- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 19 September 2018 16:21
- Hits: 1277
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET มีแรงซื้อเด่นในช่วงบ่าย ส่วนมากเป็นแรงซื้อในกลุ่ม Domestic แรงซื้อกลับเข้ามาที่กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, TMB และกลุ่มค้าปลีก CPALL, BJC, CPN กลุ่มก่อสร้าง STEC, ITD และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม AMATA, WHA ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,744.4 จุด (+26.0 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 7.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ 4.9 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน และเร่งตัวเป็น 1,497 ล้านบาท ส่วนสถาบันพลิกซื้อ 4,854 ล้านบาท แต่ทั้งคู่เปิดสถานะ Shot SET50 index future รวมกัน 14,321 สัญญา
Investment theme
แม้ความไม่แน่นอนยังมี แต่เกาะกระแสเงินเชิงบวกได้ : ปัจจัยสำคัญเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ยืดยาวมานานกว่า 3เดือน ปัจจุบันยังไม่ได้ข้อสรุป และยังต้องติดตามว่าการเจรจาการค้าครั้งที่ 3 จะยังคงเกิดขึ้นใน 1-2 สัปดาห์นี้หรือไม่ ซึ่งภายหลัง Trump ได้ประกาศจุดยืนของฝั่งสหรัฐอย่างชัดเจนด้วยการนำขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนรอบที่ 3 เป็นวงเงิน 2.0 แสนล้านเหรียญสหรัฐ มีผลในวันที่ 24 ก.ย. แม้ว่าอัตราภาษีจะต่ำกว่าที่เคยขู่ไว้ (รวม 3 รอบเป็นวงเงิน 2.5 แสนล้านเหรียญ) อย่างไรก็ดี จีน ก็ได้ตอบโต้ทันทีเมื่อค่ำวานนี้ ด้วยการขึ้นภาษีต่อสินค้านำเข้าสหรัฐ 5-10% ในวงเงินสินค้า 6 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งเรามองว่า ตลาดได้ซึมซับปัจจัยนี้ไปพอสมควรแล้ว ซึ่งด้วยขนาดการกีดกันที่น้อยกว่าความกลัวก่อนหน้า จึงทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐดีตัวขึ้น ดังนั้นระหว่าง 1-2 สัปดาห์นี้ เราจึงแนะให้พลิกกลับมาดูท่าทีของ ปธน.ทรัมป์ อีกครั้งว่าจะตอบโต้กลับด้วยวงเงินที่สูงขึ้นอีก 2.67 แสนล้านเหรียญ หรือไม่? ส่วนด้านปัจจัยพื้นฐานในประเทศให้ติดตามความเคลื่อนไหวของประมาณการ EPS ของตลาด
ซึ่งด้วย ปัจจัยในประเทศ ยังอยู่ในเกณฑ์ดี จาก ทิศทางการเมือง และเศรษฐกิจ เราจึงคงมุมมองให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นในประเทศ (Domestic) มากกว่า Commodity และยังคงรักษาระดับเงินสด 40% ในพอร์ตการลงทุน
Investment Theme: ด้วยประแส fundflow ที่ให้มุมมองเชิงบวกสุทธิต่อไทย เราขยับแนวต้านขึ้นเป็น 1,750 จุด +/- เน้นหุ้นกลุ่ม Domestic นำโดย CPALL, STEC, BEM, SCB และหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานดีแต่ราคายังไม่ขึ้น (มี Upside) นำโดย GOLD, PRM
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – นายกยังไม่ประกาศจุดยืนทางการเมือง พร้อมไม่ปรับคำสั่งคลายล็อคทางการเมือง ให้หาเสียงได้ 16 ธ.ค. /
Stock pick : -
Trading idea – เน้นเก็งกำไรหุ้นขนาดใหญ่+กลาง ที่มีโอกาสเป็นเป้าหมายของกระแสเงิน เช่น KBANK TMB PLANB BEM HMPRO GLOBAL / หุ้นเล็ก เน้นกำไรเด่นอย่างมีนัยสำคัญใน 2H61 เช่น III SYNEX / เก็งกำไร CPALL กรอบ 65.0 – 69.0 / เลี่ยงการลงทุน DTAC และกลุ่มท่องเที่ยว
Technical View
Break Neckline Double Bottom และ Downtren Line ระยะยาว: แรงซื้อจากหุ้นกลุ่ม Big Cap. แทบทุกกลุ่ม ทำให้ดัชนี Break แนวต้านสำคัญทั้ง Neckline Double Bottom และ Downtrend Line ระยาว ทำให้ขณะนี้ Upside ในเชิงเทคนิคเปิดมากขึ้น เนื่องจากสามารถยกเลิกแนวโน้มขาลง ประกอบกับเพิ่งเริ่มเกิดสัญญาณซื้อใน MACD จึงมองว่าดัชนีจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ มองแนวต้านถัดไปที่ 1750 และ 1775 ยังมองว่าหากดัชนีอ่อนตัวระหว่างวัน ยังเป็นโอกาสสะสมบริเวณแนวรับ
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : Let Profit Run เนื่องจากดัชนีสามารถผ่านแนวต้านหลัก 1730 สำหรับการเล่นสั้นๆ แนะนำ พิจารณาแรงขายตามแนวต้านต่างๆ หรือหากหลุด 1735 อาจ Lock Profit 2) ไม่มีหุ้น : จังหวะอ่อนตัวระหว่างวันมองว่ายังน่าสะสมตามแนวรับ 1735 และ 1740
แนวรับ : 1735, 1740 แนวต้าน : 1750, 1775
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: -
ปัจจัยในประเทศ: 19 ก.ย. ประชุม กนง.
หุ้นเทคนิค:
SCB (B 146.00-148.00, Tp 152.50//155.00, Cut 145.00)
IVL (B 58.50, Tp 61.50, Cut 57.50)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO13994