- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 27 September 2018 18:47
- Hits: 1071
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
สะสม/ เก็งกำไรหุ้นรายตัว
ระดับความเสี่ยงของตลาด
Neutral
Smart Pick
เก็งกำไร TRUE
ราคาปิด 6.15 บาท
ราคาเหมาะสม 8.50 บาท
เรามองว่า TRUE ตอบรับเชิงบวก หลังศาลปกครองชั้นต้นเพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการให้ TRUE ไม่ต้องชำระเงินค่าภาษีสรรพสามิตแทน TOT จำนวน 1.27 พันล้านบาท
นอกจากนั้น NVDR ซื้อสุทธิ TRUE สูงเป็นอันดับ 4 รวม 254 ล้านบาท เป็น Sentiment บวก ขณะที่ผลประกอบการ 3Q61 คาดดีขึ้น QoQ จากค่าเสื่อมราคาที่ลดลงราว 700-800 ล้านบาท/ ไตรมาส และ Market Share เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
เก็งกำไร SCB
ราคาปิด 144.50 บาท
ราคาเหมาะสม 153.00 บาท
เราคาดกำไรสุทธิ 3Q61 ที่ 11,118 ล้านบาท +9.8% YoY จากการตั้งสำรองลดลง รวมทั้งรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเติบโต YoY และมีโอกาสที่งบจะออกมาดีกว่าคาดได้ หากคุณภาพสินทรัพย์ดีกว่าคาด
ขณะที่แนวโน้มสินเชื่อในช่วงที่เหลือของปี คาดจะเร่งตัวขึ้นใน 4Q61 เพราะเข้าสู่ High Season ของความต้องการใช้ทุนหมุนเวียน และการปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงปลายปีเป็นบวกทางตรงต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ในปี 2562
สะสม SCC
ราคาปิด 452.00 บาท
ราคาเหมาะสม 510.00 บาท
เรามองว่าหุ้นกลุ่มปูนซีเมนต์ผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 1H61 หลังปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์เดือน ก.ค.กลับมาเติบโต +8% YoY สูงสุดในรอบกว่า 4 ปี และคาดว่าจะดีขึ้นต่อเนื่องใน 2H61 หนุนให้ความต้องการใช้ปูซีเมนต์ปี 2561 กลับมาโตครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่ +2% YoY
นอกจากนั้น Valuation มีความน่าสนใจ ราคา ณ ปัจจุบันซื้อขายที่ PER2561 เพียง 10 เท่า และผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย 4% /ปี
เก็งกำไร TKS
ราคาปิด 11.70 บาท
แนวต้านทางเทคนิค 12.30 บาท
ราคาหุ้นวานนี้ปรับตัวผ่าน 11.50 บาทได้เป็นสัญญาณบวกทางเทคนิค คาดมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 12.30 บาท แนวรับ 11.50 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 11.30 บาท
เราคาดกำไรปกติ 3Q61 ขยายตัวเด่น QoQ จากกำไรของบริษัทลูกคือ SYNEX ที่เติบโตทั้ง YoY และ QoQ นอกจากนั้น TKS ยังมีปัจจัยหนุนเฉพาะตัวจากงานรับพิมพ์แสตมป์ ใน 3Q61 และฐานรายได้มีโอกาสยกขึ้นอีกใน 4Q61 ที่เป็น High Season ของธุรกิจสิ่งพิมพ์
Profit-Taking : N.A.
กลยุทธ์วันนี้
เราประเมินว่าภาพการลงทุนมีโอกาสเกิด Sector Rotation จากกลุ่ม Global Play ไปสู่กลุ่ม Domestic Play โดยกลุ่มพลังงาน/ ปิโตรเคมี มีโอกาสพักตัวเล็กน้อย ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่เกิดแรงขายทำกำไร ขณะที่กลุ่ม Domestic จะเริ่มมีสีสันมากขึ้น ด้วยประเด็นบวกหนุนคือ การเก็งกำไรผลการดำเนินงาน 3Q61 เราประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET INDEX วันนี้ บริเวณ 1745-1760 จุด
เรามีมุมมองเป็นกลางต่อผลการประชุมเฟดวานนี้ ซึ่งมีมติขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเป็น 2.00-2.25% ตามคาด และส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งสำหรับปีนี้ และอีก 3 ครั้งในปี 2562 แม้มีแรงกดดันจากประธานาธิบดีสหรัฐฯก็ตาม พร้อมกันนี้ เฟดแสดงความมั่นใจต่อพื้นฐานเศรษฐกิจสหรัฐฯ ด้วยการปรับเพิ่มประมาณการ GDP ปี 2561 จาก 2.8% เป็น 3.1% และปี 2562 จาก 2.4% เป็น 2.5%
บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานที่น่าสนใจเช้านี้ คือ คาดการณ์ผลการดำเนินงานงวด 3Q61 (Earnings Preview) ของกลุ่มธนาคาร เราคาดภาพรวมกำไรสุทธิ โตเด่น 11.4% YoY จากการตั้งสำรองที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่จะทรงตัว QoQ เพราะค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน (OPEX) สูงขึ้นตามฤดูกาล สำหรับการเก็งกำไรงบ 3Q61 เราแนะนำ BBL/ TISCO/ TMB เพราะคาดกำไรเติบโตทั้ง QoQ และ YoY ขณะที่ภาพระยะกลางจนถึงสิ้นปีนี้ เรามองว่า SCB และ KKP มีความน่าสนใจ เพราะมี Upside Risk ในการปรับเพิ่มประมาณการกำไร
กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ เน้นสะสมหุ้นกลุ่ม Domestic Play บนประเด็นการลงทุน คือ การเก็งกำไรผลการดำเนินงาน 3Q61 (Earnings Play) กลุ่มธนาคาร/ สื่อสาร ได้แก่ BBL/ SCB/ TRUE เป็นต้น สำหรับนักลงทุนระยะกลางถึงยาว แนะนำสะสมหุ้น Top Picks ประจำไตรมาส 4/2561 ตามบทวิเคราะห์กลยุทธ์ Quarterly Strategy “กลับสู่โหมด 1800 อีกรอบ” เช้านี้เรา
HOT Topic
1. เฟดขึ้นดอกเบี้ยตามคาดอีก 0.25% เป็น 2.00-2.25% มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปใน Statement ของเฟด?
2. จีนโต้ตอบสหรัฐฯ โดยลดภาษีนำเข้าให้ประเทศอื่นๆที่ไม่ใช่สหรัฐฯ
3. ติดตามการพิจารณาของ กกพ. ประเด็น GPSC ซื้อ GLOW
4. Preview งบ 3Q61 กลุ่มธนาคาร และบทวิเคราะห์ กลยุทธ์การลงทุนไตรมาส 4
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX เพิ่มขึ้น 1.94 จุด ปิดที่ 1749.93 จุด มูลค่าการซื้อขายยังคงเบาบางเพียง 4.9 หมื่นล้านบาท
กระแสเงินทุน: นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 เพียง 82 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิสะสมราว 1.1 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ขายสุทธิเป็นวันที่ 3 อีกราว 630 ล้านบาท รวม 3 วันทำการขายสุทธิสะสมกว่า 4.6 พันล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิวันแรกในรอบ 3 วันทำการหนาแน่นถึง 1.1 หมื่นสัญญา ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Long สุทธิคงเหลือ 4.2 หมื่นสัญญา โดย S50Z18 มี Premium เมื่อเทียบกับ SET50 ราว 3.5 จุด เช่นเดียวกับกลุ่มสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิเป็นวันที่ 2 แต่เล็กน้อยเพียง 17 สัญญา รวม 2 วันทำการมีสถานะ Short สุทธิสะสมราว 2.8 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Short สุทธิสะสมราว 2.5 หมื่นสัญญา
ตลาดตราสารหนี้: นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิราว 2.6 พันล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิราว 1.3 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
เฟดมีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 25 bps เป็น 2.00%-2.25% โดย Dot Plot ส่งสัญญาณเฟดขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ และ 3 ครั้งในปี 2562
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความไม่พอใจต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เผยอยู่ระหว่างการเจรจาทางการค้ากับญี่ปุ่น
ส.ว. สหรัฐฯ โหวตผ่านงบประมาณประจำปี 2562 เพื่อเลี่ยงการปิดหน่วยงานราชการของสหรัฐฯ โดยขั้นตอนต่อไปคือการลงนามของประธานาธิบดีสหรัฐฯ
จีนประกาศเตรียมลดภาษีนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาจากสหรัฐฯ 1,585 รายการ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชน และลดค่าครองชีพของประชาชน
EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล
ศาลปกครองกลางเพิกถอนคำชี้ขาดคณะอนุญาโตฯ TRUE จึงไม่ต้องจ่ายภาษีสรรพสามิต 1,217 ลบ.ให้กับทาง TOT
ติดตามการรายงาน GDP 2Q61 ครั้งที่ 3 ของสหรัฐฯ ตลาดคาดขยายตัว 4.3% และการซื้อขาย S50U18 วันสุดท้าย วันนี้
กกพ. เตรียมสรุปกรณีดีลการซื้อหุ้น GLOW ของบริษัท GPSC วันนี้
กกต. เชิญพรรคการเมืองหารือ วันที่ 28 ก.ย.
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อ PCE เดือน ส.ค. ของสหรัฐฯ ตลาดคาดขยายตัว 2.0% YoY , การรายงาน GDP 2Q61 ของอังกฤษ และการรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยของธปท. วันที่ 28 ก.ย.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO14354