SET ปิดที่ระดับ 1,672.42 จุด ลดลง 19.09 จุด (-1.13%) มูลค่าการซื้อขาย  50,027.72 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ปิดปรับตัวลดลง เนื่องจาก นักลงทุนชะลอการลงทุน จากความกังวลเรื่องสงครามการค้า รอดูกำหนดการเลือกตั้ง และมีแรงเทขายหุ้นขนาดใหญ่ อาทิเช่น PTT, AOT, KBANK  ที่เข้ามาหนักในช่วงปลายตลาด

 

  ประเมินดัชนีฯยังผันผวนสูง มีโอกาสปิดลบต่อ แต่อิงกับความคืบหน้าเรื่องสงครามการค้าที่กำลังระอุ .......  จีนจะมีการเสนอ WTO 21 ก.ย.นี้ ในกรณีที่สหรัฐฯใช้นโยบายการค้าอย่างไม่เป็นธรรม ยังคงทำให้ตลาดมีความพะวงต่อสงครามการค้าอยู่ต่อไป แม้จะได้ข่าวเชิงบวกที่สหรัฐฯอาจประสบความสำเร็จในการเจรจาการค้ากับแคนาดา ที่อาจหนุนให้ดัชนีฯมีการ rebound ได้ก็ตาม  ......   Bond Yield 2 ปี ของรัฐบาลสหรัฐฯเดินหน้าต่อบ่งชี้โอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในการประชุม 25-26 ก.ย.นี้ที่มากขึ้น เป็นบวกต่อสหรัฐฯแต่เป็นลบต่อกระแสเงินทุนที่อาจไหลออกหากดอกเบี้ยสหรัฐฯขยับขึ้น ....  ราคาน้ำมันดิบ ได้อานิสงค์ จาก EIA ปรับคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ Wti ปีนี้ขึ้น 1.2% และพายุเฮอริเคนฟลอเรนซ์ที่เตรียมขึ้นฝั่ง มองเป็นบวกต่อหุ้นผู้ผลิตน้ำมัน (PTTEP) ….  ด้านตัวแปรในประเทศ นักลงทุนกำลังจับตารอการประกาศวันเลือกตั้ง แรงขายหุ้นที่เกิดขึ้นวานนี้ นอกจากจะมาจากปัจจัยเฉพาะตัวของหุ้นใหญ่ (AOT, PTT, CPALL) น่าจะเกิดจากนักลงทุน ตปท.ลดพอร์ตหุ้นตลาดเกิดใหม่ (EM) หลังปัจจัยภายนอกถ่วงตลาด แม้ปัจจัยภายในจะดีก็ตาม .......  ตัวแปรที่ต้องติดตามในระหว่างวัน  คือ กสทช.พิจารณาเยียวยา คลื่น 850 MHz ของ DTAC  ความคืบหน้ากรณี GPSC ซื้อ GLOW  และคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ พิจารณาแผนธุรกิจของ THAI

 

  เช่นเดียวกับหลายวันก่อน ที่ปัจจัยภายนอกกดดันให้ตลาดหุ้นไทยผันผวนและอ่อนตัว  รวมถึงมีแรงขายจากนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาด้วย ภาพรวมเรายังแนะเป็น “ชะลอการลงทุน” เพื่อรอให้สถานการณ์คลี่คลาย ลดการถือหุ้นอิงตลาด หรือหุ้นที่ราคาปรับขึ้นมามาก แนวรับสำคัญของดัชนีฯ จะอยู่ที่ 1665 และ 1650 จุด ตามลำดับ ......  หุ้น top picks วันนี้ จะเน้นหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว  อาทิ STEC* BEM*  EA* และเพิ่มหุ้นเข้ามาในวันนี้ ประกอบด้วย PTTEP, SAWAD และ HMPRO

  Technical :  KTC, CKP, SPVI

 

* เป็นหุ้นที่แนะนำโดย KTBST ยังไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์