- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 02 October 2018 18:41
- Hits: 4491
บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Investment Strategy
กลยุทธ์ : ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้พุ่งขึ้นเกือบ 200 จุดหลังสหรัฐกับแคนาดาสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าหรือ NAFTA โดยใช้ชื่อใหม่ว่า USMCA แทน NAFTA การบรรลุข้อตกลงดังกล่าวตลาดมองจะช่วยหนุนการค้าระหว่างกลุ่มและการค้าโลกรวมทั้งปริมาณการใช้ราคาน้ำมัน โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นใกล้แตะ 85 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ ประเด็นดังกล่าวถือเป็นปัจจัยในเชิงบวกกับตลาดในอาทิตย์นี้ สำหรับราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นต่อ ตลาดมองมีความเป็นไปได้ที่ราคาจะขึ้นไปแตะ 90 ดอลลาร์/บาร์เรลหรือ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลในQ4/18 หรือใน Q1/19 โดยมีปัจจัยหนุนจากการคว่ำบาตรของสหรัฐต่ออิหร่านที่จะทำให้ปริมาณน้ำมันดิบหายไป 1-2 ล้านบารเรล์/วัน ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นใกล้ 85 ดอลลาร์/บาร์เรล ในระยะสั้นยังมิสิทธิที่จะขึ้นไปที่ระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังนักลงทุนในตลาด Option เปิดOpen interest สิทธิในการซื้อหรือ Call option ในระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรล (ในปลายเดือนนี้) จากระดับเกือบ 12000 lots ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็น 38000 lots หรือคิดเป็นปริมาณน้ำมันดิบ 38 ล้านบารเรล์ ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มค่อยๆ หนุนหุ้น PTTEPขึ้นมาแตะ 160 บาท หากราคาน้ำมันยังขึ้นต่อ สมมติไปที่ 90 ดอลลาร์/บาร์เรล มีความเป็นไปได้ที่ระดับราคาหุ้น PTTEP จะขยับขึ้นได้อีก แต่คงไม่แรง เนื่องจากหากดู ราคาน้ำมันในปี 2007 ที่ขึ้นทะลุ 90 ดอลลาร์/บาร์เรล ราคาหุ้น PTTEP ในช่วงแรกจะถูกขายทำกำไรก่อน แล้วค่อยกลับไปขึ้นใหม่ วันนี้มองแนวโน้มดัชนี SET เปิดขึ้นมาจะดีดตัวขึ้น ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคและราคาน้ำมัน โดยมีแนวต้านที่ 1766-1770 จุด ส่วนแนวรับที่ 1756-1752 จุด หุ้นที่แนะนำ ซื้อเก็งกำไรคือ CPALL PTTGC IVL TRUE
Themes play :
PTTGC : เราแนะนำ ซื้อ PTTGC โดยมีราคาเป้าหมาย 120 บาท เราคาดว่า PTTGC จะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 1.2-1.3 หมื่นล้านบาทต่อไตรมาสใน 2H18 โดยมีปัจจัยหนุนคือ 1)ธุรกิจโอเลฟินส์จะมีกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากราคา HDPE ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน, 2) มาร์จิน AN, PP และ PVC ที่ยังแข็งแกร่งจะทำให้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมอยู่ที่ 1.7-2.0พันล้านบาทต่อไตรมาส และ 3) ธุรกิจโรงกลั่นมีกำไรเพิ่มขึ้นจากพรีเมียมน้ำมันดิบที่ลดลงและมาร์จินน้ำมันเบนซิน-ดูไบที่สูงขึ้น ส่วนปัจจัยบวกที่จะผลักดันราคาหุ้นคือราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นและบริษัททำกำไร 2.3 หมื่นล้านบาทใน 2H18 ซึ่งจะสูงกว่าประมาณการกำไรสุทธิทั้งปีของ consensus 28% อิงประมาณการของเรา นอกจากนั้น PTTGC ยังเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นจากการที่ราคาผลิตภัณฑ์มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ ในขณะที่ต้นทุนส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นก๊าซ (Ethane,propane, LPG) ซึ่งมีราคาถูกกว่าราคาแนฟทาที่จะมีราคาสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ
ประเด็นในสัปดาห์
3 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข ADP Employment Change เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 185,000ราย จากเดือนก่อนหน้าที่ 163,000 ราย
4 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Factory Orders เดือนส.ค. โดยตลาดคาด 1.0% จากเดือนก่อนหน้าที่ -0.8%
5 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Change in nonfarm payrolls เดือนก.ย. โดยตลาดคาด188,000 ราย จากเดือนก่อนหน้าที่ 201,000 ราย
5 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Unemployment rate เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 3.8% จากเดือนก่อนหน้าที่ 3.9%
11 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข CPI MoM เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 0.2% จากเดือนก่อนหน้าที่0.2%
12 ต.ค. : จีนประกาศตัวเลข Export YoY เดือนก.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ 9.8%
Fundamental Stock :
Banks : Sector Note คำแนะนำ: Neutral Top Pick : BBL
Technical Pick
กลยุทธ์ : SET Index ยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ 1795-1800 จุด โดยมีแนวรับที่ 1750 และ 1740 จุดเป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้น และมีแนวรับสำคัญของการปรับฐานที่ 1730 จุด ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค
Syntec Construction (SYNTEC TB; THB 4.08) –ซื้อ
Karmarts (KAMART TB; THB 4.80) – ซื้อ
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 - [email protected]
Uraiwan Tantisuwannakul +66(2) 761 9256 - [email protected]
Line ID : @CGS-CIMB TH Youtube : CGS-CIMB TH
OO14516