กลยุทธ์ : หลังเกิดความวิตกกังวลเรื่องสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ทิศทางดอกเบี้ยกำลังเป็นขาขึ้น การแข็งตัวของค่าเงินดอลลาร์ และราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ได้ส่งผลให้หลายๆ สำนักทางเศรษฐกิจ อย่างล่าสุด IMF ได้มีการปรับลดประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของ โลก สหรัฐ และ จีน ในปีนี้และปีหน้าลง สุดท้ายนำไปสู่การปรับลดประมาณการณ์กำไรต่อหุ้น (EPS) ของบริษัทจดทะเบียนทั่วโลกลงอีกใน 12 เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ตามการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันที่อาจทะลุ 90 ดอลลาร์/บาร์เรล อาจเป็นปัจจัยในเชิงลบกับเศรษฐกิจโดยรวมและบางกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า หากราคาน้ำมันขึ้นทะลุ90 ดอลลาร์/บาร์เรลหรือใกล้ๆ หุ้นพลังงานโดยเฉพาะโรงกลั่นและปิโตรเคมีอาจไม่คึกคักจากผลของต้นทุนที่สูงขึ้นทั้ง Crude premium และ Feedstock แต่จะเน้นรายตัวที่ได้ประโยชน์อย่าง Upstream (PTTEP) ดัชนี SET ที่ขึ้นมายืนเหนือ 1720 จุดได้ โดยมีกลุ่มพลังงาน เป็นตัวหนุน สลับแรงซื้อธนาคารพาณิชย์ เข้ามาหนุน ถือเป็นปัจจัยบวก แต่ด้วยในช่วงสั้นๆ นี้เกิดความผันผวนของตลาดหุ้นสหรัฐขึ้นมา เรามองว่าปัจจัยดังกล่าวน่าจะส่งผล ต่อตลาดหุ้นเอชียรวมทั้งไทยในวันนี้ แต่คงไม่มากนักคือลงไประดับ 1-2% เนื่องจากดัชนีตลาดหุ้นเอเชียในช่วงที่ผ่านมาต่างลงไปล่วงหน้าพอสมควรแล้วและการลงของตลาดหุ้นสหรัฐเป็นผลมาจากความกังวลว่า FED อาจขึ้นดอกเบี้ยอีกหลายครั้งใน 12 เดือนข้างหน้า วันนี้เปิดขึ้นมาดัชนีSET น่าจะปรับตัวลงตามภูมิภาค โดยมองแนวรับที่ 1700-1695 จุดและแนวต้านที่ 1722-1726 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BDMS PTTEP

 

  BJC : เราแนะนำ ซื้อ BJC โดยมีราคาเป้าหมาย 64.00 บาท โดย BIGC มีอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) +3.7% yoy ในเดือนก.ค. 2018 จากการทำโปรโมชั่นสินค้าเฉพาะสมาชิกช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ค. แต่ SSSG น่าจะลดลงในเดือนส.ค. 2018 (เราคาด -1%)เพราะฐานที่สูงในเดือนส.ค. 2017 จากการขายอุปกรณ์ฟ้าแบบ B2B ครั้งเดียวให้กับลูกค้าองค์กร ส่วนธุรกิจอื่นยังมีแนวโน้มเป็นบวกจากบรรยากาศการใช้จ่ายที่ดีขึ้น เราจึงคาดว่า BJCจะมีกำไรสุทธิเติบโตทั้ง yoy และ qoq ใน 3Q18 อิงสมมติฐาน SSSG ที่ +1% และส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับโครงสร้างภาษีภายในบริษัท เราคาดว่าทุกหน่วยธุรกิจจะยังคงมียอดขายเพิ่มขึ้นใน 2H18 จากบรรยากาศการจับจ่ายที่ดีขึ้นหลังดัชนีรายได้เกษตรกรเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่เดือนเม.ย. 2018 อย่างไรก็ตาม หน่วยธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาจมีกำลังการผลิตลดลงเนื่องจากเตาหลอมในมาเลเซียได้รับความเสียจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นใน 2Q18 และน่าจะกลับมาเปิดดำเนินงานเต็มที่ใน 4Q18 ตามข้อมูลของผู้บริหาร เราคาดว่า GPM จะเพิ่มสูงขึ้นใน 2H18 จากความพยายามของ BJC และ BIGC ที่จะเพิ่มมาร์จิน นอกจากนี้ BJC จะได้ประโยชน์จากการปรับโครงสร้างภาษีภายในบริษัทใน 2H18

 

  11 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข CPI MoM เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 0.2% จากเดือนก่อนหน้าที่0.2%

  11 ต.ค. : คาด TISCO ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 โดยคาดมีกำไรสุทธิ 1,660ล้านบาท (+5.6% yoy, -2.9% qoq)

  12 ต.ค. : จีนประกาศตัวเลข Export YoY เดือนก.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ 9.8%

  15 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Retail Sales Advance MoM เดือนก.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่0.1%

  16 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Industrial Production เดือนก.ย. โดยตลาดคาด -0.1% จากเดือนก่อนหน้าที่ 0.4%

  17 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Housing Starts เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 1.2 ล้านยูนิต จากเดือนก่อนหน้าที่ 1.282 ล้านยูนิต

  17 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Building Permits เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 1.275 ล้านยูนิตจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.229 ล้านยูนิต

 

  PROPERTY : Sector Note คำแนะนำ: Overweight

  MTC : Company Note คำแนะนำ: ถือ ราคาเป้าหมาย 53 บาท

  SAWAD : Company Note คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย 51 บาท

 

  กลยุทธ์ : SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1720-1725 จุด หลังจากฟื้นตัวเหนือแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1700 จุด แต่เป็นจังหวะในการขายเนื่องจากโครงสร้างหลักยังมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1670 จุด

  RS (RS TB; THB 19.50) – ซื้อ

  Ratchthani Leasing (THANI TB; THB 9.10) –ซื้อ