- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 04 October 2018 17:34
- Hits: 6154
บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Investment Strategy
กลยุทธ์ : ดัชนี SET ในช่วงปลายสัปดาห์ คาดจะยังมีแรงกดต่อเนื่อง แม้ราคาน้ำมันจะดีดตัวขึ้นหรือลง ปัจจัยกดดันยังคงเป็น มุมมองเรื่องการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันที่อาจทะลุ 90ดอลลาร์ต่อบารเรล์ จะส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและเป็นตัวเร่งให้การปรับตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ดังนั้นในช่วงนี้ยังต้องรอดูการย่อยข่าวของตลาดต่อทิศทางของราคาน้ำมันประเด็นที่เรามองว่าจะมีผลต่อทิศทางตลาดในเดือน ต.ค. คือ การประกาศงบ Q3/18 ที่จะเริ่มทยอยได้ในช่วงกลางเดือน ต.ค. นำโดยกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เรามองว่ามีความเป็นไปได้ในช่วงก่อนงบออกหรือช่วงงบแบงก์ทยอยออก ตลาดหุ้นไทยอาจมีแรงขายทำกำไรช่วงสั้นออกมา เพื่อปรับพอรท์ในการลงทุน กลยุทธ์การลงทุน หากดัชนีลงมาที่กรอบ 1740-1730 จุดเราแนะนำ ทยอยซื้อบางส่วน อีกส่วนให้รอดักที่บริเวณ 1710-1720 จุด เผื่อความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นแรงกว่าคาด กลุ่มที่แนะนำ ซื้อ คือ ธนาคารพาณิชย์ใหญ่ อิเล็คโทรนิคส์ อาหารท่องเที่ยวและค้าปลีก วันนี้คาดว่าตลาดมีแนวโน้มปรับลงต่อจากแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศและกองทุนในประเทศเพื่อเป็นการปรับพอร์ทระยะสั้น บวกกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีที่พุ่งขึ้นมากเมื่อคืนก็ทำให้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นมากส่งผลให้ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าและกดดันให้นักลงทุนต่างประเทศต้องขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ วันนี้เราให้แนวรับที่ 1735-1730 จุดและแนวต้านที่ 1746-1753จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร KCE IVL TMB TU
Themes play :
KCE HANA TU CPF GFPT AOT CENTEL : แนะนำ ซื้อเก็งกำไร หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่ค่าเงินบาทอ่อนค่า จากการที่เมื่อคืนนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (USBond Yield) อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 10 ปีที่ 3.18% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นวันเดียวถึง 10 basis point จากการที่ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐออกมาดี บ่งบอกให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวแข็งแกร่งและแนวโน้มขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐอย่างชัดเจน ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาก (Dollar index พุ่งขึ้นจาก93.897 เมื่อปลายเดือนก่อนมาที่ 96.04 เช้านี้) ส่งผลให้ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงค่อนข้างเร็วจากระดับ 32.2725 บาท/ดอลลาร์เมื่อต้นสัปดาห์มาที่ 32.61 บาท/ดอลลาร์ในเช้านี้หรืออ่อนค่าลง 1.05% แม้ไม่เป็นผลดีกับตลาดโดยรวม (จากการที่แนวโน้มดอกเบี้ยโลกเป็นขาขึ้นและมีการเคลื่อนย้ายเงินทุนกลับไปยังสหรัฐ) แต่เป็นผลบวกกับหุ้นส่งออกอย่างกลุ่มอิเล็คโทรนิคส์ (DELTA HANA KCE), กลุ่มอาหาร (BR CPF GFPT TU) และกลุ่มท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT)
ประเด็นในสัปดาห์
4 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Factory Orders เดือนส.ค. โดยตลาดคาด 1.0% จากเดือนก่อนหน้าที่ -0.8%
5 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Change in nonfarm payrolls เดือนก.ย. โดยตลาดคาด188,000 ราย จากเดือนก่อนหน้าที่ 201,000 ราย
5 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Unemployment rate เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 3.8% จากเดือนก่อนหน้าที่ 3.9%
11 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข CPI MoM เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 0.2% จากเดือนก่อนหน้าที่0.2%
12 ต.ค. : จีนประกาศตัวเลข Export YoY เดือนก.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ 9.8%
15 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Retail Sales Advance MoM เดือนก.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่0.1%
Fundamental Stock :
KCE : Company Note คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย 47 บาท
Technical Pick
กลยุทธ์ : SET Index ปรับตัวลดลงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1740 จุด แต่เราแนะนำให้ใช้เป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้น เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ 1800 จุดและมีแนวรับสำคัญของการปรับฐานที่ 1730 จุด ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค
PTT Global Chemical (PTTGC TB; THB 82.00)– ซื้อ
Thanachart Capital (TCAP TB; THB 54.25) –ซื้อ
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 - [email protected]
Uraiwan Tantisuwannakul +66(2) 761 9256 - [email protected]
Line ID : @CGS-CIMB TH Youtube : CGS-CIMB TH
OO14636