ปัจจัยภายนอกทรงตัว และโฟกัสของนักลงทุนทุนกลับมายังปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะผลประกอบการไตรมาส 3/61 เริ่มโดยกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (ภายใน 20 ต.ค.) ซึ่งเราคาดผลการดำเนินงานโดยรวมมีสัญญาณฟื้นต่อเนื่องจากไตรมาส 2/61 อย่างไรก็ตามในระยะสั้น มีความเสี่ยงราคาหุ้นอาจผันผวนตามประเด็นการควบคุมปล่อยกู้อสังหาริมทรัพย์ที่เข้มงวดขึ้น กระทบระยะสั้นต่อทั้งหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และธนาคารได้ แต่มองเป็นโอกาสทยอยสะสม

  สำหรับตลาดหุ้นไทย คาดแกว่งตัว เพื่อเดินหน้าขึ้นทดสอบ 1760 และ 1780-1800 จุดตามลำดับ จากผลประกอบการและความคืบหน้าการเลือกตั้ง กลยุทธ์ยังคงเป็นการทยอยสะสม ในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเลือกตั้งและการบริโภคในประเทศ อาทิ ค้าปลีก ธนาคาร รับเหมาฯ ทั้งนี้ผลจากวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น จะทำให้หุ้นในกลุ่มที่ซื้อขายไม่แพง Outperform ตลาดกว่าหุ้นที่ PER สูง ยังชอบ BANPU, AEONTS*, PSH, EGCO, RATCH, SCB, KTB, PTT ขณะที่หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น เลือก TKN*, PM*, TTA*, PSL*, SCN*, NNCL*

  ลีสซิ่ง – ผู้ประกอบการอาจขอปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยปล่อยกู้ เนื่องจาก การกำหนดลดค่าทวงหนี้จาก 500-2,000 บาท เหลือ 50-200 บาท อย่างไรก็ตามราคาหุ้นในกลุ่มที่สะท้อนความเสี่ยงเรื่องการปรับลดดอกเบี้ยไปมากแล้ว ทำให้ม๊โอกาสฟื้นตัว ในกลุ่มนี้เราชอบ TK*

  Investment Theme หุ้นใหญ่และกลุ่มหุ้นเลือกตั้ง BBL, SCB, STEC, CPALL, PTT, PTTEP/ หุ้นเล็กที่น่าสนใจ GUNKUL*, PSTC*, DTC*, EASTW*, AEONTS* / หุ้นกระแสเงินสดมั่นคง-ปันผล CPNREIT, CPN, PSH, AP, SPF*, EA, BCPG / กลุ่มการแพทย์ BDMS, BH, CHG, BCH / 

  ภาพรวมกลยุทธ์: คาดกลับมาเดินหน้าขึ้นทดสอบ 1780-1800 ถือหุ้นที่มี หรือทยอยสะสมหุ้นใหญ่ รวมทั้งสามารถเลือกเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็ก  // หุ้นแนะนำวันนี้ CPALL, STEC / เก็งกำไร GUNKUL* (เป้า 3.20 ตัดขาดทุน 2.98), NNCL* (เป้า 2.10 ตัดขาดทุน 1.80)

แนวรับ 1750 / แนวต้าน : 1762-1780 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%

 

  ธนาคาร/อสังหาริมทรัพย์ – ปัญหาหนี้เสีย (NPL) จากภาคอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากกลุ่มที่ปรับโครงสร้างหนี้แล้วกลับไปเป็น NPL รวมถึงกลุ่มอาชีพอิสระ และการชักชวนให้ซื้อลงทุนหวังค่าเช่า อาจทำให้ ธปท.เข้ามาเข้มงวดหรืออกเกณฑ์กำกับดูแล ซึ่งจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อจิตวิทยาการลงทุน หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ในฐานะผู้ปล่อยกู้ 

  ท่องเที่ยว – ติดตามโมเมนตัมนักท่องเที่ยวจีน หลังไทยหลุดที่ 1 แหล่งเที่ยวจีน ญี่ปุ่นแซงหน้าเป็นจุดหมายวันหยุดยาวโกลเด้นวีก ขณะเดียวกันเกิดกรณีรปภ.สนามบินดอนเมือง ใช้กำลังเกินกว่าเหตุต่อนักท่องเที่ยวจีน

  CPALL – กรมสรรพากรประกาศรายชื่อบริษัทที่ผ่านคุณสมบัติเป็นตัวแทนคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรในเมือง โดยมีผู้ผ่านเพียง 1 รายคือ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด ในเครือ CPALL

  TFFIF – กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน สินทรัพย์ประกอบด้วยรายได้ 45% ของทางด่วนฉลองรัฐและบูรพาวิถี 30 ปี และอาจมีมอเตอร์เวย์กับวงแหวนรอบนอก ขนาดกองทุน 4.1-4.57 ล้านบาท โดยคาดผลตอบแทน (yield) ปีละ 4.75-5.30% มาจากการดำเนินงาน 4.0-4.5% ที่เหลือมาจากการลดทุน กระทรวงการคลังถือ 10 %ขณะที่กระจายให้รายย่อย 50-60% เปิดจอง 12-19 ต.ค. เข้าซื้อขาย 31 ต.ค. จองที่สาขาธนาคารกรุงเทพและกรุงไทย

  IVL – เข้าซื้อกิจการผลิตเส้นด้ายขนสัตว์ในยุโรป กำลังการผลิต 3.6 พันตัน/ปี โดยรออนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นไม่ถึง 1% ของกำลังการผลิตรวม เรามองเป็นปัจจัยบวกแต่ไม่ส่งผลต่อการปรับประมาณการ

 

ประเด็นติดตาม: 2 ต.ค. – ประธานเฟดกล่าวสุนทรพจน์/ 6 ต.ค. – ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)

 

1 ต.ค. – ตัวเลขเงินเฟ้อไทย

2 ต.ค. – ประธานเฟดกล่าวสุนทรพจน์

6 ต.ค. – ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ  

1-5 ต.ค. – วันชาติจีน (national day)

 

 

CPALL (84) : หุ้น top pick ในกลุ่มค้าปลีก ราคาที่ปรับลดลงสะท้อนการชะลอตัวของผลการดำเนินงานไปแล้ว ขณะที่ลงมาถึงโซนซื้อ 63-67 ทำให้มีโอกาสเข้าสู่จุดฟื้นตัว/ซื้อกลับโดยนักลงทุน อีกทั้งได้ประโยชน์จากสัญญาณการบริโภคที่ฟื้นตัว

STEC (33) : คาดผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น และหุ้นเป็น top pick ของเราในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง จาก backlog ที่หนาแน่น และปัจจัยบวกจากการเปิดประมูลงานใหม่ๆในช่วง ไตรมาส 4/61-1-62

GUNKUL* (3.20) : เก็งกำไรแบบตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 2.98 บาท

NNCL* (2.10) : เก็งกำไรแบบตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 1.80 บาท

หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ: กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ / SSP*, AEONTS*, EGCO, GULF*, EA*, TTA*, PSL*, SCN*, CNT*, NNCL* (ควรตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5%)