- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 12 September 2018 15:08
- Hits: 4360
บล.เอเชีย เวลท์ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ลงลึกและเร็วเกินไป คาดหวังการรีบาวด์กลับ
ตลาดหุ้นไทยวันนี้ : วานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง 1.13% ติดลบนำหน้าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคนี้ โดยต่างชาติขายสุทธิมากถึง 3.4 พันล้านบาท เป็นการปรับตัวลดลงของหุ้นขนาดใหญ่พร้อมกัน ทั้ง PTT, AOT, CPALL, PTTGC อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าวันนี้ตลาดหุ้นไทยน่าจะมีการรีบาวด์ขึ้นได้ จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 2% คาดว่าหนุนหุ้นกลุ่มน้ำมันให้ปรับตัวดีขึ้น วันนี้ BANPU ขึ้นเครื่องหมาย XD ปันผลระหว่างกาล 0.35 บาท ขณะที่ปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ 1)กรณี DTAC ยื่นขอเพิกถอนคำสั่ง กสทช. และขอคุ้มครองลูกค้าคลื่น 850 MHz หลังศาลปกครองยังไม่ออกคำสั่ง 2) นายกรณ์ จาติกวณิช แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้ PTT ยกเลิกแผนการให้ GPSC เข้าซื้อหุ้น GLOW เนื่องจากเกรงจะเกิดปัญหาเรื่องการผูกขาดพลังงานไฟฟ้า ในขณะที่ปัจจัยต่างประเทศภายภาคอุตสาหกรรม พบว่าราคาไก่ที่ปรับตัวขึ้นสูงตั้งแต่ปลายสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ส.ค. ขณะนี้ราคาได้ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว และถูกมองว่าการที่ค่าเงินบราซิลอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว ซึ่งบราซิลเป็นคู่แข่งขันที่สำคัญของไทยในอุตสาหกรรมส่งออกเนื้อไก่ จะเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกของผู้ประกอบการไทย ช่วงนี้จึงแนะนำให้ทำการ Trading ในตลาดหุ้นอย่างระมัดระวัง และหาโอกาสทำกำไรในระยะสั้น ๆ ไปก่อน กรอบดัชนีวันนี้ 1,665-1,695 จุด หุ้นแนะนำ CK, PTTEP, ADVANC
Stock Comment
CK Pick of the day
PTTEP (ปิด 138.00 บาท; ซื้อ; AWS TP 145.00 บาท) ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นปัจจัยหนุน และ PTTEP ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับกรณี GPSC ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ PTT ทำคำเสนอซื้อหุ้น GLOW
ADVANC (ปิด 199.50 บาท; ซื้อ; AWS TP 229.00 บาท) การ Overhang ของ DTAC มีโอกาสทำให้ DTAC ทยอยเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับคู่แข่งขัน ได้แก่ ADVANC และ TRUE โดยเรามองว่า ADVANC มีความได้เปรียบเรื่องฐานะการเงินที่แข็งแกร่งกว่าคู่แข่งรายอื่น ๆ นอกจากนี้ การเปิดตัว iPhone X อีก 3 รุ่น ทำให้ ADVANC มีโอกาสทำ Promotion ใหม่เร่งการขาย
หุ้นเด่นวันนี้ : CK (ปิด 26.25 บาท; ซื้อ; AWS TP 29.50 บาท)
ภาพรวมอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างดีขึ้น จากกการที่คณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (บอร์ด PPP) เร่งเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้า 2 เส้นทาง และ โครงการมอร์เตอร์เวย์อีก 1 เส้นทางมูลค่ารวมกว่า 5 แสนล้านบาท ได้แก่ โครงการ รถไฟฟ้าสายสีม่วง (เตาปูน-วงแหวนกาญจนาภิเษก) และ รถไฟฟ้าสายสีส้ม(บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) มูลค่ารวมกว่า 3.66 แสนล้านบาท และยังมีโครงการมอเตอร์เวย์ (นครปฐม-ชะอำ) มูลค่ารวมกว่า 7.9 หมื่นล้านบาท คาดจะเปิดประมูลได้ภายในปี 2561 ถึงกลางปี 2562 ถือเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดยเฉพาะ CK ที่จะมีงานในมือคงเหลือไม่มากเพียง 6 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ การที่ CK ถือหุ้นในบริษัทในเครือหลายแห่งที่ดำเนินธุรกิจสาธารณูปโภค ได้แก่ BEM, CKP และ TTW เป็นการเพิ่มมูลค่ากิจการให้กับ CK เราแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 29.50 บาท ยังคงมี Upside ประมาณ 12.4%
Price Pattern ของ CK ยังคงมีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) จากการเกิด Monthly Sell Signal แต่ Price Pattern ของ CK ได้กลับมาเกิดความแข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะกลางจากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal ทั้งนี้หากปิดตลาดรายเดือนในเดือนนี้ได้เหนือ 26.75 บาทเป็นอย่างน้อย ก็จะทำให้แนวโน้มหลักของ CK เปลี่ยนจากแนวโน้มขาลง (Downtrend) ไปสู่แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ทันที เป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 27.50 บาท ซึ่งหากสามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือ 27.50 บาทได้สำเร็จ จะมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 28.75 บาท และ 30 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ CK มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 25.25 บาท (Resistance: 26.50, 26.75, 27.00; Support: 26.00, 25.75, 25.50)
ปัจจัยในประเทศ :
ค่าใช้จ่ายโฆษณาเดือน ม.ค.-ส.ค. 61 หดตัวลงเล็กน้อย -0.5% YoY ในขณะที่ค่าใช้จ่ายโฆษณาเดือน ส.ค. 61 ลดลง -2.3% YoY (Nielsen) โดยสื่อที่ค่าใช้จ่ายโฆษณาช่วง 8 เดือนแรกลดลงมากกว่า -20% YoY ได้แก่ (1) นิตยสาร (2) หนังสือพิมพ์ (3) ทีวีดาวเทียม-เคเบิ้ล ซึ่งเป็นสื่อที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสื่อออนไลน์ สำหรับสื่อที่ค่าใช้จ่ายโฆษณายังสามารถเติบโตได้ดีมากกว่า 5% ได้แก่ (1) สื่อกลางแจ้ง (2) โรงภาพยนตร์ (3) สื่อในห้างสรรพสินค้า (In Store) เป็นปัจจัยบวกต่อ VGI, PLANB อย่างไรก็ตามสื่อที่มีเม็ดเงินโฆษณาสูงสุดยังเป็นโทรทัศน์และทีวีดิจิทัล ที่มีส่วนแบ่งประมาณ 63% ของทั้งตลาด กลับมาเติบโตเล็กน้อยประมาณ 2.5% นอกจากค่าใช้จ่ายโฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์และทีวีดาวเทียม-เคเบิ้ลที่ปรับตัวลงแรงแล้ว สื่ออื่นๆ เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ลดลง คาดสัดส่วนค่าใช้จ่ายโฆษณาจะเริ่มสมดุลมากขึ้น อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายโฆษณาในภาพรวมที่ยังคงหดตัวอาจสะท้อนให้เห็นว่าการบริโภคยังไม่ฟื้นตัวดี ทำให้บริษัทต่างๆ ยังไม่มีแผนกระตุ้นยอดขายในช่วงนี้
ครม.อนุมัติให้รฟม.ก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบาที่ภูเก็ตและเชียงใหม่ มูลค่ากว่า 6.4 หมื่นล้านบาท โดย คาดว่าพ.ย.นี้จะสามารถสรุปผลการศึกษาร่วมทุน PPP รถไฟฟ้าภูเก็ต 3.9 หมื่นล้านบาทได้ ในขณะที่จ.เชียงใหม่ วงเงิน 26 ล้านบาท อยู่ในระหว่างขั้นตอนร่าง TOR ศึกษารูปแบบการร่วมลงทุน คาดว่าจะใช้เวลาศึกษาประมาณ 1ปี (ผู้จัดการออนไลน์)
AOT (ปิด 62.00 บาท; ถือ; AWS TP 75.00 บาท) มีปัจจัยลบ 2 ประเด็น ได้แก่ (1) การเปิดประมูลดิวตี้ฟรีตามกรอบเวลาเดิมภายในเดือน ก.ย. 61 นี้อาจต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากกลุ่ม SA Group ซึ่งเป็นผู้ชนะการประกวดราคาแบบอาคารผู้โดยสาร หลังที่ 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แต่ถูกตัดสิทธิ์ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง และ (2) จำนวนนักท่องเที่ยวจีนมีโอกาสปรับลดลง เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นประมาณ 4% YTD เมื่อเทียบกับค่าเงินหยวนของจีน ล่าสุดตัวเลขผู้โดยสารต่างชาติผ่านสนามบินเดือน ก.ค. 61 เติบโตเพียง 4.9% ต่ำสุดในรอบปี และต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ช่วง 7 เดือนแรกของปีที่ 10.1% เราคงคำแนะนำ "ถือ" ด้วยราคาเป้าหมาย 75 บาทต่อหุ้น และมีโอกาสปรับลดประมาณการรายได้และราคาเป้าหมายลง หากตัวเลขผู้โดยสารต่างชาติในเดือน ส.ค.-ก.ย. 61 ยังไม่ฟื้นตัว
GFPT (ปิด 14.20 บาท; ถือ; AWS TP 16.50 บาท) ราคาไก่ในประเทศเริ่มปรับลดลง ล่าสุดราคาไก่หน้าฟาร์มของ CPF จังหวัดชลบุรี ปรับลดลงเหลือ 32 บาท ต่อ กก. เทียบกับสัปดาห์ก่อนที่ 37 บาทต่อ กก. ใกล้เคียงกับต้นทุนเลี้ยงไก่ที่ 33 บาทต่อ กก.นอกจากนี้การส่งออกเนื้อไก่มีปัจจัยเสี่ยงจากประเทศคู่แข่งที่มีค่าเงินอ่อนค่าลงมาก เช่น บราซิลที่มีค่าเงินอ่อนค่าลงประมาณ 18% YTD คงคำแนะนำ "ถือ GFPT" ด้วยราคาเป้าหมาย 16.50 บาทต่อหุ้น สำหรับ CPF แม้ว่าธุรกิจเนื้อไก่จะได้รับผลกระทบ แต่เรามองว่าธุรกิจสุกรยังฟื้นตัวได้ดี คงคำแนะนำ "ซื้อ CPF" ด้วยราคาเป้าหมาย 30.00 บาทต่อหุ้น หากราคาปรับลงมาต่ำกว่า 25 บาทจะเป็นโอกาสในการลงทุน
Mobile Phone: แอปเปิลจะเปิดตัว iPhone X ใหม่ 3 รุ่นในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่วันนี้ โดยรุ่นหนึ่งจะเป็น iPhone ที่มีขนาดหน้าจอ 6.5 นิ้วแบบ OLED ซึ่งเป็น iPhone ที่มีหน้าจอใหญ่ที่สุดเท่าที่แอปเปิลเคยผลิตมา ส่วนอีกรุ่นหนึ่งจะมีขนาดหน้าจอ 5.8 นิ้วแบบ OLED เท่ากับ iPhone X ในปัจจุบัน แต่ได้รับการอัพเกรด และอีกรุ่นหนึ่งเป็น iPhone ที่มีราคาไม่แพง แต่เพียบพร้อมด้วยฟีเจอร์หลัก ๆ ของรุ่นเรือธง โดยมีขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้วแบบ LCD ความเห็น: คาดเป็นบวกต่อผู้จำหน่าย iPhone ในประเทศเช่น COM7 และ SPVI
WHAUP (5.75 บาท; NR; IAA consensus 8.45 บาท) WHAUP พร้อมลงทุนเพื่อรองรับอุปสงค์จากโครงการ EEC: โดยบริษัทเตรียมเปิดแผนการลงทุนธุรกิจด้านสาธารณูปโภคในอีก 5 ปีข้างหน้าเพื่อรองรับอุปสงค์ในโครงการพัฒนาเขตพื้นที่ EEC (Bangkok Post) ความเห็น: WHAUP จะได้ประโยชน์จากโครงการ EEC เนื่องจากมีนิคมอุตสาหกรรมอยู่ 9 แห่งในเขตพื้นที่นี้ โดยงบประมาณในการลงทุน 5 ปีข้างหน้า อยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท ในขณะที่ บริษัทคาดว่ารายได้รวมในปี 2018 จะเติบโตราวๆ 10-15% เป็นกว่า 4,000 ล้านบาทจาก 3,700 ล้านบาทในปีก่อนหน้า
ตลาดต่างประเทศ :
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ: ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 113.99 จุด หรือ +0.44% ขณะที่ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 10.76 จุด หรือ +0.37% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 48.31 จุด หรือ +0.61% โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นเทคโนโลยี นำโดยหุ้นแอปเปิล ซึ่งมีกำหนดการว่าบริษัทจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ iPhone X ใหม่ 3 รุ่นในวันนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นขานรับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นกว่า 2% อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยรายงานล่าสุดระบุว่าจีนเตรียมขออนุมัติจากองค์การการค้าโลก (WTO) เพื่อทำการคว่ำบาตรสหรัฐฯ
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันดิบ : WTI พุ่งขึ้น 1.71 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 69.25 ดอลลาร์/บาร์เรล; เบรนท์ เพิ่มขึ้น 1.69 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 79.06 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบและปรับลดคาดการณ์การผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากพายุเฮอร์ริเคน "ฟลอเรนซ์" ที่ถูกจัดระดับความรุนแรงที่ระดับ 4 นับเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดเท่าที่พื้นที่ดังกล่าวจะต้องเผชิญในรอบเกือบ 30 ปี รวมทั้งรายงานสต็อกน้ำมันดิบซึ่งทางการสหรัฐฯ จะเปิดเผยในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง
Thailand Research Department
Vajiralux Sanglerdsillapachai (No.17385) Tel: 0-2680-5077
Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Adisak Prombun (No.14543) Tel: 0-2680-5056
Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
Nutchapol Cheevavichawalkul (No.46377) Tel: 0-2680-5094
OO13699