ลงอีก-ซื้ออีก  

 

  เมื่อวานดัชนีฯหุ้นไทยพักตัวตามคาด (หลังจากพุ่งขึ้นแรงเมื่อสัปดาห์ก่อนต้องมีพักบ้างเป็นธรรมดา) ส่วนหุ้นรายตัวที่ขึ้นแรงเมื่อวาน (ขึ้นแบบกระจัดกระจายกลุ่ม) ได้แก่STA TRUBB SAMART DTAC GFPT DCC ASAP BCPG EA CKP BPP GULF (โรงไฟฟาเด่นรับPDP ใหม่คาดคลอดเดือนนี้)

 

  วันนี้คาดหุ้นไทยลงตามหุ้นโลกแนะนำ "ลงอีกซื้ออีก" ไม่ต้องกังวลกับปัจจัยลบในต่างประเทศสะสมหุ้นไปเรื่อยๆตลอดทั้งเดือนนี้                    

 

  คาดตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้Sideways หลังจากพุ่งแรงและการพักตัวของราคาหุ้นยังมองเป็นโอกาสสะสมเหมือนเดิมคงคาด "สภาพคล่อง" ที่ได้มาจากการขายหุ้นของรายย่อยรอบนี้ (1.7 หมื่นล้านบาทเมื่อสัปดาห์ก่อน) จะหมุนเล่นหุ้นขวัญใจรายย่อยซึ่งน่าจะไม่ใช่หุ้นใหญ่แต่จะเลือกเล่นตามhot-theme ดังนั้นเราแนะให้เก็บหุ้นtheme เลือกตั้งสำหรับดัก "สภาพคล่องรายย่อย" รอบนี้

 

  ส่วนหุ้นบูลชิพใหญ่ยังคงแนะนำทยอยๆรับไปตลอดเดือนกย.-ต้นตค. นี้เหมือนเดิมโดยคาดหุ้นไทยมีโอกาสเข้าสู่ภาวะกระทิงอีกครั้งหลังจากฝรั่งปรับพอร์ตจบในช่วงนี้โดยปัจจัยหนุนหุ้นไทยช่วงปลายเดือนนี้คาดมีโอกาสเกิดWindow dressing ส่วนปัจจัยต่างประเทศเรามองว่าจะมีผลต่อหุ้นไทยจำกัดเพราะ...(ดูรายละเอียดด้านในWeekly report)

 

 

  (+) MS ออกรายงานปรับน้ำหนักลงทุนรายประเทศในตลาดเกิดใหม่ประจำเดือนล่าสุดปรับเพิ่มน้ำหนักชิลีโปแลนด์สิงคโปร์อินเดียไต้หวันและไทยในระดับOverweight โดยลดน้ำหนักโคลัมเบียนิวซีแลนด์อียิปต์เกาหลีตุรกีฟิลิปปินส์ / เราคงคาดว่าเม็ดเงินต่างชาติที่จะจัดสรรเพื่อลงทุนรอบใหม่สำหรับปีหน้าที่คาดว่าจะเข้ามาช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ตลาดหุ้นไทยยังคงเป็นตลาดเปาหมายในการจัดสรรเงินลงทุน

 

  (*/+) หุ้นรับอานิสงส์เลือกตั้ง 1) นิคมฯปลดล็อกการลงทุนWHA AMATA TICON NNCL ROJNA 2) กลุ่มอุปโภค-บริโภค (ความเชื่อมั่นเลือกตั้งทำให้คนกล้าตัดสินใจใช้เงิน) BJC CPALL ROBINS MINT CENTEL LPN SPALI GOLD MTC SAWAD ECL ECF 3) การจัดกิจกรรมหาเสียง+บันเทิงรื่นเริงPLANB VGI 4) หุ้นเชื่อมโยงงานภาครัฐฯ (ต้องเร่งผลักโปรเจคออกก่อน) STEC CK BEM / ITEL (เน็ตห่างไกลเน็ตชายขอบมูลค่า 20,000 ลบ.) SCCC / GULF BGRIM แผนPDP ใหม่เดือนนี้ / พิมพ์บัตรเลือกตั้งTKS      

 

  (+) ตลาดคงมุมมองต่อการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเฟด 26 กย. อีก 0.25% เป็น 2.25% (lower bound 2- upper bound 2.25%) และเดือนธค.อีก 0.25% เป็น 2.5% ส่วนปี 2019 มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยอีกแค่ 2 ครั้งช่วงมีค. และกย. 19 โดยดอกเบี้ยเฟดปี 2019 จะหยุดอยู่ที่ 3.5% ต่ำกว่าค่าMedian ที่เคยคาดการณ์กันที่ 3.75% (ขึ้น 3 ครั้งในปี 2019)

 

  (0) ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมปแห่งสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% คิดเป็นวงเงินรวม 2 แสนล้านดอลลาร์โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.นี้ซึ่งเป็นการตอบโต้ที่จีนขโมยเทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐนับตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. สหรัฐจะเริ่มเก็บภาษีนำเข้าจากจีนในอัตรา 10% และจากนั้นจะเพิ่มเป็น 25% ตั้งแต่ช่วงต้นปีหน้านอกเสียจากว่าทั้งสองประเทศจะสามารถทำข้อตกลงกันได้          

 

 

 

 

  SGP ดูรายงานวันนี้

 

  ASAP แนะนำทางเทคนิครับ 6.3 ต้าน 7 stop loss 6.1  

 

 

 

  เรามองว่ารายงานล่าสุดของUSDA ออกมาในเชิงลบต่อราคาถั่วเหลืองจากอัตราผลผลิตต่อพื้นที่เพาะปลูก, ผลผลิตและสต๊อคปลายงวดของUS และของโลกที่คาดจะทำสถิติสูงสุดใหม่ซึ่งUSDA มีการปรับคาดการณ์ราคาถั่วเหลืองลง 3-4% เป็นUS$7.35-9.85/bushel เรามองว่าอุปทานส่วนเกินและผลผลิตของอาเจนร์ติน่าสำหรับงวด 2018/19 ที่เพิ่มขึ้นส่วนต่างการสกัดคาดจะอยู่ในช่วงขาลงในปี 2019 โดยรวมคาดประเด็นข้างต้นจะกดดันอัตรากำไรของTVO เรายังคงคำแนะนำถือ

 

 

  เราแนะนำซื้อSGP ราคาเปาหมาย 15 บาทโดยปัจจัยหนุนนอกจากราคาแก๊สในปัจจุบันที่ปรับตัวขึ้นทำNew high ที่ราว $640/ตันแล้วยังมีการเดินหน้าขยายธุรกิจLPG ในต่างประเทศซึ่งจะหนุนให้ปริมาณขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสำหรับS-curve ใหม่ของบริษัทจะมาจากธุรกิจLNG ซึ่งบริษัทอาศัยจุดเด่นจากการที่มีโครงข่ายlogistic และsupply chain ของแก๊สLPG มาช่วยซึ่งปัจจุบันบริษัทกำลังเดินหน้าสร้างคลังLNG โดยมีที่ดินพร้อมแล้ว

 

 

  นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 89 ล้านเหรียญสหรัฐฯในสัปดาห์ที่ผ่านมาแรงขายชะลอลงจากยอดขายสุทธิ 232 ล้านเหรียญสหรัฐในสัปดาห์ก่อนหน้าสำหรับกระแสเงินลงทุนในภูมิภาค 5 ประเทศที่เราดูพบว่ากระแสเงินจากต่างชาติรวมเป็นยอดขายสุทธิ 40 ล้านเหรียญกลับจากการซื้อสุทธิ 1,526 ล้านเหรียญในสัปดาห์ก่อนหน้าสำหรับตลาดหุ้นไทยดัชนีVolume Flow ของกลุ่มอสังหาฯส่งสัญญาณถึงการรีบาวด์จากระดับต่ำกว่าNeutral Line ในขณะที่ดัชนีVolume Flow ของกลุ่มธนาคารยังคงอยู่ในระดับOverbought

 

 

  ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์ได้อย่างแข็งแกร่งในวันพฤหัสที่ผ่านมาหลังจากที่พรป.เลือกตั้งสส. และพรป.การได้มาซึ่งสว.ได้ลงราชกิจจานุเบกษาแล้วซึ่งปูทางไปสู่การเลือกตั้งในปีหน้าสำหรับมุมมองในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้าเราคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะสามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องจาก 1) ความผันผวนของตลาดหุ้นไทยอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวและคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้าอย่างไรก็ตามแนวโน้มของความผันผวนน่าจะค่อยๆปรับตัวขึ้น 2) ดัชนีVolume Flow ยังสามารถปรับตัวขึ้นได้อีกจนกว่าจะถึงระดับOverbought 3) ดัชนีShort-term Momentum Strength ของSET รีบาวด์ขึ้นและดัชนีMedium-term Momentum Strength Index ของSET ฟืนตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง 4) ดัชนีBull2Bear ระยะสั้นฟืนตัวจากระดับความเสี่ยงต่ำส่วนดัชนีBull2Bear ระยะกลางรีบาวด์ได้อย่างแข็งแกร่งในวันพฤหัสที่ผ่านมาดังนั้นเรามองว่าตลาดหุ้นไทยโอกาสที่จะทะลุระดับ 1750 ด้วยความน่าจะเป็นที่ระดับ 50% และหากทะลุระดับดังกล่าวได้ดัชนีมีโอกาสปรับขึ้นสู่ระดับ 1820 จุด

 

 

  (*) SAWAD จะเพิ่มทุน 57 ล้านหุ้นขายให้Cathay Finanacial Holding ที่ราคา 45 บาทและคาเธ่ย์จะถือหุ้นเพิ่มเป็น 9.49% จาก 4.99% (ที่มาตลท.)

 

  (+) PTTEP 25 กย.นี้เปิดชิงเอราวัณ-บงกชตามกำหนด (ที่มาไทยโพสต์)

 

  (+) BBL ปล่อยกู้ดีลM&A CPN-GLAND มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท (ที่มาข่าวหุ้น)  

 

  (+) CHEWA คาดรายได้ปี 62 โต 20% แตะ 2.8 พันลบ. หลังเล็งเปิด 7 โครงการใหม่มูลค่า 6.67 พันลบ.แย้มอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตร 2-3 รายลุยโครงการอสังหาฯแนวราบตจว. คาดชัดเจนปี62 กระซิบQ4/61 เตรียมเปิดโครงการใหม่ 2 โครงการมูลค่า 1.7 พันลบ. ย้ำเปารายได้ปีนี้ 2.4 พันลบ. หลังตุนbacklog 800 ลบ. พร้อมรักษาอัตรากำไรสุทธิ 10% จากปีก่อน 7% (ที่มาASPEN)

 

  (+/-) DTAC "ฐากร" ระบุบอร์ดกสทช.น้อมรับคำสั่งศาลแต่จะอุทธรณ์หรือไม่ต้องให้บอร์ดลงมติ 19 ก.ย.นี้ (ที่มากรุงเทพธุรกิจ)

 

  (+) PORT เปิดเผยว่าบริษัทมั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อนตามปริมาณการนำเข้าและส่งออกที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องประกอบกับที่ผ่านมาบริษัทย่อยคือบริษัทบางกอกบาร์จเทอร์มินอลจำกัด (BBT) ได้ลงนามร่วมกับสายการเดินเรือOcean network express (ONE line) ซึ่งเป็นสายการเดินเรือใหญ่ระดับโลกทำให้ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องและในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาBBT เริ่มมีกำไรแล้ว (ที่มาASPEN)

 

  (+) BTS รฟม.ชงเพิ่มส่วนต่อขยายสีชมพูเข้าเมืองทองธานีและสีเหลืองเชื่อมรัชดาลาดพร้าวรัชโยธินจ่ออนุมัติสายสีเหลืองก่อนวันที่ 19 กย. นี่ (ที่มาผู้จัดการ)

 

  (-) AP บลจ.กสิกรไทยขาย 0.1713% เหลือ 4.8537% (ที่มากลต.)