กลยุทธ์ : สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้จะน่าจะเริ่มมีสัญญาณในเชิงบวกมากขึ้น หลังในช่วง2 วันที่ผ่านมา ตลาดผันผวนตามทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาค อย่าง จีนและฮ่องกง ประเด็นที่คาดว่าจะทำให้ตลาดหุ้นไทยค่อยๆ ปรับตัวขึ้นคือ 1. แนวโน้มตลาดหุ้นสหรัฐมีความผันผวนต่ำ คือ แกว่งในกรอบแคบๆ แบบยังไร้ทิศทาง 2. ราคาน้ำมันกำลังจะปรับตัวขึ้นรอบใหม่ 3.ดัชนี SET ลงมาในกรอบที่น่าสนใจ คือ ที่ระดับ 1700 จุด และ 4. เริ่มมีการออกกองทุนทริกเกอร์ สัปดาห์นี้หุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์น่าจะเริ่มทยอยประกาศผลการดำเนินงานอย่างTISCO โดยปกติหุ้นในกลุ่มนี้ หากเล่นในช่วงงบออกก่อน 1 สัปดาห์จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 1.5% แต่ดูเหมือนรอบนี้ ไม่เหมือนเดิม คือ ยังไม่มีร่องรอยในการเล่น ซึ่งน่าจะเป็นเพราะ ไม่มั่นในว่าจะออกมาอย่างไร เราจึงมองว่าน่าจะเล่นกันในช่วงงบออก แนวโน้มในวันนี้คาด ตลาดน่าจะเปิดทะลุ 1700 จุดแล้วค่อยๆ ปรับตัวขึ้นไปต่อ หลังมีการปรับฐานย่อยๆ ไปแล้วเมื่อวานนี้ นอกจากนั้นในวันนี้ยังไม่เห็นปัจจัยในเชิงลบที่จะกระทบกับตลาด ทั้งราคาน้ำมัน และตลาดหุ้นในภูมิภาค ขณะที่ Bond yield 10 ปีของสหรัฐปรับตัวลงแรง จากความกังวลเรื่องการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐและจีน หลัง IMF ปรับลดประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศลงในปีหน้า โดยคาดกลุ่มที่จะนำตลาดยังคงเป็นกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี ธนาคารพาณิชย์ วันนี้มองแนวต้านที่ 1710-1715 จุดและแนวรับที่ 1694-1690 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร PTTEP PTTGC KBANK และ TISCO

 

  ROBINS : เราแนะนำ ซื้อ ROBINS โดยมีราคาเป้าหมาย 75.00 บาท โดย ROBINS มีอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) เพิ่มขึ้นจาก 24.7% ใน 2Q17 เป็น 24.8% ใน 2Q18 (25.5% ใน 1Q18)แม้บริษัทจะจัดแคมเปญโปรโมชั่นเชิงรุกมากขึ้น yoy ในไตรมาส นอกจากนี้ ROBINS มีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น yoy เป็น 11.2% ใน 2Q18 เทียบกับ 10% ใน 2Q17 (แต่ลดลง qoq จาก11.7% ใน 1Q18) เพราะมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น แม้ว่าสินค้าแบรนด์ของ ROBINS ซึ่งมีมาร์จินสูงกว่าจะมีสัดส่วนทรงตัวที่ 11.3% ของยอดขายใน 1H18 แต่เราเชื่อว่าสินค้าแบรนด์ของบริษัทที่เพิ่งเปิดตัวจะช่วยให้ยอดขายสินค้ากลุ่มนี้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นตามเป้าที่ 13% ในปี FY18 นอกจากนั้นเราพบว่าในการเลือกตั้งห้าครั้งที่ผ่านมา ราคาหุ้นของ ROBINS จะเคลื่อนไหวได้ดีกว่าคู่แข่ง โดยมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนก่อนการเลือกตั้งหกเดือนอยู่ที่ 20.5%, สามเดือนที่ 15.5% และหนึ่งเดือนที่ 9.0% (ดัชนี SETCommerce ที่ 7.1%, 7.4% และ 3%) ส่วนอัตราผลตอบแทนหลังการเลือกตั้งหนึ่งเดือนจะอยู่ที่ 12.3%, สามเดือนที่ 8.1% และหกเดือนที่ 19.4% (ดัชนี SET Commerce ที่ 5.7%,4.6% และ 10%)

 

  11 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข CPI MoM เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 0.2% จากเดือนก่อนหน้าที่0.2%

  11 ต.ค. : คาด TISCO ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 โดยคาดมีกำไรสุทธิ 1,660ล้านบาท (+5.6% yoy, -2.9% qoq)

  12 ต.ค. : จีนประกาศตัวเลข Export YoY เดือนก.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ 9.8%

  15 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Retail Sales Advance MoM เดือนก.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่0.1%

  16 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Industrial Production เดือนก.ย. โดยตลาดคาด -0.1% จากเดือนก่อนหน้าที่ 0.4%

  17 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Housing Starts เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 1.2 ล้านยูนิต จากเดือนก่อนหน้าที่ 1.282 ล้านยูนิต

  17 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Building Permits เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 1.275 ล้านยูนิตจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.229 ล้านยูนิต

 

  HEALTHCARE : Sector Note คำแนะนำ: Underweight 

  DTAC : Company Note คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย 54.40 บาท

 

  กลยุทธ์ : SET Index ปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1700 จุด ทำให้การปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 1690 จุด จะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1670 จุด และมีแนวต้านที่1700 และ 1708 จุด ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ แนวต้านถัดไป 1720 จุด

  Global Power Synergy (GPSC TB; THB 65.75)– ซื้อ

  BTS Group Holdings (BTS TB; THB 9.10) – ซื้อ