SET Recap 

  SET ปิดที่ระดับ 1,752.95 จุด เพิ่มขึ้น 3.02 จุด (+0.17%) มูลค่าการซื้อขาย  63,424.61 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวานนี้ แกว่งตัวผันผวนในแดนบวก-ลบ จากการ Rollover ในตลาด TFEX และผลประชุมเฟดเป็นไปตามตลาดคาดมีการปรับดอกเบี้ยขึ้น 0.25% เป็น 2.0-2.25%

 

  คาดดัชนีฯวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้น หลังตอบรับต่อการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed และการปิดสัญญาในตลาด TFEX ไปแล้ว ......   ตัวแปรที่กดดันต่อตลาดวานนี้ คือโอกาสที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ 4 ครั้ง (ครั้งสุดท้ายคือเดือน ธ.ค.) ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มให้ความสนใจต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยและ Fund Flow ที่อาจไหลออกจากตลาดหุ้นต่างๆ ซึ่งตัวแปรนี้จะยังอยู่ในตลาดหุ้นไปอีกระยะหนึ่ง แต่ด้วยปัจจัยบวกของไทยเองและนักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นไทยไปมากแล้วจึงอาจมีผลกระทบเพียงช่วงสั้นๆ ......  ประเด็นการค้าสหรัฐฯและประเทศอื่นๆ มีการพูดถึง GSP ของไทย เป็นตัวรบกวนต่อตลาดหุ้นทั่วโลก อยุ่ในเวลานี้  ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ ล่าสุด Brent $81 เหรียญ ผลบวกจะมีเพียงผู้ผลิตน้ำมัน (PTTEP) แต่หากราคาน้ำมันปรับขึ้นไปมาก จะเพิ่มความกังวลต่อเงินเฟ้อและการเร่งขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งเป็นลบในภาพรวมมากกว่าหากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ..........  ปัจจัยในประเทศ ผลบวกจากการเลือกตั้งคือการเร่งลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจยังเป็นบวก แต่นักลงทุนน่าจะมารอประเมินว่าพรรคใดหรือใครจะมาเป็นนายกฯคนใหม่ ด้านตัวแปรที่มีผลต่อตลาดโดยตรง คือ กำลังเข้าสู่ช่วงการทำ preview กำไร 3q ของธนาคาร ผลสำรวจโดยเฉลี่ยกำไรส่วนใหญ่ดีขึ้นจากปีก่อน และกฎเกณฑ์ใหม่ๆของ ธปท. มีผลทั้งบวกและลบต่อหุ้นสถาบันการเงินในช่วงนี้ .....  Event ที่ควรติดตามในระหว่างวัน จะเป็นรายงานเศรษฐกิจเดือน ส.ค.ของ ธปท. และ ADVANC-JMART แถลงข่าวความร่วมมือทางธุรกิจ

 

  เช่นเดียวกับวันก่อนที่เรามองตลาดยังพักตัว คือวิ่งในกรอบ 1745-1766 จุดไปอีกระยะหนึ่ง  ทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯชัดขึ้น แต่ด้วยน้ำหนักทางลบต่อสงครามการค้าที่สหรัฐฯยังดูแข็งกร้าว ทิศทาง Fund Flow หลัง Fed ขึ้นดอกเบี้ยยังไม่ชัดเจน (กดดันให้ ธปท.ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น) ทำให้การเข้าลงทุนในวันนี้ จึงยังเน้นเก็งกำไรช่วงสั้น หรือสลับขายหุ้นที่ราคาขึ้นมามาก ........หุ้น top picks วันนี้  เราคงหุ้น MINT , SYNEX, BDMS และ AMATA ไว้ และเพิ่มหุ้น BGRIM, MTC และ COM7

 

  * เป็นหุ้นที่แนะนำโดย KTBST ยังไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์