- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 05 October 2018 17:56
- Hits: 5873
บล.โนมูระพัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“Earnings Play”
CNS Daily Strategy: คาดตลาด “Rebound” 1735/1743จุด รับ 1722/1714จุด นาย Powell ประธาน FED มองเศรษฐกิจสหรัฐฯโตดี พร้อมเดินหน้าปรับขึนอัตราดอกเบี้ย กดดัน US Bond Yield 10ปี ปรับตัวขึ้นสูงสุดรอบ 7 ปี กดดันสินทรัพย์เสี่ยงโลก ทั้งนี้ มองRisk งจำกัด เนื่องจาก US Bond Yield 10 ปี ปรับตัวขึ้นใกล้เป้าหมายที่ Nomura วางไว้ที่ 3.25% สะท้อนตลาดตอบรับการขึ้นดอกเบี้ย 3-4 ครั้งในปีนี้ไปมากแล้ว ประกอบกับความคาดหวังเชิงบวกจาก Brexit และการเมืองอิตาลี จะช่วยลดความร้อนแรงของค่าเงินดอลล่าร์ได้ วันนี้แนะนำ Theme “Earnings Play” : TMB, GUNKUL, SC
Nomura : Key Factors
(-) US: ประธาน FED มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯเติบโตดี พร้อมเดินหน้าปรับขึนอัตราดอกเบี้ย
(-) US: US Bond Yield 10ปี ปรับตัวขึ้น +1.7bps สู่ระดับ 3.198% สูงสุดในรอบ 7 ปี
(-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -2.72% สู่ $74.33 /bbl / BRT -1.98% สู่ $84.58 /bbl
(+) Currency:ความคาดหวังบวกจาก Brexit + การเมืองอิตาลี จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อน
(-) Fund Flow:ล่าสุดขายหุ้น-4,958ลบ., Short Future -15,286สัญญา, ขายBond -582ลบ.
Nomura Daily Top Picks: TMB, SC, GUNKUL
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Rebound” ต้าน 1735/1743จุด รับ 1722/1714จุด ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงโลกผันผวน จากถ้อยแถลงของนาย Jerome Powell ประธาน FED ทำให้ตลาดสับสัน ต่อการส่งสัญญาณเดินหน้าเข้าสู่นโยบายการเงินปกติยังใช้เวลาอีกนาน ในสถานะการณ์ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯเติบโตดี สะท้อนภาพอย่างไร กรณีแรก คือ การเดินหน้าปรับขึน อัตราดอกเบี้ยแบบเร่งตัว ซึ่งกำลังกดดันให้ US Bond Yield 10ปี ปรับตัวขึ้น +1.7bps สู่ระดับ 3.198% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี และกดดันสินทรัพย์เสี่ยงโลกปรับฐาน หรือสะท้อน กรณีที่ 2 ว่าเงินเฟ้อต่ำ การจ้างงานดี ทำให้ดอกเบี้ยไม่ต้องเร่งตัวและต้องค่อยๆ ขึ้นอีกนานหลายปีกว่าจะเข้าสู่ระดับปกติ ซึ่งมุมมองของเราให้น้ำหนักในกรณีที่ 2 มากกว่า และการที่ US Bond Yield ปรับตัวขึ้นเข้าใกล้เป้าหมายที่ Nomura วางไว้ที่ 3.25% ภายใต้สมมติฐานการปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ไปแล้วด้วยนั้น น่าจะทำให้ภาพ Back Drop ใกล้จะเกิดขึ้นกล่าวคือ ทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในปี 2019 Nomura คาดจะขึ้นแค่ 2 ครั้ง จากผลของเงินเฟ้อจากราคาน้ำมันลดลง และ Bond Yield ปีหน้าจะลดต่ำลงเหลือ 3% ทำให้ความเสี่ยงต่อ EM-ASIA กำลังจำกัดลง นอกจากนี้ แรงกดดันจากค่าเงินดอลล่าร์เริ่มผ่อนคลายลง หลัง Dollar Index เริ่มอ่อนค่าสู่บริเวณ 95.78 จุด จะเริ่มจำกัด Downside ตลาดได้ กอรปกับคาดหวังเชิงบวกจากแนวโน้มที่ EU และ UK จะสามารถเจรจาข้อตกลง Brexit กันได้สำเร็จ รวมถึงแนวโน้มบวกจากการเมืองอิตาลี น่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ค่าเงินปอนด์และยูโรแข็งค่าขึ้นได้ในระยะถัดไป จะเป็นตัวกดค่าเงินดอลล่าร์ได้อีกแรง ส่วนปัจจัยในประเทศ ความคืบหน้าการเมืองไทย โดยกกต.แบ่งเขตการเลือกตั้งเสร็จแล้วในวันนี้ ตอกย้ำการเลือกตั้งไทยเป็นไปตาม Roadmap ผสานบอร์ด EEC เห็นชอบ 4 โครงการด้านโครงสร้างฟื้นฐาน เตรียมออกหนังสือชี้ชวนเอกชนลงทุนใน ต.ค.นี้ มูลค่ากว่า 4.7 แสนล้านบาท หนุนกลุ่มอิงการลงทุนเด่นต่อเนื่อง ซึ่งภาพพื้นฐานภายในที่แข็งแกร่ง คาดหนุนตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้นได้
Asset allocation : หุ้น 75% และเงินสด 7.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
Daily Strategy : ถือหุ้น 75% Sector Rotation เน้นสะสม Domestic Play BBL, KBANK, TMB, CPALL, ROBINS, ADVANC, CK, STEC, PYLON, AMATA, GOLD, SC, ERW, BH, และ Global Play (PTT, PTTEP) วันนี้เน้น “Theme “Earnings Play”
ราคาน้ำมันดิบ BRENT แกว่ง 85+/- เหรียญฯต่อบาร์เรล หนุน PTT, PTTEP เด่น
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคต(TFFIF) กำลังจะเปิดขาย IPO 12-19 ตค ผสาน TOR 4 โครงการเร่งด่วน (มาบตาพุดเฟส 3, แหลมฉบังเฟส 3, สนามบินอู่ตะเภา, ศูนย์ซ่อมอู่ตะเภา) เข้า ครม 14 ตค หนุนอิงการลงทุนฟื้นรอบใหม่ STEC, AMATA, WHA, CK, TOA, PYLON
หุ้นเก็งเข้า MSCI รอบเดือน พย 2018 GULF, TOA
กระทรวงการท่องเที่ยวอนุมัติมาตรการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจีนชั่วคราว “Double entry visa” และการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่มเติมในวันที่ 18 ต.ค. บวก AOT, ERW
กลุ่ม รฟฟ เด่นการเติบโต เน้น GULF BGRIM PSTC BWG
Road to Election 2019 : PTT, PTTEP, BBL, KBANK, TMB, CPALL, ROBINS, ADVANC, STEC, AMATA, SC, GOLD, PLANB
2H18 Theme Domestic : Election play when oil surge
Best Picks 2H18 : PTT, IVL, BBL, KBANK, CPALL, CK, STEC, SEAFCO, PYLON, AMATA, GOLD
1. Index Driver : PTT, BBL, KBANK, CPALL, PTTEP, IVL
2. Government Spending : STEC, CK, PYLON, SEAFCO, AMATA, ROJNA, SCC
3. Property : GOLD, SC
4. Tourism & Transport : ERW, BTS
5. Global Play : IVL, PTL
6. ICT : ADVANC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
TMB (TP19F 2.5*): Support 2.28/2.24 Resistant 2.44/2.50
Theme: Laggard play
Earnings Outlook: เราคาดกำไรสุทธิผ่านจุดต่ำสุดแล้ว โดย 3Q18F คาดทยอยฟื้นตัวอยู่ที่ 2.15 พันลบ. (+2% y-y, +6% q-q) จากสินเชื่อฟื้นตัว, สำรองทรงตัว และคาดกำไร 4Q18F ยังเป็นภาพเติบโต y-y, q-q และต่อเนื่องใน 2019F ที่ +11% y-y นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยี จึงพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิตัลของกลุ่มธนาคาร
Valuation: ราคาหุ้น Laggard กลุ่ม Bank โดย YTD -23% VS กลุ่ม -3.2% ตอบรับการลดประมาณการของตลาดก่อนหน้านี้ไปแล้ว และยัง Under-owned อยู่มาก โดยราคาปัจจุบันเป็นโซนซื้อที่ได้เปรียบ PER19F 11 เท่า และ PBV19F เพียง 1.1 เท่า โดยหลังปี 2010 เป็นต้นมา PBV Zone 1.0-1.1เท่า คือจุดซื้อในเชิงพื้นฐานที่ดีที่สุดของ TMB เกิดขึ้น 4 ครั้งในช่วง 8 ปีหลัง และมักให้ผลตอบแทนที่ดีจากการซื้อหุ้นที่ Zone นี้
Catalyst: มาตรการควบคุมอสังหาฯมีผลกระทบจำกัดยอดสินเชื่อเดือนส.ค.18 เติบโตในอัตราเร่งที่สุดในปีนี้ +1.5% m-m + สถิติกลุ่ม Bank มัก Outperform ก่อนเลือกตั้ง 6-9 เดือน + ดอกเบี้ยช่วงถัดไปจะกลับทิศสู่ขาขึ้นบวกต่อ Bank
SC (TP19F 4.7*): Support 3.48/3.4 Resistant 3.62/3.68
Theme: Event play
Earnings outlook: คาดกำไร 2H18 เติบโตโดดทั้ง y-y, h-h จาก Presale และ รายได้ที่คาดว่าน่าจะทำ Record high ทั้งสองส่วนพร้อมกัน และยังคงประมาณการกำไร 19F ระดับ 2.08 พันลบ. +2% y-y จากฐานสูงในปี18F (+62% y-y)
Valuation: ปัจจุบันซื้อขายที่ PER19F ที่ 7.1x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 8.4x ในขณะที่คาดกำไรปี18F โต 62% y-y สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 8%
Catalyst: SC เป็นหนึ่งในหุ้นที่ให้ผลตอบแทน 6 เดือนก่อนการเลือกตั้ง (Election rally) สูงที่สุดในกลุ่มอสังหาฯ โดยผลตอบแทนเฉลี่ยการเลือกตั้ง 4 ครั้ง พบว่า ให้ผลตอบแทบเฉลี่ยสูงถึง 47% ในขณะที่กลุ่มให้ผลตอบแทนเพียง 2% ประกอบกับ คาดกำไร 2H18 จะทำรายได้และยอด Pre-sale ที่จุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์
GUNKUL (TP19F 4.46*): Support 3.14/3.10 Resistant 3.36/3.40
Theme: Earnings Play
Earning outlook: ประเมินผลประกอบการผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้วใน 1H18 และคาดฐานกำไร 3Q18F จะทำ New record high รายไตรมาสที่ 453 ลบ. (+223% y-y, +275% q-q) จากโรงไฟฟ้าพลังงานลมถึง 170 MW (WED 60 MW, KWE 50 MW และ GNP 60 MW) จะรับรู้รายได้เต็มไตรมาส และมีโมเมนตัมดีต่อเนื่องถึง 1Q19F จากจะมีโครงการ Solar ทยอย COD อีก 70 MW (SENDAI 32 MW เริ่ม 4Q18F + KIMITSU 38 MW เริ่ม 1Q19F)
Valuation: เป็นจุดลงทุนที่ดีมากยัง Under own และอยู่ในโซน Deep valuation มี PER19F 14x เทียบ GULF/EA/BGRIM ที่สูง 23-41x และราคายัง Laggard กลุ่มมาก โดย YTD ยัง -27% + ราคามี Downside จำกัด ทั้งจากการซื้อหุ้นคืน (เหลือโควต้าซื้อได้อีกราว 200 ล้านหุ้น) และราคานี้ยังต่ำกว่าราคา Big lot ตอน มิ.ย. 17 @ 4.1 บาท
Catalyst: แนวโน้มธุรกิจเป็นขาขึ้นอีกครั้ง ขณะที่ความเสี่ยงธุรกิจและความผันผวนลดลง จากฐานกำไร Recurring income เพิ่มขึ้นเป็น 70% + คาดแนวโน้ม Earning momentum จะเป็นฐานกำไรที่สูงไปถึง 1Q19F
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical
[email protected] 0-2081-2771
Yada Kampalanonwat : Analyst Registration No. 083785
Fundamental Investment Analyst on Securities
[email protected] 0-2081-2783
OO14688