- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 18 September 2018 20:49
- Hits: 1510
บล.ฟินันเซียไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้>> Stay in Domestic Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัวSideways Down โดยถูกกดดันจากประเด็นสงครามการค้าหลังทรัมป์ยังมีความตั้งใจเก็บภาษีสินค้าจีน 2 แสนล้านเหรียญและอาจทำให้จีนปฏิเสธการเจรจารอบใหม่อย่างไรก็ตามดัชนีปิดลบเพียงเล็กน้อยโดยยังมีปัจจัยในประเทศที่แข็งแกร่งคองพยุงแรงขายหลักมาจากสถาบันในประเทศที่พลิกมาขายสุทธิราว 1.15 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังซื้อต่อเนื่องอีกเล็กน้อย 305 ลบ. (และยังLong ในIndex Futures อีก 2.4 พันสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET Index คาดว่าจะแกว่งSideways Down ต่อเนื่องหลังล่าสุดสหรัฐฯประกาศเก็บภาษีสินค้าจีน 2 แสนล้านเหรียญในอัตรา 10% ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 18 และจะเพิ่มเป็น 25% ในปีหน้าซึ่งทำให้การเจรจาระหว่างกันเกิดขึ้นได้ยากและมีโอกาสที่จีนจะตอบโต้อย่างทันควันด้วยวงเงิน 6 หมื่นล้านเหรียญอิงจากข่าวในช่วงก่อนหน้าทำให้หุ้นที่เป็นGlobal Play และหุ้นส่งออกที่เกี่ยวข้องมีโอกาสถูกกดดันอย่างไรก็ตามเรายังคาดว่าหุ้นDomestic Play จะยังเคลื่อนไหวได้แข็งแกร่งกว่าตลาดโดยเฉพาะกลุ่มตัวที่ได้อานิสงส์จากการเลือกตั้งซึ่งมีความชัดเจนมากขึ้น
กลยุทธ์ : เน้นลงทุนในกลุ่มDomestic Play//ส่วนที่ซื้อก่อนหน้าช่วงตลาดปรับฐานยังเน้นถือต่อ
หุ้นเด่นเดือนก.ย. : ASK, CHG, CK, CPALL, PRM
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคUS$33ล้านเม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าเกาหลีใต้US$132ล้านส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลเข้าUS$9ล้านขณะที่ไหลออกจากไต้หวันUS$80ล้านแนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคหลังสหรัฐได้มีมาตรการทางภาษีเพิ่มเติมกับจีนและกังวลต่อท่าทีของจีนในระยะต่อไป
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น>> TISCO <<
แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 98 บาท
รายงานสินเชื่อเดือนส.ค. ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้าแต่มีสัญญาณที่ดีขึ้นในกลุ่มSME ที่ประกอบธุรกิจFloor plan และสินเชื่อretail ที่ไม่หดตัวลงแล้ว (HP flat แต่Auto cash โตได้ดีขึ้น) เงินให้สินเชื่อ 8M18 ลดลง 5.35% YTD ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการrepayment ในกลุ่มสินเชื่อธุรกิจใน 1H18
คาดผลการดำเนินงานใน 2H18 จะดีกว่า 1H18 ที่มีค่าใช้จ่ายพิเศษมากกว่าคาดส่วนกำไรทั้งปี 2018 คาดไว้ที่ 7.1 พันลบ. (+16.7% Y-Y) และคาดปันผล 5.5% ต่อปี (จ่ายปีละครั้ง)
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) ธนาคารกลางจีนกลับมาเพิ่มสภาพคล่องอีกครั้งโดยสัปดาห์นี้ปล่อยกู้ผ่านโครงการMLF (เงินกู้ระยะกลาง) อายุ 1 ปีดอกเบี้ย 3.3% จำนวน 2.65 แสนล้านหยวนหรือ 3.86 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐฯจากสัปดาห์ก่อนที่เพิ่มปริมาณเงินผ่านReverse Repo (ซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน) 3.30 แสนล้านหยวนโดยมีเหตุผลเพื่อรองรับสภาพคล่องในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ส่งผลให้เงินสกุลหยวนเริ่มอ่อนค่าลงและกดดันให้เงินสกุลภูมิภาคอ่อนค่าตามเช่นกันส่วนเงินบาทที่Outperform เพราะยังคาดหวังผลประชุมกนง.พุธนี้ซึ่งเป็นรอบที่จะมีการทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญด้วย
(0) TMB รายงานสินเชื่อเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.6% M-M หรือราว 1 หมื่นลบ. การเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจรายใหญ่ราว 3%M-M แต่ยังเป็นสินเชื่อระยะสั้นและสินเชื่อTrade finance ขณะที่สินเชื่อรายย่อยเติบโตดีขึ้นทุกกลุ่มส่วนสินเชื่อSME ทรงตัวM-M (เดือนก่อนหน้ามีการจ่ายชำระคืน) ทำให้สินเชื่อ 8M18 เพิ่มขึ้น 2.15% YTD และเราคงอัตราการเติบโตของสินเชื่อทั้งปีที่ 5% Y-Y ทั้งนี้สินเชื่อที่เพิ่มส่วนใหญ่ยังหนักไปที่สินเชื่อรายใหญ่ทำให้NIM ยังถูกกดดันใน 3Q18 ประกอบกับรายได้ค่าธรรมเนียมที่น่าจะแผ่วลงจากธุรกิจกองทุนที่ยังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นจึงคาดแนวโน้มกำไร 3Q18 จะชะลอลง 3.3% Q-Q และ 2.2%Y-Y มาอยู่ที่ราว 1.96 พันลบ. ส่วนกรณีธุรกรรมTrade finance ยังเป็นสินเชื่อปกติราคาปัจจุบันซื้อขายใกล้Book Value เราจึงคงคำแนะนำซื้อ/ซื้อเก็งกำไรราคาเหมาะสม 2.60 บาท
(0) SAWAD เพิ่มทุน 57 ล้านหุ้นขายPP ให้Cathay Financial Holding Co.,Ltd. ราคา 45 บาท/หุ้นรวมมูลค่า 2,565,000,000 บาทเนื่องจากเพิ่มทุนใกล้เคียงราคาตลาดจึงไม่มีPrice Dilution แต่มีEPS Dilution ปี 2019 ประมาณ 4.4% (ปีนี้ไม่มีผล) โดยภายหลังจากPP แล้วกลุ่มCathay จะถือหุ้นในSAWAD 9.49% คงราคาเหมาะสมที่ 41.40 บาทแนะนำswitch เป็นMTC
(+) TACC แนวโน้มกำไร 2H18 จะกลับมาฟื้นตัวดีแม้จะหยุดการขายที่กัมพูชาแล้วซึ่งเรามองบวกเพราะไม่ต้องเผชิญผลขาดทุนจากการแข่งขันที่รุนแรงแต่ได้รายได้ในประเทศที่โตได้ดีมาชดเชยได้หมดปัจจุบันบริษัทได้ลูกค้าใหม่ในCharacter Business เพิ่ม 7 รายรวมเป็น 27 รายล่าสุดลูกค้าMajor ได้ออกชุดBucket Set รายRilakkuma ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากโดยTACC จะรับรู้เป็นค่าFee จากธุรกิจนี้และใน 4Q18 ที่เป็นHigh Season ของธุรกิจจะกลับมาวางขายเครื่องดื่มช็อคโกแกลตHershey’s อีกครั้งในรูปแบบโถกดOptional คาดกำไรสุทธิปี 2018 ลดลง 20.8% Y-Y และคาดกลับมาโตอีกครั้งปี 2019 ราว 22.8% Y-Y คงราคาเป้าหมาย 4.5 บาทแนะนำซื้อ (วันนี้มีOpp Day 13.00 น.)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19 ก.ย.- ไทย: ประชุมกนง.
- ญี่ปุ่น: ดุลการค้า (ส.ค.)
21 ก.ย.- Flash PMI ภาคการผลิต (ก.ย.)
24 ก.ย.-จีน: ตลาดหุ้นจีนและไต้หวันปิดทำการเนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์
25 ก.ย.- สหรัฐฯ: ประชุมFOMC ตลาดคาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 2.25%
(-) ตลาดสหรัฐปรับตัวลดลงจากความกังวลเรื่องการเก็บภาษี 10% บนสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐในวันที่ 24ก.ย. นี้ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 25% ในปีหน้าตามแผนที่วางเอาไว้เพื่อช่วยให้บริษัทสหรัฐได้ปรับตัวหรือย้ายฐานการผลิตไปที่อื่นๆ
(-) ภาพรวมตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในยุโรปปรับตัวลงจากความกังวลเรื่องสงครามทางการค้า
(0) ตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมผสานหลังปธ.เกาหลีใต้กำลังเดินทางไปเยือนเกาหลีเหนือเพื่อหาทางเจรจาข้อตกลงทางอาวุธNuclear ซึ่งช่วยหักล้างปัจจัยลบจากสงครามทางการค้าได้บางส่วน
(0) ค่าเงินบาททรงตัวได้ดีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 32.67 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบNYMEX ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 0.08 ดอลลาร์มาอยู่ที่ 68.91 ดอลลาร์/บาร์เรลจากสงครามทางการค้าที่อาจกระทบต่อปริมาณความต้องการใช้ในอนาคตลง
(+) ค่าการกลั่นสิงคโปร์ปรับตัวขึ้นล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ 5.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
() ราคาทองคำCOMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4.7 ดอลลาร์มาอยู่ที่ 1205.80 ดอลลาร์/ออนซ์
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO13934