- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 14 September 2018 17:22
- Hits: 4546
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ภาพตลาดและแนวโน้ม
ยังไม่ใช่รถด่วนขบวนสุดท้าย...
เมื่อวานหุ้นใหญ่ หุ้นกลาง วิ่งเป็นกระทิงขวิด (SAWAD MTC KBANK PTT PTTEP AOT BJC CPALL STEC CK ส่วนใหญ่เป็นหุ้นขวัญใจกองทุน) รับข่าวบวกในประเทศ เริ่มนับถอยหลังเลือกตั้ง หลังโปรดเกล้าฯ กม.เลือกตั้ง และ ต่างประเทศ ตลาดเปลี่ยนมุมมอง เฟด ขึ้นดอกเบี้ย "ปีหน้า" เหลือ 2 ครั้ง และ จีน-สหรัฐฯ เตรียมกลับสู่โต๊ะเจรจา
อย่างไรก็ตาม เราคงคำแนะนำ ให้ทยอยๆรับหุ้นใหญ่ต่อไป มองว่าถ้าใครไม่ได้ซื้อเมื่อวาน ยังไม่ได้หมายความว่าตกรถไปเป็นที่เรียบร้อย ยังคงมีโอกาสให้ได้เก็บหุ้น เลือกหุ้นเล่นได้อยุ่ โดยปัจจัยบวกเพิ่ม ปลายเดือนนี้ คาดมีโอกาสเกิด Window dressing อีก ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ยังคงให้น้ำหนักเชิงบวก-ไม่น่ากังวล (เหมือนเดิม) ดังนั้นเวลาตลาดลงรอบนี้ จึงมองเป็นโอกาสในการเก็บหุ้น...
...เมื่อหุ้นใหญ่ขึ้นแรง และ นักลงทุนในประเทศขายหุ้นได้กำไร หรือหลุดจากการติดหุ้น โดยเมื่อวานรายย่อยขาย 1.28 หมื่นล้านบาท คาดว่าเม็ดเงินจำนวนนี้จะเริ่มมองหาโอกาสในการลงทุนครั้งใหม่ ซึ่งหุ้นเป้าหมายแนะนำ เล็งไปที่ 1) ราคา หุ้น Laggard ตัวนำ 2) มีสภาพคล่องสูง ยิ่งมีกลิ่นอายการเมืองด้วยยิ่งดี 3) กำลังจะมีปัจจัยหนุนราคาหุ้นเข้ามาในเร็วๆนี้ (เช่น มีลุ้นคำสั่งศาลวินิจฉัยอย่าง DTAC) ซึ่งเราเชื่อว่าเมื่อตลาดเริ่มเข้าสู่ภาวะกระทิง สภาพคล่องสูงล้นหุ้นจะไล่ขึ้นทีละตัว โดยมองข้ามพื้นฐาน...หรือที่เรียกว่า Liquidity driven
What to watch :
(*/+) US Fed beige book : ตลาดคงมุมมองต่อการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเฟดเดือน ก.ย.อีก 0.25% เป็น 2.25% (lower bound 2- upper bound 2.25%) และเดือน ธ.ค.อีก 0.25% เป็น 2.5% ส่วนปี 2019 มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ย อีกแค่ 2 ครั้ง ช่วง มี.ค. และ ก.ย. 19 โดยดอกเบี้ยเฟดปี 2019 จะหยุดอยู่ที่ 3.5% ต่ำกว่าค่า Median ที่เคยคาดการณ์กันที่ 3.75% (ขึ้น 3 ครั้ง ในปี 2019)
(+) เมื่อวานเงินเฟอ (ส.ค.) CPI สหรัฐฯ +0.1% m-m จากคาด +0.2% m-m ลดลงตาม PPI เมื่อวันก่อน สนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของเฟด
(+) สหรัฐกำลังหาทางเริ่มต้นเจรจาการค้าครั้งใหม่กับจีน โดยนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ได้ส่งจดหมายไปยังเจ้าหน้าที่จีน เพื่อเชิญให้เข้าร่วมการเจรจาแก้ไขข้อขัดแย้งทางการค้า
(+) เริ่มนับถอยหลังวันเลือกตั้ง : รองนายก วิษณุ ชี้ กกต.เริ่มกระบวนการสรรหา สว.ได้ทันที เพราะ เมื่อประกาศในราชกิจจาฯ 12 ก.ย. แล้ว กม.มีผลทันที / กกต.เตรียมหารือ พรรคการเมือง 28 ก.ย.นี้
หุ้นแนะนำ
WHA เล่น Laggard AMATA
CPALL เล่น Laggard BJC
SGP Laggard พลังงานต้นน้ำ
หุ้นเช้าสู่ High season : CENTEL AOT MINT ตัวเลขนักท่องเที่ยว Bottom out (สะสมต่อ) TOP SPRC ฤดูพายุ ชายฝั่งสหรัฐฯ เริ่มต้นขึ้นแล้ว ต่อจาก Florence จับตาพัฒนาการอีก 3 ลูก กำลังจ่อคิวตามมาได้แก่ Isaac, Joyce, Helene โดยปีนี้ National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA) คาดมีโอกาส 70% ที่สหรัฐฯจะเจอกับพายุระดับ เฮอร์ริเคน 5-9 ลูก ในปีนี้ ซึ่งอาจมีเพิ่ม เพราะแนวโน้มปีนี้มีโอกาสเกิดพายุระดับเฮอร์ริเคน จำนวนมากกว่าค่าเฉลี่ยปกติ
DTAC วันนี้ลุ้นคำวินิจฉัยของศาล กรณีคุ้มครองเยียวยา คลื่น 850 MHz
รายงานวันนี้
CPALL : Soft till 1Q19
จากการ Roadshow ในงาน Morgan Stanley's GEM conference ที่ลอนดอน นักลงทุนส่วนใหญ่มองหาจุดเข้าเก็งกำไรหลังจากที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมา อย่างไรก็ดีเรามองว่าปีนี้เป็นปีที่ยากลำบากของ CPALL โดยใน 2H18 คาด SSS มีโอกาสอ่อนตัวลงจากโปรแกรมสแตมปที่ไม่ได้รับความนิยมเหมือนปีก่อน ดังนั้นเราปรับกำไรลง และปรับคำแนะนำลงเป็น ถือ ราคาเป้าหมาย 72 บาท แนะให้รอจนถึง 1Q19 ค่อยหาจังหวะกลับมาซื้อ
PTT : Preference shift to subsidiaries
Feedback จากงาน Asia Corporate Day ใน UK เรามองว่านักลงทุนมีความระมัดระวังมากขึ้นต่อภาพธุรกิจในระยะสั้นของ PTT ซึ่งประเด็นที่มีความกังวลจะมาจากโอกาสในการลงทุน โครงการรถไฟความเร็วสูงของทางรัฐบาล, การกำหนดทิศทางราคาพลังงานจากทางภาครัฐหลังจากการเลือกตั้ง, การแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจ retail oil และอัตราการทำกำไรที่ชะลอตัวลงของธุรกิจแก๊ส อย่างไรก็ตามเรามองว่านักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจโรงกลั่นซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PTT อย่าง TOP ตามประเด็นการได้ประโยชน์จากกฏ IMO ใหม่
KSL : 3Q18 results below our model; further 2018 earnings downgrade
KSL รายงานขาดทุนสุทธิงวด พ.ค. - ก.ค. ที่ 95 ล้านบาท พลิกเป็นขาดทุน YoY และ QoQ ขาดทุนที่ออกมาแย่กว่าที่เราคาดไว้ (เราคาดกำไร) จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าคาด ค่าใช้จ่าย SG&A และดอกเบี้ยสูงกว่าคาด เราคาดขาดทุน 4Q18 ที่ 120 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 87% YoY แต่มากขึ้น 26% QoQ ตามปัจจัยด้านฤดูกาล จากผลประกอบการที่ออกมาต่ำกว่าคาด เราปรับประมารการกำไรสุทธิลง 18% และกำไรหลักลง 38% เราปรับราคาเป้าหมายลงมา 14% มาที่ 3.50 บาท ยังคงคำแนะนำ ถือ
หุ้นมีข่าว
(+) LPN เข้าซื้อที่ดินบริเวณถนนรัชดา-นราธิวาส เนื้อที่ 1,368.60 ตารางวา ในเขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร ราคา 821.16 ล้านบาท เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการอาคารชุด สูงประมาณ 30 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ห้องชุดเพื่อการพักอาศัยและเพื่อการพาณิชย์ ประมาณ 400 ยูนิต โดยมีมูลค่าของโครงการประมาณ 3,200 ล้านบาท
ทั้งนี้ โครงการมีระยะเวลาการขายและการพัฒนาโครงการประมาณ 17 เดือน เริ่มการขายภายในไตรมาส 4/61 และคาดว่าจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์และรับรู้รายได้ในปี 63 ซึ่งบริษัทคาดการณ์ผลตอบแทนเบื้องต้นประมาณ 30%
สำหรับแหล่งเงินลงทุนจะมาจากผลกำไรจากการดำเนินงานและจากสถาบันการเงิน ชำระเงินสดทั้งหมดในวันโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา (ที่มา ตลท.)
(+) TOP ไทยออยล์'จ่อทุ่ม 1.56 แสนล. ผุดโรงกลั่นน้ำมันเครื่องบินรับ EEC (ที่มา แนวหน้า)
(+) คาดเช่าซื้อปีหน้าโตสุด 6.5% ตามยอดขายรถใหม่ 9.7 แสนคัน ที่เข้าภาวะปกติ ลีสซิ่งกสิกรปีนี้ปล่อยกู้ได้ 9 หมื่นล. : กสิกรไทยฟันธงตลาดรถยนต์ปีหน้ากลับเข้าสู่สมดุล ยอดเช่าซื้อโตสุด 6.5% ส่วนลีสซิ่งกสิกรไทย มั่นใจปีนี้ปล่อยกู้ใหม่ได้ 9 หมื่นล้าน (โพสต์ทูเดย์)
(*) BBL แบงก์กรุงเทพจ่อออก หุ้นกู้ 3,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 9.84 หมื่นล้าน ฟิทช์ เรทติ้งส์ คาดให้อันดับเครดิต "BBB+(EXP)" (ที่มา โพสต์ทูเดย์)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO13818