กลยุทธ์ : ทิศทางดัชนี SET คาดยังมีแนวโน้มที่ดี แต่ยังต้องรอดูผลกระทบของราคาน้ำมัน จะกระทบกับเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหน ตัวตัดสินยังคงเป็นงบ Q3/18 ของหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ดังนั้นในช่วงสั้นๆ นี้ ทิศทางของดัชนี ยังคงอิงกับภาวะตลาดต่างประเทศ ราคาน้ำมันและแรงซื้อ-ขายของนักลงทุนต่างประเทศ ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น แม้ตอนนี้จะยังไม่ส่งผลต่อเศรษฐกิจมากนัก แต่ในระยะกลางหากยังทรงในระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรลก็น่าจะเริ่มส่งผลกระทบกับการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีหน้าได้ เมื่อคืนนี้สกุลเงินยูโรร่วงลง เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านงบประมาณของรัฐบาลอิตาลี หลังจากรัฐบาลอิตาลีภายใต้การนำของพรรคไฟว์ สตาร์ และพรรคเดอะ ลีก ยืนยันที่จะกำหนดเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณในปีหน้าไว้ที่ 2.4% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของรัฐบาลชุดก่อนถึง 3 เท่า และคาดว่าจะทำให้สหภาพยุโรป (EU) ออกมาคัดค้าน เนื่องจากจะทำให้อิตาลีมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้นไปอีก นอกจากนี้ รัฐบาลอิตาลียืนยันเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลจะกำหนดเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณที่ระดับดังกล่าว แม้ว่ารัฐมนตรีคลังของกลุ่มยูโรโซนเรียกร้องให้รัฐบาลอิตาลีทบทวนแผนการกำหนดยอดขาดดุลงบประมาณก็ตาม เรามองปัจจัยนี้ยังกดดันตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ในช่วงนี้ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ให้รอซื้อเมื่อตลาดมีการปรับฐานมาอยู่ที่ระดับ 1730-1740 จุด โดยเน้นซื้อหุ้นหลักที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและคาดว่าจะมีผลประกอบการไตรมาส 3/61 ออกมาดีเป็นหลัก วันนี้เราให้แนวรับที่ 1740-1735 จุด และแนวต้านที่ 1753-1760 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร KCE PLANB SAT TMB

 

  KCE : เราแนะนำ ซื้อ KCE โดยมีราคาเป้าหมาย 47 บาท หลังจากที่ KCE สามารถแก้ปัญหาคอขวดหลังมีการนำส่งเครื่องจักรใหม่ เนื่องจากบริษัทมีการผลิต PCB สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 8,450 ล้านตารางฟุต การผลิต HDI เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็น363,039 ตารางฟุตใน 2Q18 (+88.15% yoy, +55.81% qoq) ทำให้ส่วนแบ่งรายได้จากผลิตภัณฑ์นี้เพิ่มขึ้นจาก 5.6% ใน 1Q18 เป็น 8.1% ใน 2Q18 เราเชื่อว่าการที่บริษัทหันมาเน้นการผลิต HDI จะทำให้มาร์จินผลิตภัณฑ์ของ KCE เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ เราเชื่อว่าเครื่องเจาะที่จะนำส่งเพิ่มใน 2H18 จะทำให้ผลกำไรของ KCE มี upside จากการที่บริษัทสามารถผลิต HDI ในปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ เราคาดว่ามาร์จินจะเพิ่มสูงขึ้นจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานภายในบริษัท บวกกับแรงหนุนจากเงินบาทที่อ่อนค่าต่อดลลาร์สหรัฐและราคาวัตถุดิบที่ลดลง (ทองแดง, ทองแดงแผ่นและลามิเนต)เราประมาณการ GPM อยู่ที่ 30-31% ใน 2H18

 

  3 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข ADP Employment Change เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 185,000ราย จากเดือนก่อนหน้าที่ 163,000 ราย

  4 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Factory Orders เดือนส.ค. โดยตลาดคาด 1.0% จากเดือนก่อนหน้าที่ -0.8%

  5 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Change in nonfarm payrolls เดือนก.ย. โดยตลาดคาด188,000 ราย จากเดือนก่อนหน้าที่ 201,000 ราย

  5 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Unemployment rate เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 3.8% จากเดือนก่อนหน้าที่ 3.9%

  11 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข CPI MoM เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 0.2% จากเดือนก่อนหน้าที่0.2%

  12 ต.ค. : จีนประกาศตัวเลข Export YoY เดือนก.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ 9.8%

  15 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Retail Sales Advance MoM เดือนก.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่0.1%

 

  BH : Company Note คำแนะนำ: ขาย ราคาเป้าหมาย 160 บาท

 

  กลยุทธ์ : SET Index ยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ 1795-1800 จุด โดยมีแนวรับที่ 1750 และ 1740 จุดเป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้น และมีแนวรับสำคัญของการปรับฐานที่ 1730 จุด ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค

  DOD Biotech (DOD TB; THB 15.40) – ซื้อ

  Demco (DEMCO TB; THB 4.22) – ซื้อ