Stock          S          R        Comment

AMATA        21.70      22.80      ตัวเลข FDI แกร่ง หนุนยอดขายที่ในนิคม

CPALL        68.50      70.00      สแตมป์ลายใหม่มาแล้ว อย่าลือมรีบสะสมก่อน 23 พ.ย.นี้

QH            3.50       3.64      ทำระดับ Gross Profit ได้สูงถึง 35% เสริมศักยภาพกำไรระยะยาว

 

          Oil : ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยล่าสุดราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบเกือบ 4 ปี โดยมีปัจจัยหนุนหลักจากการที่กลุ่ม OPEC และ Non-OPEC ออกมาแสดงจุดยืนว่าจะยังคงกำลังการผลิตน้ำมันไว้ที่ระดับปัจจุบัน โดยไม่สนใจเสียงเรียกร้องจากสหรัฐฯที่ต้องการให้เพิ่มปริมาณอุปทานในตลาด มองเป็นปัจจัยหนุนต่อกลุ่มพลังงานและเป็นปัจจัยประคับประคอง SET Index ในวันนี้

          มุมมองของเราต่อราคาน้ำมัน : สำหรับช่วงไตรมาส 4 เราคาดว่าราคาน้ำมันดิบจะยังยืนอยู่ในระดับสูงได้ โดยคาดการณ์กรอบการแกว่งตัวของราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ระดับ 70-85 เหรียญฯต่อบาร์เรล ทั้งนี้ มีปัจจัยหนุนที่สำคัญได้แก่การที่สหรัฐฯจะบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านรอบที่ 2 ในวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งคาดว่าจะทำให้อิหร่านมีการผลิตน้ำมันลดลงจากระดับปัจจุบันที่อยู่ที่ราว 3.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ดูรูป) และจะทำให้ปริมาณอุปทานน้ำมันในตลาดไม่อยู่สูงจนเกินไป ซึ่งในแง่ของ Implication ต่อการลงทุนนั้น เรามองว่าอาจยังจำเป็นที่จะต้องถือหุ้นในกลุ่มพลังงานต่อไปทั้งในกลุ่มต้นน้ำที่ได้ประโยชน์โดยตรงอย่างเช่น PTTEP และกลุ่มปลายน้ำอย่างโรงกลั่น (BCP, IRPC, SPRC, TOP) ที่คาดว่าจะได้แรงหนุนจากปัจจัย Stock gain ต่อไป

          กลยุทธ์การลงทุน : ยังคงคาดการณ์ว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways ในเดือนนี้ต่อไปในกรอบแนวรับที่ 1700 จุดและ 1670 จุด และกรอบแนวต้านที่ 1740 จุดและ 1770 จุด แนะนำนักลงทุนที่ Take profit ไปแล้วบางส่วนที่บริเวณดัชนี 1740 จุด Wait & See รอดูสถานการณ์ โดยหากดัชนีปรับตัวขึ้นต่อไปที่แนวต้านสำคัญที่ 1770 มองเป็นโอกาสในการลดพอร์ตการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ

          Laggard with high yield : มองกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจหากจะต้องมีการเข้าลงทุนใหม่ ณ วันนี้ได้แก่กลุ่มหุ้นปันผลสูงที่ยังคงปรับตัว Laggard ตลาด ซึ่งหากคัดกรองจากสมาชิกในดัชนี SETHD ล่าสุดจะพบว่าได้แก่ TISCO, MAJOR, LH, CPF, BBL, ADVANC, SCC, PTTGC

          แนวรับ  1,741  แนวต้าน 1,763