Bottom Fishing หุ้นหลัก/ หรือเก็งกำไรหุ้นโรงกลั่นกับกรณีโรงกลั่นใหญ่ของแคนาดาไฟไหม้

 

  ราคาปิด 51.75 บาท

  ราคาเหมาะสม 59.50 บาท

          PTT ขึ้น XD หุ้นละ 0.80 บาท วันที่ 11 ต.ค. คิดเป็นผลตอบแทน 2.0% เราประเมินว่าราคาหุ้นจะแข็งแกร่งกว่าภาพรวมของตลาดหุ้น

          นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบ NYMEX และ BRENT ทรงตัวระดับสูง หนุนผลประกอบการ 2H61 รวมถึงผลประมูลแหล่งปิโตรเลียม 2  แหล่งประกาศช่วงปลายเดือนพ.ย. คาด PTTEP มีโอกาสที่จะชนะการประมูลแหล่งบงกช และเป็นบวกต่อ NAV ของ PTT

 

เก็งกำไร TOP  

  ราคาปิด 82.75 บาท

  ราคาเหมาะสม 84.00 บาท

          หุ้นกลุ่มโรงกลั่นมี Sentiment บวก หลังเกิดเหตุไฟไหม้โรงกลั่นน้ำมันใหญ่สุดของแคนาดาคืนวานนี้ กำลังการกลั่น 3.2 แสนบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้ค่าการกลั่นหน้างโรงกลั่นสิงคโปร์ 4.2% dod ปิดที่ US$5.18/barrel 

          แนวโน้มผลประกอบการ 3Q61 เราคาดกำไรปกติฟื้นตัวเด่น QoQ จากส่วนต่างราคาอะโรมาติกส์ อีกทั้งทิศทางค่าการกลั่นที่บวก QoQ ใน 3Q-4Q จากแรงหนุนของฤดูกาล

 

  ราคาปิด 197.00 บาท

  ราคาเหมาะสม 237.00 บาท

          วานนี้ ADVANC ตัดสินใจไม่เข้าร่วมประมูลคลื่น 900MHz แม้ว่า กสทช.ปรับหลักเกณฑ์การประมูลแล้วก็ตาม ปลดล็อคความกังวลต่อต้นทุนส่วนเพิ่มลง

          อีกทั้งแนวโน้มกำไรปกติ 3Q61 คาดเติบโต YoY เป็นไตรมาสที่ 5 เท่ากับ 8.2 พันล้านบาท (+9.3% YoY และ +2.0% QoQ) และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีสม่ำเสมอปีละ 4%

 

  ราคาปิด 38.25 บาท

  แนวต้านทางเทคนิค 41.00 บาท 

          ราคาหุ้นปรับตัวลงติดต่อกัน 5 วันทำการ 8.4% มีโอกาสเกิด Technical Rebound แนวรับ 37.50 บาท, แนวต้าน 41.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 36.75 บาท 

          ปัจจัยบวกระยะสั้น คือ แนวโน้มกำไรปกติ 3Q61 คาดเติบโต YoY เด่นจากแรงหนุนของกลุ่มโรงแรมในยุโรปที่เข้าสู่ไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว และการ Tender Offer หุ้น NH Hotel ใกล้เสร็จสิ้นภายในเดือน ต.ค. ช่วยหนุนการเติบโตในระยะยาว

          SET INDEX วานนี้ปิดลบเป็นวันที่ 5 รวมกว่า 64 จุด และหลุดแนว 1,700 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย.2561 จากแรงขายในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก เงินบาทที่อ่อนค่าอย่างรวดเร็วแตะ THB33/USD และความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนหลังธนาคารกลางจีนออกมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องทางการเงินเข้าสู่ระบบ ขณะที่ปัจจัยการลงทุนแบบ Bottom-Up ของตลาดหุ้นไทยยังคงแข็งแกร่ง สอดคล้องกับมุมมองของธปท.ต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง พร้อมสัญญาณบวกต่อการบริโภคและการลงทุนในประเทศที่ดีขึ้นและกระจายตัวมากขึ้น 

          ณ ระดับปิดวานนี้ SET INDEX ซื้อขายที่ PER61 ราว 15.71x คิดเป็น +0.5SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี เรามองว่า หาก SET INDEX วันนี้อ่อนตัวลงใกล้บริเวณ 1680-1685 จุด คิดเป็น PER61 ที่ 15.56x ใกล้ค่าเฉลี่ยที่ 15.24x มีโอกาสเกิด Technical Rebound พร้อมกับนักลงทุนลักษณะ Bargain Hunter ทยอยเข้าเลือกสะสมหุ้นหลักที่แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 3Q61 เด่น และ/หรือ Valuation อยู่ในโซนที่ปลอดภัย เช่น PTT / SCC / SCB / BBL / ADVANC / QH เป็นต้น 

          เช้านี้ เราออกบทวิเคราะห์ Earnings Preview อีก 2 บริษัท ได้แก่ (1) PTTEP คาดกำไรปกติ 3Q61 เท่ากับ 1.2 หมื่นล้านบาท โตเด่น +10% QoQ, +64% YoY จากการรับรู้ปริมาณขายแหล่งบงกชส่วนเพิ่มเต็มไตรมาส และราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ (2) BANPU เราคาดกำไรปกติ 3Q61 เท่ากับ 3.4 พันล้านบาท (+18% QoQ, +10% YoY) หนุนจากธุรกิจถ่านหินที่ราคาขายเฉลี่ยและปริมาณขายเพิ่มมากขึ้น 

          กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ เราแนะนำทยอยสะสมหุ้นที่แนวโน้มกำไร 3Q61 เติบโตเด่นกว่ากลุ่ม อย่าง BBL/ BJC/ SEAFCO/ KTC ขณะที่หุ้นกลุ่มโรงกลั่น มี Sentiment บวก จากเหตุเพลิงไหม้โรงกลั่นใหญ่สุดของแคนาดา เป็นจังหวะเก็งกำไรระยะสั้นต่อ TOP/ PTTGC/ SPRC

 

          1. SET Index ปรับตัวลงตลอด 5 วัน รวม 64 จุด มีปัจจัยอะไรที่เปลี่ยนแปลงไป ถึงจุดรีบาวน์หรือยัง?

          2. เกิดเหตุไฟไหม้โรงกลั่นใหญ่สุดของแคนาดา คาดเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นโรงกลั่นไทย 

          3. บทวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจไทย หลังวานนี้เราเข้าประชุมกับธปท.

          4. Preview งบ 3Q61 ของ BANPU และ PTTEP

 

          วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 5 มากถึง -24.3 จุด (-1.41%) รวม 5 วันทำการปรับตัวลดลงรวม 64.3 จุด ปิดที่ 1696.22 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 6.0 หมื่นล้านบาท หุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรฯ ปรับตัวลงแรง นำโดย PTTEP (-3.65%), PTT (-1.43%), IVL (-5.74%) และ PTTGC (-3.10%) มีผลต่อดัชนีราว 7.34 จุด 

          กระแสเงินทุน: กลุ่มสถาบันในประเทศขายสุทธิหนาแน่นในตลาดหุ้นไทย เป็นวันที่ 6 อีก 3 พันล้านบาท รวม 6 วันขายสุทธิทั้งสิ้น 1.2 หมื่นล้านบาท เช่นเดียวกับนักลงทุนต่างชาติที่ขายสุทธิเป็นวันที่ 5 ขายสุทธิอีกราว 2.4 พันล้านบาท รวม 5 วันทำการขายสุทธิทั้งสิ้น 1.4 หมื่นล้านบาท ทางด้านตลาด SET50 Index Futures กลุ่มนักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิเป็นวันที่ 3 อีกราว 5.8 พันสัญญา รวม 3 วันทำการ Short สุทธิสะสมราว 2.6 หมื่นสัญญา ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Short สุทธิราว 3.2 หมื่นสัญญา โดย S50Z18 มี Discount จาก SET50 Index ราว 2.7 จุด ขณะที่กลุ่มสถาบันในประเทศและบัญชี บล.มีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 5 อีก 1.8 พันสัญญา รวม 5 วันทำการ Long สุทธิสะสมราว 2.5 หมื่นสัญญา ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Long สุทธิราว 2.4 หมื่นสัญญา 

          ตลาดตราสารหนี้ : นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิราว 3.2 พันล้านบาท พลิกสถานะจากการซื้อสุทธิ 7.5 พันล้านบาทในวันก่อนหน้า

 

 

ADVANC และ TRUE แจ้งตลาดไม่เข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ 900MHz รอบใหม่

DTAC จะทำการพิจารณายื่นประมูลคลื่นความถี่ 900MHz ภายในวันที่ 16 ต.ค. 2561

รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ สั่งให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดโครงการต่างๆให้แล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้ง

FETCO รายงานดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (ธ.ค.61) อยู่ที่ระดับ 120.60 จุด (+12.01%) อยู่ในเกณฑ์ร้อนแรง (Bullish)

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเผยพร้อมต้อนรับอังกฤษเข้าร่วมเป็นสมาชิกข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (TPP)

บริษัทน้ำมันที่อ่าวเม็กซิโก สั่งอพยพพนักงานออกจากแท่นขุดเจาะน้ำมัน หลังพายุเฮริเคน Michael กำลังจะเคลื่อนตัวผ่าน ส่งผลให้ต้องหยุดการผลิตน้ำมันกว่า 3.24 แสนบาร์เรลต่อวัน

เกิดเหตุไฟไหม้โรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ในแคนาดา กำลังการผลิต 3.2 แสนบาร์เรล/วัน

จีนรายงานค่า PMI ภาคการบริการเดือนก.ย. อยู่ที่ระดับ 53.1 ดีกว่าที่ตลาดคาดว่าอยู่ที่ระดับ 51.4 ส่งผลค่า PMI รวมภาคการผลิตและบริการอยู่ที่ระดับ 52.1

ติดตามการรายงานเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. ตลาดคาดขยายตัว 2.4% YoY วันที่ 11 ต.ค.

ติดตามการรายงานนำเข้า - ส่งออกจีน เดือน ก.ย. ตลาดคาดส่งออกขยายตัว 8.7% YoY และนำเข้าขยายตัว 14.5% YoY วันที่ 12 ต.ค.