กลยุทธ์ : ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรงเมื่อวานนี้ หลังรับรู้สหรัฐตั้งกำแพงภาษีกับจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ในอัตรา 10% ที่คาดว่าจะเริ่มในวันที่ 24 ก.ย. แม้ผลกระทบกับตลาดยังอยู่ในกรอบจำกัด แต่เร็วเกินไปที่จะบอกว่าตลาดรับข่าวไปแล้ว การดีดตัวขึ้นของดัชนี SET เป็นผลโดยตรงจาก การรีบาวน์ของตลาดหุ้นจีนในช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ หลังมีข่าวว่าทางการจีนกำลังจะส่งเจ้าหน้าที่ไปเจรจากับสหรัฐในเดือนนี้ รวมทั้งข่าวที่จีนโต้ตอบด้วยการตั้งกำแพงภาษีกับสินค้าจากสหรัฐ 6 หมื่นล้านดอลลาร์ด้วยอัตราภาษีที่ลดลงจากเดิมที่จะตั้ง10% 20% และ 25% เหลือเพียง 5% และ 10% ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐ ปรับตัวขึ้นรับข่าวการตั้งกำแพงภาษี ซึ่งนานๆ ครั้งจะเห็นการตอบรับในเชิงบวกทั้งๆ ที่ผลของการตั้งกำแพงภาษีน่าจะส่งผลด้านลบกับเศรษฐกิจทั้ง 2 ประเทศ กลุ่มอุตสาหกรรมที่กลับมาคึกคักขึ้นคือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่ถือว่าเป็นกลุ่มที่จะฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจและได้รับผลดีจากการเลือกตั้งประกอบกับดัชนีกลุ่มนิ่งๆ มานาน สภาพตลาดหลังมีแรงซื้อหุ้นทั่วกระดานเข้ามา เรามองว่าดัชนีน่าจะวิ่งขึ้นต่อไปที่ระดับ 1770-1780 จุดในเดือน ต.ค. หลังมองประเด็นการตั้งกำแพงภาษีเริ่มคลายกังวล และกำลังการสู่ช่วงการประกาศงบ Q3/18 หากมาดูสถิติช่วงก่อนการเลือกตั้ง 6 เดือนในรอบที่ผ่านมา (สมมุติมีการเลือกตั้งในเดือน ก.พ.) พบว่ากลุ่มที่จะขึ้นได้แรงที่สุดคือ พลังงาน (+5.3%) ตามมาด้วยอาหาร-เครื่องดื่ม (+4.7%) ธนาคารพาณิชย์ (+2.6%)โรงพยาบาล (+2%) และ ค้าปลีก (+1.7%) วันนี้มองแนวโน้มดัชนี SET น่าจะขึ้นไปทดสอบ1750+/- จุด แต่อาจเผชิญกับความผันผวนบ้างหลังขึ้นมาแรงคือขึ้นมาแตะเส้น +2SD วันนี้มองแนวต้านที่ 1752-1756 จุดและแนวรับที่ 1740-1735 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร SPRC TOP KBANK และ TMB

 

  Laggard Play : เราแนะนำ ซื้อ หุ้นใน SET100 ที่ยังปรับตัวขึ้นช้ากว่าตลาด (laggard) ที่ปรับขึ้นมา 72 จุดหรือ +4.3% ใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาเพราะมีความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้งมากขึ้น และเป็นหุ้นพื้นฐานดีที่ยังมี upside สูงเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่ทางCGS-CIMB ทำการศึกษา โดยหุ้นดังกล่าวประกอบไปด้วย TKN, HANA, AP, TOP,SPRC, BANPU และ LH โดย TKN ปรับตัวลง -0.6% ใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาและมีupside 30% จากราคาเป้าหมายที่ 20.40 บาท, HANA ปรับตัวลง 0.6% และมี upside 6.2% จากราคาเป้าหมาย 43 บาท, AP ราคาไม่เปลี่ยนแปลง และมี upside 9% จากราคาเป้าหมาย 10.30 บาท, TOP ปรับตัวขึ้น 0.9% และมี upside 4% จากราคาเป้าหมาย 88 บาท, SPRC ปรับตัวขึ้น 1.4% และมี upside 26% จากราคาเป้าหมาย18.80 บาท, BANPU ปรับตัวขึ้น 1.6% และมี upside 36% จากราคาเป้าหมาย 26.50 บาทและ LH ปรับตัวขึ้น 1.8% และมี upside 12% จากราคาเป้าหมาย 13 บาท

 

  19 ก.ย. : PPS PRM COMAN HTECH MBKET

  20 ก.ย. : THG FTE JKN RICHY NDR

  21 ก.ย. : PM TLUXE PJW ANAN

 

  19 ก.ย. : การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยตลาดคาดว่ากนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50%

  19 ก.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Housing Starts เดือนส.ค. โดยตลาดคาด 1.24 ล้านยูนิต จากเดือนก่อนหน้าที่ 1.168 ล้านยูนิต

  19 ก.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Building Permits เดือนส.ค. โดยตลาดคาด 1.315 ล้านยูนิตจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.303 ล้านยูนิต

  20 ก.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Existing Home Sales เดือนส.ค. โดยตลาดคาด 5.36 ล้านยูนิตจากเดือนก่อนหน้าที่ 5.34 ล้านยูนิต

  21 ก.ย. : ไทยประกาศตัวเลข Custom Exports YoY เดือนส.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ 8.27%

 

  กลยุทธ์ : SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1740 จุดขึ้นไป ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรบัตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1760 และ 1785 จุดตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น โดยมีแนวรับที่ 1740 และ 1730 จุดเป็นแนวรับสำคัญของการปรับฐาน

  PTT Global Chemical (PTTGC TB; THB 82.00)- ซื้อ

  JWD Infologistics (JWD TB; THB 7.85) - ซื้อ