KGI คาด SET Index วันอังคารไซด์เวย์ต่อ / บวกกรอบแคบ... ราคาน้ำมันดิบที่แรลลี่สู่ระดับสูงสุดใหม่รอบเกือบ 4 ปี (ตามรายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ลดลง ณ 28 ก.ย. รวมทั้งความกังวลต่อแผนการคว่ำบาตรอิหร่านในเดือน พ.ย.) น่าจะหนุนราคาหุ้นกลุ่มพลังงานและค้ำยัน SET Index ได้อยู่ ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ยังคงปรับตัวขึ้น ตอบสนองข่าวบวกเฉพาะตัวของสหรัฐฯ และของทวีปอเมริกา หลังจากสหรัฐฯ เม็กซิโก และแคนาดา บรรลุข้อตกลงการค้า 3 ฝ่ายฉบับใหม่ซึ่งมีพื้นฐานจาก NAFTA เดิม แต่เปลี่ยนชื่อเป็นข้อตกลง USMCA อย่างไรก็ดี KGI มองว่าข่าวดังกล่าวจะไม่ส่งผลบวกมายังหุ้นเอเชียและหุ้นไทยมากนัก ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังดำรงอยู่ (ล่าสุดเช้านี้ รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ยกเลิกการเยือนจีน) ด้านปัจจัยภายใน ความคาดหวังต่อการลงทุนภาคเอกชน การลงทุน EEC และการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ยังเป็นธีมต่อเนื่องจากวานนี้และน่าจะหนุนราคาหุ้นที่เชื่อมโยงปัจจัยดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้เรายังคงเน้นหุ้นไม้สอง (second tier) เนื่องจากเรามองว่า valuations ของดัชนีฯ ที่อยู่ในระดับสูง จะจำกัดอัพไซด์ของตลาดในระยะสั้น

 

  UNIQ (เป้าพื้นฐาน 19.9 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 14.4 บาท แนวต้าน 15 บาท และถัดไปที่ 16 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 14.0 บาท) 2) PE ปี 2562 = 13.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 19.6 เท่า ขณะที่แนวโน้มอุตสาหกรรมกำลังจะเข้าสู่ขาขึ้นอีกครั้ง ทั้งงานในมือตอนนี้ที่ 3.4 หมื่นล้านบาท (เพียงพอที่จะรับรู้รายได้ไป 2 - 3 ปี) และยังมีงานประมูลภาครัฐฯจำนวนมากที่กำลังจะเปิดประมูล 3) แนวโน้มกำไรจากการดำเนินงาน 2H61 จะโต HoH จากการรับรู้รายได้ โครงการ MRT สายสีส้ม (สัญญา 4 และ 6) และรถไฟทางคู่ (ลพบุรี - ปากน้ำโพ)

  SGP* (เป้าพื้นฐาน 14.9 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 12.2 บาท / แนวต้าน 12.9 - 13.2 บาท (Stop loss 11.7 บาท) 2) ราคาประกาศก๊าซ LPG เดือน ต.ค. ปรับขึ้น 9.2% จากเดือน ก.ย. เป็น 655 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ/ตัน และราคาก๊าซ LPG ล่วงหน้าส่งมอบเดือน พ.ย. ปรับขึ้นเป็น 674 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน (สูงกว่าที่คาดเฉลี่ย 4Q61 ที่ 629 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน) ทำให้คาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q61 จะเติบโตต่อเนื่องจาก 3Q61 3) PE ปี 2561 ยังต่ำเพียง 9.5 เท่า อิงประมาณการของเรา EPS 1.32 บาท/หุ้น

 

  หุ้นเด่น Quantamental เดือน ต.ค.61: / KTB* (Stop loss / Trailing stop 19.8 บาท) / AMATA* (Stop loss 22.3 บาท) / SGP* (Stop loss 11.6 บาท) / ASK (Stop loss 22.9 บาท) ... นักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไรหุ้นเด่นตัวอื่นๆในรายงาน Quantamental เดือน ต.ค.ได้

 

  (0) เงินเฟ้อทั่วไปเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 1.33% YoY อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เพิ่มขึ้น 0.80% YoY ดัชนีราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอร์เพิ่มขึ้น 0.35% YoY ส่วนดัชนีราคาที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น 1.90% YoY 9 เดือนแรก เงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้น 1.12% YoY อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.71% YoY (กระทรวงพาณิชย์) อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเป็นผลเนื่องจากราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น แต่อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงเป็นผลจากฐานของเงินเฟ้อที่มาจากราคาน้ำมันปีก่อนที่พุ่งสูงขึ้นตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน บวกกับการขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เมื่อวันที่ 16  กันยายนปีก่อน และราคาผักผลไม้ในเดือนกันยายนปีนี้ลดลงเนื่องจากปริมาณเพิ่มขึ้นตามสภาพอากาศเอื้ออำนวย เงินเฟ้อในช่วงเดือนตุลาคมยังคงขยายตัวในระดับต่ำเหมือนเดือนกันยายนจากฐานเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและยังไม่มีผลกดดันให้ กนง. ต้องเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน

  (+) กลุ่มรับเหมา ทีโออาร์ 4 โปรเจกต์อีอีซี (โพสต์ทูเดย์) นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารการพัฒนาเขตพิเศษภาคตะวันออก(กบ.) ครั้งที่ 2/2561 ว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการนำเสนอความคืบหน้าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 4 โครงการ จากทั้งหมด 5 โครงการในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) เพื่อนำเสนอต่อกรรมการนโยบายในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติหลักการก่อนกำหนดร่างขอบข่ายการประมูล (ทีโออาร์) และจะเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ ความเห็น เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ 4 โครงการในอีอีซี (โครงการเมืองการบินภาคตะวันออก ,โครงการศูนย์ซ่อมอากาศยานอู่ตะเภา, โครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ,โครงการท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3) โดยเราคาดว่า ทีโออาร์จะออกในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะทำให้ผู้รับเหมารายใหญ่มีโอกาสเข้าประมูลและทำให้backlog เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เรายังคงoverweight กลุ่มรับเหมา และเลือก STEC* และ SEAFCO เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม

  (+) สื่อกลางแจ้ง-ออนไลน์ หวังเลือกตั้งหนุนธุรกิจ (โพสต์ทูเดย์) VGI คาดเลือกตั้งปีหน้า สื่อโฆษณานอกบ้านยังได้อานิสงส์ ชี้สื่ออินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนมาแรงใช้ หาเสียงเจาะคนรุ่นใหม่

  (+ กลุ่มท่องเที่ยว) บัวแก้วไฟเขียว'ดับเบิล วีซ่า'ท่องเที่ยวชงครม.ฟื้น'จีน' (กรุงเทพธุรกิจ) "วีระศักดิ์" แจงกระทรวงต่างประเทศ พร้อมหนุนมาตรการวีซ่า "ดับเบิล เอ็นทรี่ วีซ่า" ยื่นขอวีซ่าเข้าไทย 1 ครั้ง เดินทางได้ 2 ครั้ง กระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีน เตรียมถกหน่วยงานเกี่ยวข้องสางปัญหาตลาดจีน 18 ต.ค.นี้ พร้อมเร่งพิสูจน์เหตุการณ์ทำร้ายนักท่องเที่ยวจีนที่ดอนเมือง ด้าน"ผบช.ตม."เร่งกวดขัน ขึ้นป้าย"โนทริป" ไม่มีค่าต๋ง ขณะ "ซีทริป" เผยจีนแห่เที่ยวญี่ปุ่นแซงไทย

  (+ กลุ่มรับเหมางานระบบฯ เช่น SAMTEL, ITEL, SIMAT, AIT) 'อุตตม'ดันลงทุนระบบดิจิทัลอีอีซี 5 ปี 1.8 หมื่นล้าน (กรุงเทพธุรกิจ) "อุตตม"เตรียมเสนอ กพอ.เคาะ 5 โครงการ เร่งดันโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล 5 ปี 1.9 หมื่นล้าน วางระบบดิจิทัล 3 จังหวัด 1,000 ตร.กม. เน็ตเร็วกว่า 4G 100 เท่า ลดค่าบริการ loT 30% รองรับ 1 ล้านอุปกรณ์ต่อ 1 ตร.กม. เล็งออก ทีโออาร์เมืองการบินอู่ตะเภา ศูนย์ซ่อม บำรุงอากาศยาน ท่าเรือมาบตาพุด ท่าเรือแหลมฉบัง ต.ค.นี้

  (+) S ทุ่ม 3.7 พันล.ผุดออฟฟิศ-พื้นที่ค้าปลีก (กรุงเทพธุรกิจ) บอร์ด "สิงห์ เอสเตท" ไฟเขียวลงทุนก่อสร้างอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกให้เช่า  "โครงการ OASIS" มูลค่าลงทุน 3.69 พันล้านบาท คาดเสร็จปลายปี 2564  

  (+) SUPER* ยื่นไฟลิ่งตั้ง "SUPEREIF" (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) บมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี เดินหน้ายื่นไฟลิ่งจัดตั้ง กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน "SUPEREIF" มูลค่า 8,500-9,000 ล้านบาทแล้ว คาดขายหน่วยลงทุนปลายเดือน ม.ค.-ก.พ.ปี 62 "จอมทรัพย์" เผยนำเงินไปจ่ายคืนหนี้ เพื่อลดต้นทุนทางการเงิน พร้อมรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต

  (+) EPCO โชว์ COD โซลาร์ฯญี่ปุ่น (ข่าวหุ้น) ขนาด 11.68 MW ลั่นบุ๊กรายได้ทันทีไตรมาส 4 EPCO แจ้ง COD โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม Kurihara 1 ที่ญี่ปุ่น ขนาด 11.68 MW ในวันที่ 1 ต.ค. ลั่นบุ๊กรายได้เข้ามาทันทีในไตรมาส 4/2561 คาดมีรายได้เฉลี่ย 130 ล้านบาทต่อปี ส่วนกำไรสุทธิเฉลี่ย 33 ล้านบาทต่อปี ดันงบปีนี้โตก้าวกระโดด ย้ำสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

  (+) BGRIM* ข่าวดีสะพัดไม่หยุด ขายไฟเพิ่ม 133 เมกะวัตต์ (ข่าวหุ้น) “BGRIM*” โชว์ข่าวดี! วานนี้โรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 5 กำลังการผลิต 133 เมกะวัตต์ เริ่มจ่ายไฟฟ้าแล้วดันกำลังการผลิตรวมพุ่งแตะ 2,045 เมกะวัตต์ ขณะที่ล่าสุดตั้งบริษัทย่อยในมาเลเซีย เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ

  (+) IVL* มุ่งหน้าเทกโอเวอร์ไม่หยุด (ข่าวหุ้น) ฮุบกิจการ 'Schoeller’ เสริมแกร่ง HVA IVL* เทกโอเวอร์ไม่หยุด ส่งบริษัทลูก “Glanzstoff” เข้าซื้อกิจการกลุ่ม “Schoeller” ผู้ผลิตขนสัตว์แท้และด้ายขนสัตว์ผสมในยุโรป ต่อยอดพอร์ตธุรกิจ HVA เต็มกำลัง มั่นใจปิดดีลภายในครึ่งหลังปี 2561

  (+) TPBI ทุ่มงบ 600 ล้าน ขยายฐานตลาดตปท. บุ๊กรายได้ทันที Q4 นี้ (ข่าวหุ้น) TPBI ทุ่มงบ 600 ล้านบาท ซื้อ IPM-ITP ในอังกฤษ และซื้อหุ้น ITPA 25% ในออสเตรเลีย ขยายฐานตลาดสู่บรรจุภัณฑ์กระดาษ มั่นใจบุ๊กรายได้ทันทีภายใน Q4/61 คาดประมาณ 1,000 ล้านบาท/ปี ขยายตลาดในอังกฤษ ออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆ ในยุโรป

หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า

  TRUE* (เป้าพื้นฐาน 9 บาท) ประเมินแนวรับ 6.05 บาท / แนวต้าน 6.4 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 6.0 บาท) 

  TFG (เป้า Consensus 4.2 บาท) ประเมินแนวรับ 4.18 บาท / แนวต้าน 4.40 บาท (Stop loss 4.14 บาท) 

  WHAUP* (เป้าพื้นฐาน 8.7 บาท) ประเมินแนวรับ 6.45 บาท / แนวต้าน 6.90 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 6.40 บาท) 

  KTB* (เป้าพื้นฐาน 21.5 บาท) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop ล๊อกกำไร 19.9 บาท)   

  AMATA* (เป้าพื้นฐาน 30 บาท) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop ล๊อกกำไร 23.7 บาท)   

  SEAFCO (เป้าพื้นฐาน 10.3 บาท) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop ล๊อกกำไร 9.0 บาท)

  SCCC (เป้าพื้นฐาน 310 บาท) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop ล๊อกกำไร 250 บาท)   

  TISCO* (เป้าพื้นฐาน 118 บาท) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop ล๊อกกำไร 83 บาท)  

  CPALL* (เป้าพื้นฐาน 87 บาท) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop ล๊อกกำไร 69 บาท)  

  BGRIM* (เป้าพื้นฐาน 31 บาท) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop ล๊อกกำไร 28 บาท)   

  COM7* (เป้า Consensus 21.5 บาท) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop ล๊อกกำไร 21.1 บาท) 

 

  COM7* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 26 บาท ฝ่ายวิจัยฯ Initiate coverage หุ้น COM7* ด้วยคำแนะนำ "ซื้อ" โดย i) คาดกำไรเติบโต 23.7% CAGR (2560-63), ii) ประเมิน COM7* รับอานิสงส์การเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมดิจิตอล (สังคมไร้เงินสดและไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิตอล), และ iii) ประเมินสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟนจะเป็นสินค้าที่เติบโตเด่นสุด

 

  จิตวิทยาตลาดวันนี้:  --- นัยต้าน 1763 จุด

   วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1763 จุดนั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1763-1785 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1763 จุดนั้น อาจทรงราคาในกรอบ 1763-1747 จุด

  แนวรับวันนี้:          1756/1748                    แนวต้านวันนี้:          1763/1778

 

หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ