SET ปิดที่ระดับ 1,749.42 จุด ลดลง 6.70 จุด (-0.38%) มูลค่าการซื้อขาย  44,101.96 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ปรับตัวลดลงตามตลาดในภูมิภาค เป็นวันแรกที่สหรัฐฯและจีนเริ่มใช้มาตรการภาษี และนักลงทุนชะลอการลงทุน เนื่องจากรอติดตามผลการประชุม FOMC (25-26)

 

  ประเมินดัชนีฯ อยู่ในช่วงของการปรับฐาน ตลาดต่างประเทศกังวลสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน บางส่วนรอดูผลประชุม FOMC และดัชนีฯปรับตัวขึ้นมามากจึงมีการพักตัว .......  ภาพรวมตลาดหุ้นไทย เรามองว่ามีแนวโน้มดีจากปัจจัยภายในที่แข็งแรง ทั้งเศรษฐกิจและเราจะมีการเลือกตั้งต้นปีหน้า แต่ช่วงสั้นๆ หลังจีนปฏิเสธการเจรจารอบใหม่กับสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนรอดูว่าจากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้น ขณะเดียวกันการะประมูลตั๋วเงินคลังของสหรัฐฯอายุ 2 ปี ของสหรัฐฯที่พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 2.83% หรือสูงสุดตั้งแต่ปี  2008 เป็นต้นมา บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักต่อดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลลบต่อ fund Flow ในอนาคต  สองตัวแปรในต่างประเทศนี้เป็นตัวถ่วงตลาดหุ้นในวันนี้ต่อจากวันก่อน ......   ราคาน้ำมันดิบ เดินหน้าต่อ  เช้านี้ Brent แตะ $81 เหรียญแล้วหลัง OPEC และพันธมิตรไม่ปรับเพิ่มกำลังการผลิต อาจเพิ่มความกังวลด้านเงินเฟ้อ แต่เป็นบวกต่อหุ้นผู้ผลิตน้ำมัน PTTEP-PTT แต่ลบต่อหุ้นปิโตรเคมี .....   ปัจจัยในประเทศวันนี้  มีตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทย บ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจว่าขยายตัวดีหรือไม่ คาด  +3.1% YoY ; เดือนก่อน 4.6%  การประชุม ครม.ในวาระที่เกี่ยวข้องกับมาตรการเศรษฐกิจ   และรายงานภาวะท่องเที่ยวไตรมาสที่3

 

  ด้วยตลาดมีการพักตัวอันเป็นผลจากปัจจัยภายนอก นักลงทุนอาจเลือกขายหุ้นที่ราคาขึ้นมามากออกไปบ้าง และรอจังหวะซื้อหุ้นที่ได้ปัจจัยบวกจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจหรือรับผลบวกจากการเลือกตั้งที่ราคายังขึ้นมาไม่มาก ........หุ้น top picks วันนี้  เราเลือกบางตัวมาจากคำแนะนำใน weekly report ประกอบด้วย  KBANK, WORK ,BANPU*  และเพิ่มหุ้นที่มีโอกาสเก็งกำไรในวันนี้  PTTEP, PTT*, ERW

 

  * เป็นหุ้นที่แนะนำโดย KTBST ยังไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์