spending : STEC, CK, PYLON, SEAFCO, AMATA, ROJNA, SCC

3.  Property : GOLD, SC

4.  Tourism & Transport : ERW, BTS

5.  Global Play : IVL, PTL

6.  ICT : ADVANC

 

 

BBL (TP19F  244.0*):  Support 208/204 Resistant 214/218

 

Earnings Outlook: คาดกำไรสุทธิ 3Q18F 9,500 ลบ. เติบโตเด่น +16% y-y เพราะการตั้งสำรองที่ลดลง จากคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น ประกอบกับคาดรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ตามสินเชื่อที่โต +6.5% y-y และคาดกำไร 4Q18F เติบโต y-y ผลักดันจากสินเชื่อยังเติบโต และรักษา NIM ใกล้เคียงเดิมได้ ทำให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น รวมถึงคาดการตั้งสำรองที่ลดลง

Valuation: ราคาเริ่ม Outperform แต่ยังเป็นจุดที่ลงทุนได้ และมี Valuation ที่ถูกกว่ากลุ่ม มี PBV19F เพียง 0.9x (ค่าเฉลี่ย -0.5SD) และต่ำกว่ากลุ่มมาก (1.13x)

Catalyst: มองกลุ่ม Bank จะกลับมานำตลาดได้จากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น และเม็ดเงินต่างชาติที่กลับมาซื้อต่อเนื่อง คาดรายงานผลประกอบการ 3Q18 วันที่ 18 ต.ค.18        

TMB (TP19F 2.5*): Support 2.32/2.28 Resistant 2.4/2.44

 

Earnings Outlook: เราคาดกำไรสุทธิผ่านจุดต่ำสุดแล้ว โดย 3Q18F คาดทยอยฟื้นตัวอยู่ที่ 2.15 พันลบ. (+2.1% y-y, +6.1% q-q) จากสินเชื่อฟื้นตัว, สำรองทรงตัว และคาดกำไร 4Q18F ยังเป็นภาพเติบโต y-y, q-q และต่อเนื่องใน 2019F ที่ +11% y-y นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยี จึงพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิตัลของกลุ่มธนาคาร

Valuation: ราคาหุ้น Laggard กลุ่ม Bank โดย YTD -22.5% VS กลุ่ม -3.3% ตอบรับการลดประมาณการของตลาดก่อนหน้านี้ไปแล้ว และยัง Under-owned อยู่มาก โดยราคาปัจจุบันเป็นโซนซื้อที่ได้เปรียบ PER19F 10.6 เท่า และ PBV19F เพียง 1.0 เท่า โดยหลังปี 2010 เป็นต้นมา PBV Zone 1.0-1.1เท่า คือจุดซื้อในเชิงพื้นฐานที่ดีที่สุดของ TMB เกิดขึ้น 4 ครั้งในช่วง 8 ปีหลัง และมักให้ผลตอบแทนที่ดีจากการซื้อหุ้นที่ Zone นี้

Catalyst: มองกลุ่ม Bank จะกลับมานำตลาดได้จากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น และเม็ดเงินต่างชาติที่กลับมาซื้อ คาด TMB รายงานกำไร 3Q18F +2.1%yy, +6.1%qq วันที่ 17 ต.ค.18

Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)