WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBSบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 
 
“สงครามการค้ากดดันSET”
 
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : CENTEL (จากซื้อเป็นถือ)
 
  ภาวะตลาดและปัจจัย : ตลาดวานนี้ – SET Index ปรับลด -3.82 จุดปิดที่ 1718.39 จุดเช่นเดียวกับตลาดหุ้นเพื่อนบ้านมูลค่าการซื้อขายต่ำลงเป็น 49.5 พันล้านบาทเนื่องจากปัจจัยต่างประเทศเป็นลบเพิ่มขึ้นจากการที่ทรัมป์ยังตั้งใจเก็บภาษีจากจีนแม้จะมีการเปิดเจรจารอบใหม่โดยจีนอาจไม่ร่วมเจรจาแล้วขณะที่ยังจับตาเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ปลายเดือนนี้แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปีขึ้นไปอีกเป็น 3% แล้วดอลลาร์แข็งค่าจึงยังมีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นแต่SET ไม่ปรับลงลึกเพราะมีปัจจัยบวกจากการเมืองในประเทศช่วยคือจะมีการใช้ม.44 ปลดล็อคพรรคการเมืองด้านผู้ขายสุทธิรายเดียวเป็นสถาบัน 1.1 พันล้านบาทส่วนผู้ซื้อสุทธิคือรายย่อย 0.5 พันล้านบาทต่างชาติ 0.3 พันล้านบาทและพอร์ตโบรกเกอร์ 0.3 พันล้านบาท
 
  แนวโน้มและกลยุทธ์– ระยะสั้นปัจจัยต่างประเทศเป็นลบเพิ่มขึ้นจากการที่ทรัมป์ระกาศเก็บภาษีนำเข้าจากจีน 10% วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์มีผล 24 ก.ย.61 (ปลายปีอาจปรับอัตราเพิ่ม) หากจีนตอบโต้ก็จะเก็บภาษีมากขึ้นไปอีกและมีโอกาสที่จีนจะไม่เข้าร่วมเจรจากับสหรัฐดาวโจนส์และน้ำมันปรับลงดอลลาร์และบาทอ่อนค่าทองคำเพิ่มขึ้นกลับเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยขณะที่ยังจับตาเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ปลายเดือนนี้แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปีลดเล็กน้อยเป็น 2.9839% หลังไปแตะ 3% ก่อนหน้าจึงยังมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยดัชนีความกลัว (VIX) เพิ่มขึ้นSET ตอบสนองข่าวบวกการเลือกตั้งน้อยลงแต่จะติดตามความคืบหน้าส่วนกนง.ประชุมพรุ่งนี้คาดว่ายังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายด้านตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเช้านี้อ่อนเป็นส่วนใหญ่ยกเว้นญี่ปุ่นปรับขึ้นดาวโจนส์ล่วงหน้า -84 จุด (8.24 น.) น้ำมันเช้านี้ปรับลงสำหรับปัจจัยต่างประเทศที่เป็นภาพใหญ่คือราคาน้ำมันผันผวนECB ทยอยลดQE และหยุดตอนสิ้นปีมีเงินไหลมาลงทุนEM น้อยลงวิกฤติค่าเงินEM ยังไม่คลี่คลายด้านปัจจัยบวกระยะกลาง-ยาวคือเศรษฐกิจญี่ปุ่นดีขึ้นและเศรษฐกิจของไทยเหนือกว่าEM อื่นคือตัวเลขเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งหนี้ต่างประเทศน้อยระยะสั้นยังต้องระวังแรงขายทำกำไรที่จะมีออกมาเช่นกันปัจจัยที่ยังต้องติดตามคือสหรัฐคว่ำบาตรอิหร่านมีผลกับราคาน้ำมันให้ปรับขึ้นส่วนระยะกลาง-ยาวเฟดคาดปีนี้จะปรับขึ้นทั้งหมด 4 ครั้ง (ปรับขึ้นอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปี) และปีหน้าอีก 3 ครั้งทำให้แนวโน้มดอลลาร์แข็งค่าและเงินไหลออกกลับไปสหรัฐนับว่าปัจจัยต่างประเทศยังกดดันในเรื่องกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยต่อไปแต่ปัจจัยภายในที่ดีคือการเลือกตั้งไทยเป็นไปตามโรดแม็ปเศรษฐกิจไทยยังดีแต่กังวลไทยจะได้รับผลกระทบสงครามการค้าตั้งแต่ปีหน้ากลยุทธ์ในสัปดาห์นี้ยังคงเน้นลงทุนหุ้นรายตัวที่มีพื้นฐานดีและมีประเด็นที่น่าสนใจหุ้นเน้นธุรกิจในประเทศ (Domestic Play) รวมทั้งหุ้นปันผลสูงนักลงทุนระยะสั้นควรเล่นรอบสั้นๆไม่หวังกำไรมากควรตั้งเป้าผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรมและทยอยขายทำกำไรเมื่อได้ตามเป้าหมายระยะนี้คาดว่าSET จะซื้อขายอยู่ในกรอบเป็น 1700-1750 จุดด้านSET ตามพื้นฐานระยะยาวให้ไว้ที่ 1860 จุดที่P/E 17 เท่าซึ่งเป็นMedian+1 SD และEPS ปี 61 เติบโตเฉลี่ย 10% แนะนำให้ทยอยสะสมได้
 
  Update หุ้นเด่น: AP – กำไร 2Q61 เติบโตก้าวกระโดด 93% y-o-y เพราะมีการโอนโครงการมากและได้รับกำไรตามส่วนได้เสียที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจะมีการเปิดขายโครงการใหม่เป็นจำนวนมากใน 2H61 มีการปรับเพิ่มเป้ายอดขาย (Presales) เมื่อกลางส.ค.61 สำหรับปี 61 อีก 19% เป็น 39.8 พันล้านบาทคาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรหลักปีนี้เป็น 19% คงคำแนะนำซื้อด้วยราคาพื้นฐานที่ 10.50 บาทซึ่งประเมินด้วยP/E ปี 61 ที่ 9.0 เท่าราคาปิดมีส่วนเพิ่มได้อีก 10% ผนวกกับคาดการณ์อัตราผลตอบแทนปันผลปีนี้ที่อยู่ในเกณฑ์ดีเป็น 3.6%
 
  การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นCandlestick & Indicators เป็นลบเล็กๆความน่าจะเป็นของตลาดฯระยะกลางมีน้ำหนักเป็นการลงตามโครงสร้างอย่างไรก็ตามอาจมีรีบาวด์สั้นๆก่อนจึงปรับลงซื้อเน้นค่าบวกแนวต้าน 1730-1740-1750 แนวตัดขาดทุนต่ำกว่า 1700 จุด
 
  สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะทำNew High ที่เข้ามาใหม่คือTTCL,SPALI,CKP,PTL หุ้นที่ยังอยู่ในList คือHMPRO, PTT, KBANK, GOLD, RS, GLOBAL หุ้นที่หลุดList AEONTS หุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะTake Profit ROBINS, ASAP, BCPG, MINT, BEM, BGRIM
 
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
- ภาวะตลาดหุ้น : ดาวโจนส์ลดลงกังวลสงครามการค้าทรัมป์ประกาศเก็บภาษีนำเข้าเพิ่ม 2 แสนล้านU$
 
  # ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,062.12 จุดลดลง 92.55 จุดหรือ -0.35% ขณะที่ดัชนีS&P500 ปิดที่ 2,888.80 จุดลดลง 16.18 จุดหรือ -0.56% และดัชนีNasdaq ปิดที่ 7,895.79 จุดลดลง 114.25 จุดหรือ -1.43%
 
  # ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นระหว่างสหรัฐและจีนโดยรายงานล่าสุดระบุว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์นอกจากนี้การร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มค้าปลีกยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบเช่นกัน
 
- ตลาดน้ำมัน : น้ำมันWTI ปรับลงเล็กน้อยกังวลสงครามการค้าลดความต้องการน้ำมันในอนาคต
 
  # สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 8 เซนต์หรือ 0.1% ปิดที่ 68.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
 
  # สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 4 เซนต์หรือ 0.05% ปิดที่ 78.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
 
  # สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการพลังงานขณะที่นักลงทุนจับตาสถานการณ์การคว่ำบาตรอิหร่านและปริมาณน้ำมันในตลาดโลกอย่างใกล้ชิดหลังจากมีรายงานว่าสหรัฐ, ซาอุดิอาระเบียและรัสเซียมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อชดเชยการส่งออกน้ำมันที่ลดลงจากอิหร่าน
 
• ทองคำ : ปรับขึ้นหลังดอลลาร์อ่อนค่าเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
 
  # สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4.70 ดอลลาร์หรือ 0.4% ปิดที่ 1,205.80 ดอลลาร์/ออนซ์
 
  # สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับราคาทองคำนอกจากนี้การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
 
-ทรัมป์ประกาศเก็บภาษีจากจีน 10% เป็นวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์จีนอาจยกเลิกเจรจา
 
  # มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีนขณะที่รายงานล่าสุดระบุว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% คิดเป็นวงเงินรวม 2 แสนล้านดอลลาร์โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.นี้ด้านปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความก่อนที่จะประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนครั้งใหม่เมื่อวานนี้ว่ามาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าได้สร้างความได้เปรียบแก่สหรัฐทำให้สหรัฐมีรายได้และมีการสร้างงานมากขึ้น
 
  # นักลงทุนจับตาดูท่าทีของจีนอย่างใกล้ชิดหลังจากที่สื่อรายงานก่อนหน้านี้ว่าจีนอาจยกเลิกการเจรจาการค้ากับสหรัฐถ้าหากสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์
 
- ทรัมป์ขู่เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มอีกหากจีนตอบโต้
 
  # ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์แห่งสหรัฐเตือนว่าสหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีกหากจีนออกมาตรการตอบโต้สหรัฐโดยคำเตือนดังกล่าวมีขึ้นหลังจากปธน.ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% เมื่อวานนี้คิดเป็นวงเงินรวม 2 แสนล้านดอลลาร์โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.นี้
 
+/- ดอลล์ร่วงจากความกังวลสงครามการค้าขณะยูโร,ปอนด์พุ่งรับเจรจาBrexit คืบหน้า
 
  # ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนขณะที่สกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ดีดตัวขึ้นขานรับความคืบหน้าของการเจรจาเกี่ยวกับการที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
 
• ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะประกาศต่อไป
 
  # นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ซึ่งได้แก่ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ย. จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนส.ค., ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 2/2561, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนก.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนก.ย.จากมาร์กิตและดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.ย.จากมาร์กิต
 
ปัจจัยในประเทศและข่าวเด่นอุตสาหกรรม
 
+ บจ. ไทยได้คะแนนสูงสุดด้านความยั่งยืนหลายกลุ่มอุตสาหกรรมครองแชมป์เข้าดัชนีDJSI สูงสุดในอาเซียน
 
  # ตลาดหลักทรัพย์ฯเผยบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ. ไทย) โดดเด่นในระดับโลกด้านความยั่งยืนจากการประกาศรายชื่อบริษัทที่เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) ประจำปี 2561โดยบจ.ไทย 5 แห่งได้คะแนนเป็นที่หนึ่งด้านความยั่งยืนใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมเป็นอันดับสองรองจากประเทศสหรัฐอเมริกาได้แก่ (1) BANPU (2) IRPC (3) PTT(4) TRUE และ (5) TU ซึ่งทั้ง 5 บจ. อยู่ใน 19 บจ. ไทยที่ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกของดัชนีDJS IโดยBTS และSCB เป็นสองบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกเข้าใหม่ในปีนี้ทั้งนี้ประเทศไทยเป็นที่หนึ่งในประเทศที่มีบจ. ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกเพิ่มขึ้นสูงสุดในตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก(DJSI Emerging Markets)ตอกย้ำจุดแข็งของประเทศในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในวันนี้และการสร้างอนาคตของประเทศ
 
  # สำหรับ 19 บจ. ไทยที่ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนDJSI ได้แก่AOT, BANPU, CPALL, CPF, CPN, HMPRO, IRPC, IVL, KBANK, MINT, PTT, PTTEP, PTTGC, SCC, TOP, TRUE, TU, BTS และSCB
 
+ ความคืบหน้าการเลือกตั้งไทยคสช.ออกมาตรา 44 คลายล็อคพรรคการเมือง
 
  # คสช.ออกม.44 คลายล็อคพรรคการเมืองให้ทำกิจกรรมเตรียมพร้อมเลือกตั้งได้แต่ยังห้ามหาเสียง
 
  # นายแสวงบุญมีรองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่ากกต.เตรียมนัดชี้แจงพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองเกี่ยวกับการเตรียมตัวของผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในวันที่ 28 ก.ย.นี้เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติต่างๆเพื่อให้การเลือกตั้งเกิดความเรียบร้อยซึ่งคาดว่าจะมีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้คลายล็อคพรรคการเมืองออกมาแล้ว
 
+ ปชป.หยั่งเสียงเลือกหน.ใหม่บิ๊กตู่เยือนเลย-เพชรบูรณ์อดีตส.ส.เพื่อไทยโผล่รับ
 
  # พรรคการเมืองขยับแล้วหลังคสช. คลายล็อก "ประชาธิปัตย์" ถกกรรมการบริหารครั้งแรก "มาร์ค" ซัดคสช.ไม่เข้าใจงานการเมืองแย้มนัดประชุมใหญ่แก้ข้อบังคับ 26 ก.ย.เปิดทางหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ "ภูมิใจไทย" กางปฏิทินด้วยเรียกถก 24 ก.ย.ก่อนประชุมใหญ่ 2 ต.ค. "เพื่อไทย" อัดคสช.อย่าทำตัวเป็นกกต. ตีกรอบพรรคการเมืองเข้มด้านกกต.ยันเร่งกำหนดกรอบหาเสียงผ่านโซเชียลฯ "บิ๊กตู่" เดินสายเยือน "เลยเพชรบูรณ์" อดีตส.ส.เพื่อไทยโผล่ต้อนรับ "เปล่งมณี" ยังกั๊กย้ายซบพลังประชารัฐนายกฯลั่นก่อน-หลังเลือกตั้งบ้านเมืองต้องสงบย้ำไม่เป็นศัตรูนักการเมือง-รัฐบาลชุดเก่าปัดสืบทอดอำนาจ 20 ปีผ่านยุทธศาสตร์ชาติอ้อนชาวบ้านถ้ารักแล้วต้องช่วยกันชี้เวลาท้อนึกถึงหน้าปชช. (เดลินิวส์)
 
• กนง.ประชุม 19 ก.ย.นี้แต่คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ควรติดตามถ้อยแถลง
 
  # ผลกระทบ: แม้มีโอกาสสูงที่ยังไม่ปรับขึ้นครั้งแต่อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจะทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร่งตัวขึ้นขณะที่กนง.ไทยแม้ยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแต่ก็มีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในที่สุดโดยมีส่วนหนึ่งที่ต่างประเทศเป็นแรงกดดันเพียงแต่ธปท.เองได้ชี้แนวทางว่าจะเป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไปและธนาคารพาณิชย์จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วหรือไม่ก็ขึ้นกับสถานะสภาพคล่องNPL และปัจจัยอื่นๆของแต่ละธนาคารปกติอัตราดอกเบี้ยขึ้นจะไม่ดีกับตลาดหุ้นแต่ขึ้นกับอัตราการปรับขึ้นและความเร็วในการปรับขึ้นแต่หากเศรษฐกิจดีจะมีผลกระทบน้อยลง
 
นักวิเคราะห์ : สมบัติเอกวรรณพัฒนา : [email protected]
OO13946

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!