กลยุทธ์ : ดัชนีตลาดหุ้นในเอเชียเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเริ่มตอบรับข่าวในเชิงลบกับข่าวการตั้งกำแพงภาษีของสหรัฐต่อสินค้าจีน 2 แสนล้านดอลลาร์ที่อัตรา 10% โดยตลาดที่ลงไปแรงๆคือจีนฮ่องกงเกาหลีและไต้หวันส่วนในอาเซียนลงไปไม่มากกลุ่มที่มีแรงขายออกยังคงเป็นกลุ่มชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์ส่วนดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ปรับตัวลงไม่มากแต่ที่มากคือตลาดหุ้นNasdaq หลังประธานาธิบดีDonald trump ประกาศหลังตลาดปิดทางสหรัฐจะตั้งกำแพงภาษีกับจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์โดยจากข่าวที่ออกมาคาดกันว่าทางสหรัฐจะตั้งกำแพงภาษีสินค้าจากจีนประมาณ 6,000 รายการในอัตราภาษี 10% ถึง 25% ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์ผลกระทบหลังการตั้งกำแพงภาษีของสหรัฐต่อสินค้านำเข้าจากจีน 2 แสนล้านดอลลาร์ในอัตรา 10% น่าจะยังเพิ่งเริ่มแม้ข่าวดังกล่าวจะมีมานานพอสมควรแล้วโดยผลกระทบต่อตลาดหุ้นน่าจะไม่จำกัดวงเฉพาะจีนกับสหรัฐแต่ประเทศผู้ผลิตตัวกลางหรือSupply chain น่าจะโดนด้วยโดยในสัปดาห์นี้เรามองว่าผลกระทบจากการตั้งกำแพงภาษีของสหรัฐต่อจีนน่าจะเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นทั่วโลกวันนี้มองแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยน่าจะเริ่มซึมทราบข่าวในเชิงลบมากขึ้นหลังตลาดหุ้นในภูมิภาคต่างปรับตัวลงอีกนอกจากนั้นความกังวลเรื่องความขัดแย้งทางการค้าที่ดำเนินอยู่น่าจะยังเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันวันนี้เรามองว่าน่าจะได้เห็นแรงขายของกองทุนออกมาอีกหลังสถานการณ์ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มผันผวนวันนี้มองแนวรับที่ 1710-1705 จุดและแนวต้านที่ 1724-1726 จุดวันนี้แนะนำซื้อเก็งกำไรLH ERW และCENTEL

 

 

  CPALL : เราแนะนำซื้อCPALL โดยมีราคาเป้าหมาย 80.00 บาทโดยเราคาดว่าครม.อาจจะมีการอนุมัติโครงการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้ผู้มีรายได้น้อย (11 ล้านคน)วงเงินต่อเดือนไม่เกิน 500 บาทในวันนี้โดยเป็นโครงการชั่วคราว 6 เดือนเท่านั้นโดยคาดว่าจะเริ่มโครงการได้เดือนพ.ย. นี้เราเชื่อว่าประเด็นดังกล่าวจะส่งผลบวกต่อหุ้นค้าปลีกอย่างCPALL ประมาณ 1-3% ในปีนี้และปีหน้าจากการบริโภคที่จะเพิ่มสูงขึ้นจากการได้รับคืนVAT นอกจากนั้นการเลือกตั้งที่เห็นความชัดเจนมากขึ้นว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนก.พ.-พ.ค. ปีหน้าก็จะหนุนsentiment การจับจ่ายใช้สอยและการบริโภคด้วยโดยการเลือกตั้ง 5 ครั้งหลังสุดหากเราซื้อหุ้นในกลุ่มค้าปลีกไว้ก่อนล่วงหน้า 6 เดือนจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 7.1% ในขณะที่หากเราซื้อล่วงหน้าไว้ 3 เดือนจะให้ผลตอบแทน5.3% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยผลตอบแทนของตลาด (SET) ในช่วงเดียวกันที่ให้ผลตอนแทน 5.5% ในช่วง 6 เดือนก่อนเลือกตั้งและ 0.76% ในช่วง 3 เดือนก่อนการเลือกตั้ง

 

 

  18 ก.ย. : ZIGA CPL TACC ASN SUTHA

 

  19 ก.ย. : PPS PRM COMAN HTECH MBKET

 

  20 ก.ย. : THG FTE JKN RICHY NDR

 

  21 ก.ย. : PM TLUXE PJW ANAN

 

 

  19 ก.ย. : การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทยโดยตลาดคาดว่ากนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50%

 

  19 ก.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลขHousing Starts เดือนส.ค. โดยตลาดคาด 1.24 ล้านยูนิตจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.168 ล้านยูนิต

 

  19 ก.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลขBuilding Permits เดือนส.ค. โดยตลาดคาด 1.315 ล้านยูนิตจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.303 ล้านยูนิต

 

  20 ก.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลขExisting Home Sales เดือนส.ค. โดยตลาดคาด 5.36 ล้านยูนิตจากเดือนก่อนหน้าที่ 5.34 ล้านยูนิต

 

  21 ก.ย. : ไทยประกาศตัวเลขCustom Exports YoY เดือนส.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ 8.27%

 

 

  QH : Company Note คำแนะนำ: ซื้อราคาเป้าหมาย 4.20 บาท

 

 

  กลยุทธ์ : SET Index ถูกขายทำกำไรที่แนวต้านสำคัญที่ 1725-1730 จุดซึ่งเราแนะนำให้ใช้เป็นจังหวะขายทำกำไรเนื่องจากการขึ้นต่อน่าจะอยู่ในกรอบจำกัดโดยมีแนวรับของการปรับฐานในระยะสั้นที่ 1700 จุดถ้าหลุดลงไปต่อเนื่องจะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิคและมีแนวรับถัดไปที่ 1670 จุด

 

  Italian-Thai Development (ITD TB; THB 2.88) -ซื้อ

 

  Communication & System Solution (CSS TB;THB 2.18) - ซื้อ