Stock          S          R        Comment

AMATA        23.00      25.50      เดินหน้าพัฒนาเป็น Smart City มั่นใจยอดขายที่ 925 ไร่ตามเป้าปีนี้

CPALL        67.00      71.50      พร้อมเสริฟอาหารเจ สะสมแสตมป์ได้ด้วย

VGI           7.20       8.30      Kerry โตตามธุรกิจออนไลน์ หนุนกำไรระยะยาว

 

          SET : SET Index ปรับตัวลงสู่แนวรับแรกของเราที่ระดับ 1700 จุด ซึ่งเป็นบริเวณที่เราแนะนำให้นักลงทุนทยอยเข้าสะสมหุ้นได้ หลังจากที่แนะนำให้ชะลอการลงทุนมาโดยตลอดก่อนหน้านี้ โดยหากดัชนีมีการปรับลงต่อไปยังแนวรับสำคัญของเราเดือนนี้ที่ 1680 จุดอีก มองเป็นจังหวะในการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนที่สำคัญอีกครั้ง เนื่องจากประเมินบริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณที่เริ่มน่าสนใจในเชิงของ Valuation แล้ว (Forward PE ปี 2019E ที่ 14 เท่า a.k.a. "Magic Number")

          THB : นอกจากนั้นเรายังไม่กังวลกับปัจจัยแวดล้อมภายนอกในแง่ผลกระทบต่อไทยมากนัก เนื่องจากยังคงประเมินเช่นเดิมว่าจะเป็นเพียง Noise รบกวนบรรยากาศการลงทุนเท่านั้น และคาดการณ์ว่าตลาดทุนไทยจะยังคงปรับตัวแข็งแกร่งกว่ากลุ่ม Emerging market (EM) ต่อไป ล่าสุดในช่วง 1 วันที่ผ่านมา บาทถือเป็นสกุลเงินอันดับ 1 ใน EM ที่มีการปรับตัวแข็งค่ามากที่สุด สะท้อนมุมมองของนักลงทุนต่างชาติที่ยังคงมีต่อไทยในเชิงบวก

          Bouncing play : มองตัวหุ้นที่น่าสนใจสำหรับการเข้าซื้อเพื่อคาดหวังการรีบาวด์ได้แก่ หุ้นขนาดใหญ่ (SET50) ที่มีการปรับตัวลงของราคามากกว่าตลาดอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันที่ดัชนีทำจุดสูงสุดของรอบนี้ และเป็นหุ้นที่เราแนะนำ "ซื้อ" ในเชิงพื้นฐาน ซึ่งจากการตรวจสอบของเราล่าสุดพบว่าได้แก่ ROBINS (ราคาเป้าหมาย 78.60 บาท), PTTEP (154 บาท), MINT (48 บาท) โดยหุ้นของทั้ง 3 บริษัทนี้ยังมีค่า Beta ที่มากกว่า 1 อีกด้วย ซึ่งหากดัชนีมีการ Rebound กลับ คาดว่าจะมีการ Rebound ได้ดีกว่าตลาดเช่นกัน

          SSF : นอกจากนั้น อีกหนึ่งธีมที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนระยะสั้นเก็งกำไร ได้แก่ หุ้นที่ราคาปรับตัวลงแรงจากการถูกปิดสถานะ Block trade ในกระดาน SSF อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเราประเมินว่าในช่วงถัดไป แรงกดดันจากการปิดสถานะดังกล่าวจะเริ่มลดลงโดยเปรียบเทียบ อาทิเช่น ITD, PTG เป็นต้น

          กลยุทธ์การลงทุน : แนะนำถือหุ้นที่ได้เข้าสะสมไปเมื่อวานนี้ที่แนวรับแรก 1700 จุด โดยหากดัชนีมีการปรับตัวลงต่อไปยังแนวรับสำคัญที่ 1680 จุด มองเป็นจังหวะในการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนที่สำคัญ เนื่องจากเป็นระดับที่มี Valuation น่าสนใจแล้ว ประเมินปัจจัยประคับประคองดัชนีที่สำคัญยังคงได้แก่ราคาน้ำมันที่คาดว่าจะอยู่ในระดับสูงต่อไป ภายหลังจาก Supply จากอิหร่านมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยจำกัด Upside ที่สำคัญได้แก่ ปัจจัยรบกวนประเด็นอิตาลีและ Brexit รวมถึง Fund flow ที่น่าจะยังไม่มีการไหลเข้าจากการที่ Bond yield และดอลลาร์สหรัฐฯทรงตัวอยู่ในระดับสูง

          แนวรับ  1,674  แนวต้าน 1,718