CNS Daily Strategy: คาดตลาด “ขึ้น” 1760/1765จุด รับ 1740/1736จุด จีนเตรียมออกแผนกระตุ้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ลดผลกระทบจากสงครามการค้า หนุนตลาด EM ฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ผสานราคาน้ำมันดิบ Brent +1.26% รับ OPEC ส่งสัญญาณยังไม่ปรับเพิ่มกำลังการผลิต และซาอุเผยพอใจกับราคาน้ำมันดิบ Brent เหนือ 80 เหรียญ/บาร์เรล หนุนกลุ่มพลังงานนำตลาดได้ ส่วนแรงหนุนในประเทศ รัฐเร่งประมูล TOR 4โครงการ 3.75แสนลบ. ภายในต.ค.นี้ หนุนกลุ่มอิงการลงทุนเด่นต่อเนื่อง วันนี้แนะนำ Theme “Big Cap Play” : AOT, CPALL, PTTEP

 

 

(-) Trade: จีนประกาศเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ 5-10% วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์

(+) CH: จีนเตรียมออกแผนกระตุ้นโครงสร้างพื้นฐาน คลายกังวลเศรษฐกิจจีนชะลอตัว

(+) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +1.36% สู่ $69.85 /bbl / BRT +1.26% สู่ $79.03 /bbl

(+) OIL: OPECจะยังไม่เพิ่มกำลังการผลิต+ซาอุพอใจกับราคาน้ำมันดิบ Brent เหนือ 80

(+) TH: ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 4 วันติดต่อกัน รวม 126 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

(+) TH: รัฐเร่งประมูล TOR 4โครงการ 3.75แสนลบ. ภายในต.ค.นี้

(+) Fund Flow:ล่าสุดซื้อหุ้น+304ลบ, Long Future+2,365สัญญา, ซื้อBond+1,500ลบ

Nomura Daily Top Picks: AOT, CPALL, PTTEP

 

Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “ขึ้น” ต้าน 1760/1765จุด รับ 1740/1736จุด จีนประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐในอัตรา 5-10% วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อตอบโต้ต่อการที่ประธานาธิบดี Donald Trump เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์วานนี้ ส่งผลให้ความเสี่ยงสงครามการค้าเพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนกังวลว่าจะกระทบอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ แต่อย่างไรก็ดี ล่าสุด จีนเตรียมประกาศ “แผนกระตุ้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน” ช่วยคลายความกังวลต่อการที่เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวจากประเด็นสงครามการค้าได้ หนุนตลาด EM ฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ผสานกับราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้น +1.26% จาก 79.03 เหรียญ/บาร์เรล ตอบรับ OPEC ส่งสัญญาณไม่พร้อมที่จะปรับเพิ่มกำลังการผลิต ซึ่งทางซาอุดิอาระเบียเองก็เปิดเผยว่า ยังคงพอใจกับระดับราคาน้ำมันดิบ Brent เหนือ 80 เหรียญ/บาร์เรล เป็นปัจจัยหนุนกลุ่มพลังงานนำตลาดได้ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังได้แรงหนุนจากทิศทาง Fund Flows ที่ไหลเข้าไทย 4 วันติดต่อกัน รวมกว่า 126 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐฯ หลังรัฐเร่งแผนประมูล TOR 4 โครงการเร่งด่วน (มาบตาพุดเฟส 3, แหลมฉบังเฟส 3, สนามบินอู่ตะเภา, ศูนย์ซ่อมอู่ตะเภา) ให้ทันภายใน ต.ค. นี้ มูลค่า 3.75 แสนลบ. เพิ่มเติมจากโครงการเชื่อม 3 สนามบิน (ยื่นซอง 12 พ.ย.) หนุนกลุ่มอิงการลงทุนเด่นต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยที่น่าติดตามวันนี้ คือการประชุม BOT Consensus คาดคงดอกเบี้ยทีระดับเดิม ขณะที่ Nomura คาดปรับขึ้นดอกเบี้ยในรอบนี้

 

 

Daily Strategy : ถือหุ้น 75% Sector Rotation เน้นสะสม Domestic Play BBL, KBANK, CPALL, ROBINS CK, STEC, SEAFCO, PYLON, AMATA, GOLD, ERW, BH, AOT, ERW และ Global Play (PTT, IVL) วันนี้เน้น “Theme “Big Cap Play”

 

หุ้นเด่น CPALL(TP92) เริ่มเป็น Banking Agent ของ ธ.ออมสิน,  AOT(TP75.5) เดินหน้าประมูลดิวตี้ฟรี หลังคำพิพากษาของศาล 2คดี เป็นบวกต่อท่าอากาศยาน

รัฐเร่งแผนประมูล TOR 4 โครงการเร่งด่วน (มาบตาพุดเฟส 3, แหลมฉบังเฟส 3, สนามบินอู่ตะเภา, ศูนย์ซ่อมอู่ตะเภา) ให้ทัน ต.ค. นี้ มูลค่า 3.75 แสนลบ. เพิ่มเติมจากโครงการเชื่อม 3 สนามบิน (ยื่นซอง 12 พ.ย.) แนะนำ  AMATA, STEC และ Laggard CK, ITD, ROJNA

ราคาน้ำมันขึ้น 79เหรียญฯ หนุน PTT, PTTGC, PTTEP เด่น

กลุ่ม รฟฟ เด่นการเติบโต เน้น GULF(เก็งเข้า MSCI พย นี้) BGRIM PSTC BWG

Health Update ช่วง Seasonal จะหนุนกลุ่ม รพ Outperform ต่อเนื่อง เน้น BH(TP235) และ BDMS(TP31.2) Portfolio Top Picks SEP 2018 แนะนำ AMATA, AOT, BH, CPALL, TMB, TOA, AMANAH

Road to Election 2019 : PTT, PTTEP,  BBL, KBANK, TMB,  CPALL, ROBINS, ADVANC,  STEC, AMATA, SC, GOLD, PLANB

2H18 Theme Domestic : Election play when oil surge

Best Picks 2H18 : PTT, IVL, BBL, KBANK, CPALL, CK, STEC, SEAFCO, PYLON, AMATA, GOLD

1.  Index Driver : PTT, BBL, KBANK, CPALL, PTTEP, IVL

2.  Government Spending : STEC, CK, PYLON, SEAFCO, AMATA, ROJNA, SCC

3.  Property : GOLD, SC

4. Tourism & Transport : ERW, BTS

5.  Global Play : IVL, PTL

6.  ICT : ADVANC

 

 

AOT (TP18/19F 75.50*):  Support 65.25/64.5 Resistant 67.0/68.0 

 

Earnings Outlook: คาด4Q17/18F กำไรเติบโตโดดเด่นกว่า +50% y-y จากฐานต่ำในปีก่อน และเราคาดกำไรปี 2018/19F เติบโตสูงต่อเนื่อง +18% y-y ตามการขยายตัวของอุตฯ ท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ เรามีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2018/19F ขึ้นจากเดิม +11% จากการเลื่อนการเริ่มรับรู้ค่าเสื่อมโครงการสุวรรณภูมิ เฟส 2 ไปเป็นปี 2019/ 20F

Valuation: ราคาซื้อขายอยู่ที่ PER18/19F 31 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปีที่ 33.7 เท่า upside เปิดกว้าง 14%

Catalyst: วานนี้มีข่าวบวก 2 ประเด็น 1) ศาลยกฟ้องกรณี AOT และ King Power ถูกกล่าวหาทุจริตร่วมกัน  2) ศาลมีคำสั่งไม่คุ้มครองชั่วคราวการออกแบบสุวรรณภูมิเฟส 2 หนุนกระบวนการประมูลดิวตี้ฟรี และสุวรรณภูมิเฟส 2 เดินหน้าตามแผน

CPALL (TP19F 92*):  Support 68.0/67.0 Resistant 70.0/71.25

 

Earnings Outlook: คาดแนวโน้มกำไรช่วง 2H18F จะดีกว่า 1H18F โดยเฉพาะ 3Q18F จะเป็นพีคของกำไร ตามปัจจัยด้านฤดูกาลธุรกิจค้าปลีก และภาพระยะกลางยาวยังน่าสนใจจากการเปิดสาขาต่อเนื่อง และแนวทางเพิ่ม Margin ผ่านกลุ่มอาหารที่เป็นจุดแข็งของบริษัทในกลุ่ม โดยรวมประเมินกำไรช่วง 2 ปีนี้ยังเป็นภาพการเติบโตดี และฐานกำไรยังมากพอที่จะรับผลขาดทุนช่วงแรกจากาการลงทุนในต่างประเทศของ MAKRO ได้

Valuation: มองเป็นโซนซื้อที่ได้เปรียบ หลังราคาหุ้นปรับลงมากว่า 22% ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาตามกลุ่ม Big cap และเม็ดเงินต่างชาติที่ขายหนัก ขณะที่เชิงพื้นฐานยังเติบโตดี 20%y-y เรามองเป็นจุดเข้าลงทุนที่ดี ซื้อขาย PER19F 25x เท่า ยังต่ำกว่าช่วงพีคที่เคยสูง 35x และเป็น Big cap ที่ยังเติบโตดี 

Catalyst: ครม.ไฟเขียว คืน vat ผู้มีรายได้น้อย เริ่ม 1 พ.ย.18-30 เม.ย.19 + ธ.ออมสินแต่งตั้งเซเว่นเป็น Bank agent ส่งเสริมการออมเงินเยาวชน รับฝากเงินโดยไม่คิดค่าธรรมเนียม + การเลือกตั้งเข้าใกล้ความจริงซึ่งสถิติย้อนหลังกลุ่มค้าปลีกมักจะ Outperform

PTTEP (TP19F 155*): Support 150/148.5 Resistant 154/155

 

Earnings Outlook: คาดกำไรปกติ 3Q18F ที่ 10,180 ล้านบาท พลิกเป็นกำไร y-y และเติบโตเด่น q-q ได้แรงหนุนราคาน้ำมันและปริมาณผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากไม่มีหยุดซ่อมบำรุงในแหล่งสำคัญ ขณะที่ได้สัดส่วนจาก 22.22% จากแหล่งบงกชเข้ามาหนุน อิงสมมติฐาน (1) กำลังการผลิต 308 kboed (2) ราคาน้ำมันดิบดูไบที่ US$71.5/bbl

Valuation: ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตามราคาน้ำมันที่ Sideway up โดย Valuation ยังน่าสนใจ มี P/BV ปี 19F ที่ระดับ 1.35x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 1.76x

Catalyst: ราคาน้ำมัน BRENT ขึ้นแรงกว่า +1.26% อยู่ที่ 79.03 เหรียญ/บาร์เรล หลังโอเปคส่งสัญญาณไม่เพิ่มกำลังการผลิตและคาดผลผลิตน้ำมันของสหรัฐในปี19F มีแนวโน้มชะลอตัวลง

Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)