KGI คาด SET Index วันจันทร์ (วันแรกของ ต.ค. และของไตรมาส 4/61) ปรับขึ้นกรอบจำกัด... หนุนโดยราคาน้ำมันที่เดินหน้าปรับขึ้น และน่าจะหนุนราคาหุ้นพลังงานตัวหลักๆ ผนวกกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่องตามตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่ง แนวโน้มดอกเบี้ยไทยที่กำลังจะปรับขึ้น และพัฒนาการเชิงบวกทางการเมือง น่าจะหนุนฟันด์โฟลว์หุ้นไทยได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯ ยังคงมองว่า upside ของดัชนีฯ ในช่วงสั้น (และในเดือนนี้) มีจำกัด เนื่องจาก valuations ของตลาดหุ้นอยู่ในระดับสูงและข่าวสารเชิงบวกจากต่างประเทศได้ออกมาในเดือนที่แล้วค่อนข้างมาก กลยุทธ์การเลือกหุ้นในเดือน ต.ค. จึงยังเน้นหุ้นขนาดกลางที่มีธีมเช่น i) การเมืองที่ชัดเจน การเลือกตั้งที่ใกล้เข้ามา ii ได้ประโยชน์จากตัวเลขการลงทุนภาคเอกชนที่เร่งตัวขึ้นชัดเจนในเดือน ส.ค. และ iii) แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/2561 แข็งแกร่ง น

 

  UNIQ (เป้าพื้นฐาน 19.9 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 14.4 บาท แนวต้าน 15 บาท และถัดไปที่ 16 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 14.0 บาท) 2) PE ปี 2562 = 13.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 19.6 เท่า ขณะที่แนวโน้มอุตสาหกรรมกำลังจะเข้าสู่ขาขึ้นอีกครั้ง ทั้งงานในมือตอนนี้ที่ 3.4 หมื่นล้านบาท (เพียงพอที่จะรับรู้รายได้ไป 2 - 3 ปี) และยังมีงานประมูลภาครัฐฯจำนวนมากที่กำลังจะเปิดประมูล 3) แนวโน้มกำไรจากการดำเนินงาน 2H61 จะโต HoH จากการรับรู้รายได้ โครงการ MRT สายสีส้ม (สัญญา 4 และ 6) และรถไฟทางคู่ (ลพบุรี - ปากน้ำโพ)

  AMATA* (เป้าพื้นฐาน 30 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 23.7 บาท / แนวต้าน 25.25 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 23.0 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H61 จะเติบโต HoH โดย ยอดขายที่ดิน QTD อยู่ที่ประมาณ 300 ไร่ ซึ่งคิดเป็นยอดขายที่ดินประมาณ 500 ไร่ YTD จากสมมติฐานยอดขายทั้งปีที่ 950 ไร่ 3) ประเมิน Sentiment บวกของกลุ่มนิคมฯ จาก i) ความคืบหน้าการเลือกตั้ง ii) การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐฯ ที่จะช่วยสนับสนุนการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนในช่วงปลายปีนี้

  SGP* (เป้าพื้นฐาน 14.9 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 12.2 บาท / แนวต้าน 12.9 - 13.2 บาท (Stop loss 11.7 บาท) 2) ราคาประกาศก๊าซ LPG เดือน ต.ค. ปรับขึ้น 9.2% จากเดือน ก.ย. เป็น 655 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ/ตัน (สูงกว่าที่คาดเฉลี่ย 4Q61 ที่ 629 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน) ทำให้คาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q61 จะเติบโตต่อเนื่องจาก 3Q61 3) PE ปี 2561 ยังต่ำเพียง 9.4 เท่า (อิงประมาณการของเรา EPS 1.32 บาท/หุ้น)

 

  หุ้นเด่น Quantamental เดือน ต.ค.61: / KTB* (Stop loss / Trailing stop 19.8 บาท) / AMATA* (Stop loss 22.3 บาท) / SGP* (Stop loss 11.6 บาท) / ASK (Stop loss 22.9 บาท) ... สำหรับหุ้นเด่นเดือน ก.ย. แนะนำ "Let profit run" KTB* (+4.1%) / ขายกำไร D (+8.2%) / ขายตัดขาดทุน COL (-4.1%) / และแนะนำ "ถือ" MBK (+2.0%), SF (-3.8% กำหนดจุดตัดขาดทุน 8.55 บาท)

 

  (+) เซเว่นคว้าแวตรีฟันด์ (โพสต์ทูเดย์) สรรพากรคัดเลือกเคาน์เตอร์เซอร์วิสให้บริการ 3 จุด สมาคมค้าปลีกถกด่วนวันนี้ สรรพากรเลือกเคาน์เตอร์เซอร์วิสในเครือ CPALL* เปิดจุดบริการคืนแวตนักท่องเที่ยว สมาคมค้าปลีกออกหนังสือแจงไม่เป็นธรรม

  (- กลุ่มท่องเที่ยว) ไทยหลุดที่ 1 แหล่งเที่ยวจีน (โพสต์ทูเดย์) ญี่ปุ่นแซงหน้าเป็นจุดหมายวันหยุดยาวโกลเด้นวีก โรงแรมเชื่อยอดจองต.ค.ฟื้น ชาวจีน 7 ล้านคนเริ่มออกเที่ยวเทศกาลหยุดยาววันชาติ ญี่ปุ่นแซงไทยขึ้นที่ 1 จุดหมายต่างประเทศ

  (+ กลุ่มรับเหมาฯ) "คมนาคม"จัดกลุ่มรถไฟทางคู่เฟส 2 ชงสศช. ดันชุดแรกอีสานเชื่อมลาวเพิ่มขนส่งสินค้า (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) "คมนาคม" จัดกลุ่มลงทุนรถไฟทางคู่เฟส 2 กว่า 3.5 แสนล้าน ดันเติมเต็มโครงข่ายเส้นทางภาคอีสานชง สศช. ก่อน ส่วนชุด 2 เป็นโครงข่ายสายเหนือ "วรวุฒิ" คาด ครม.อนุมัติปลายปี 61 เริ่มทยอยเปิดประมูล และลงนามก่อสร้างในต้นปี 62 หวังเส้นทาง "ขอนแก่น-หนองคาย" เชื่อมแหลมฉบัง และ EEC กับลาวเพิ่มขีดการขนส่งสินค้าตามยุทธศาสตร์ชาติ

  (+ กลุ่มรับเหมาฯ) รฟท.เร่งทีโออาร์รถไฟไทย-จีนช่วงที่สอง (ไทยโพสต์) รฟท.เดินหน้าเปิดทีโออาร์รถไฟไทย-จีน ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กม. เป็นการก่อสร้างระดับดิน และยกระดับ คาดใช้เวลาไม่เกิน 15 เดือนแล้วเสร็จ

  (+) AMATA*-WHA* วิ่งคึก! ลุ้นมติบอร์ดอีอีซี 4 ต.ค. (ข่าวหุ้น) “AMATA*-WHA*” วิ่งคึก! ขานรับข่าวดี 4 ต.ค.นี้ บอร์ด EEC เปิดประชุมพิจารณาลงทุน 4 โครงการเร่งด่วน “มาบตาพุดเฟส 3-แหลมฉบังเฟส 3-สนามบินอู่ตะเภา-ศูนย์ซ่อมอู่ตะเภา” มูลค่า 3.75 แสนล้านบาท พร้อมคลอดทีโออาร์ในเดือน ต.ค.นี้ทันที

  (+) AIS ผนึก JMART สร้างซินเนอร์ยี่ (ข่าวหุ้น) ขยายช่องขายสินค้า-บริการ หนุนลูกค้าเพิ่มขึ้น ADVANC* ผนึก JMART เสริมศักยภาพธุรกิจ ขยายช่องจำหน่ายสินค้าและบริการดิจิทัล ผ่านร้านค้าในเครือเจมาร์ท รวม 443 แห่ง หนุนลูกค้าเพิ่มขึ้น ฟาก JMART ตั้งเป้าลูกค้าซื้อมือถือพ่วงแพ็กเกจรายเดือนพุ่ง 3 เท่า ภายในสิ้นปี 61

  (+) TPBI ทุ่ม 546 ล้านซื้อกิจการ รุกตลาดยุโรป-ออสเตรเลีย (ทันหุ้น) TPBI ทุ่มงบ 546.45 ล้านบาท ซื้อธุรกิจบรรจุภัณฑ์ รุกขยายตลาดทวีปยุโรป-ออสเตรเลีย หวังเพิ่มมูลค่ากิจการ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ประเภทกระดาษมาใช้ในการศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ

  (+) III ไฮซีซันหนุนขนส่งรับรู้ไปรษณีย์ไทย Q4 (ทันหุ้น) III เติบโตทุกธุรกิจ ระบุไฮซีซันหนุนธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ขณะที่คลังสินค้าดอนเมืองสร้างรายได้ต่อเนื่อง เล็งขยายพื้นที่เพิ่มรองรับลูกค้ารายใหม่ ส่วนลูกค้าไปรษณีย์ไทยคาดเริ่มกลับมาใช้บริการทางอากาศ ภายในไตรมาส 4/2561 นี้ พร้อมรับรู้รายได้ทันที ย้ำผลงานปีนี้โตตามนัดที่ 15-20%

 

  TRUE* (เป้าพื้นฐาน 9 บาท) ประเมินแนวรับ 6.0 บาท / แนวต้าน 6.4 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 6.0 บาท) 

  WHAUP* (เป้าพื้นฐาน 8.7 บาท) ประเมินแนวรับ 6.2 บาท / แนวต้าน 6.45 - 6.80 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 6.15 บาท) 

  KTB* (เป้าพื้นฐาน 21.5 บาท) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop ล๊อกกำไร 19.7 บาท)   

  TFG (เป้า Consensus 4.2 บาท) ประเมินแนวรับ 4.18 บาท / แนวต้าน 4.40 บาท (Stop loss 4.14 บาท) 

  SEAFCO (เป้าพื้นฐาน 10.3 บาท) ประเมินแนวรับ 8.8 บาท / แนวต้าน 9.2 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 8.7 บาท)

  SCCC (เป้าพื้นฐาน 310 บาท) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop ล๊อกกำไร 249 บาท)   

  TISCO* (เป้าพื้นฐาน 118 บาท) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop ล๊อกกำไร 83 บาท)  

  CPALL* (เป้าพื้นฐาน 87 บาท) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop ล๊อกกำไร 69 บาท)  

  BGRIM* (เป้าพื้นฐาน 31 บาท) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop ล๊อกกำไร 28 บาท)   

  COM7* (เป้า Consensus 21.5 บาท) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop ล๊อกกำไร 21 บาท)  

 

  DTAC* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 56 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาด 3Q61 จะรายงานผลขาดทุนสุทธิ -1.35 พันล้านบาทใน 3Q61 (รวมการพิเศษจากการตัดจำหน่ายสินทรัพย์ถาวร 1.43 พันล้านบาท) แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ คาดว่าบริษัทจะมีขาดทุนปกติราว 206 ล้านบาท เพราะถูกกดดันจากรายได้ที่คาดชะลอตัว ขณะที่คาดต้นทุน รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดีแนวโน้มผลการดำเนินงานจะดีขึ้นตั้งแต่ 4Q61 เป็นต้นไป เนื่องจากประหยัดต้นทุนลงได้หลังสิ้นสุดสัมปทานในกลางเดือน ก.ย.2561

 

  จิตวิทยาตลาดวันนี้:  --- นัยรับ 1753 จุด

   วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1753 จุดนั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1753-1775 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1753 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1753-1736 จุด

  แนวรับวันนี้:          1753/1743               แนวต้านวันนี้:          1756/1773

 

หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ