Stock          S           R        Comment

BDMS         25.75       27.00      เริ่มบุกกลุ่มคนไข้ชาวจีนเพิ่ม หนุนฐานคนไข้ต่างชาติกว้างขึ้น

COM7         19.00       19.50      ใกล้เปิดตัว 3 iPhone ใหม่ หวังยอดขายพุ่งกระฉูด

CPN          80.00       82.00      ทยอยเปิดโครงการอสังหาริมทรัพย์ เสริมรายได้เพิ่มจากค่าเช่า

 

          ไทยยังมีความเสี่ยงจากวิกฤต EM หากรุนแรงขึ้น ทว่า Trade War อาจกลับเป็น Tailwind ในระยะสั้นต่อตลาดหุ้นไทย 3 เหตุผลที่ตลาดหุ้นไทยยังน่าจะยังยืนได้ ภายใต้วิฤตตลาดเกิดใหม่ หากไม่เข้าสู่วิกฤตแบบเต็มตัว แม้ตลาดอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ร่วงกว่าร้อยละ 6 ในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว 

          1. โครงสร้างเศรษฐกิจไทยยังดีกว่าประเทศโดยรวมในตลาดเกิดใหม่หรือ EM  โดยคำอธิบายแบ่งเป็น 2 ส่วน แบบข่าวดี/ข่าวร้าย สำหรับตลาดหุ้นไทย 

ข่าวดี : สงครามการค้ารอบนี้ นักวิเคราะห์ต่างชาติ มองไทยว่าไม่โดนกระทบมากนัก หรือสำนักวิจัยหลายแห่งถึงขนาดที่ว่ามองจะเป็นผลดีต่อไทย เพราะไทยมีสินค้าส่งออกไปสหรัฐที่เหมือนกับจีนซึ่งโดนกำแพงภาษีจากสหรัฐอยู่เยอะพอควร โดยข่าวที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังจะเตรียมออกมาตรการตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ อาจจะเป็นผลดีต่อสินค้าส่งออกของไทยในบางเซกเตอร์ 

          ข่าวร้าย : มูลค่าการส่งออกบ้านเราน่าจะชะลอลงในครึ่งปีหลัง จากจีดีพีของคู่ค้าเราชะลอลง สำรองเงินตราระหว่างประเทศเราน่าจะลดลงเล็กน้อย การใช้ไปกับการบริหารค่าเงินส่วนหนึ่งชดเชยกับดอกเบี้ยบ้านเราที่ยังคงที่ ในขณะที่ประเทศอื่นเป็นขาขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ตลาด EM ในประเทศอื่นๆ ออกอาการ ทั้งหมดคือตัวเลขส่งออก ดุลการค้าและสำรองเงินตราระหว่างประเทศไทยจะดีน้อยลง 

          ดังนั้น วิกฤต EM จึงมีผลกระทบกับไทยหมือนกันในช่วงที่สถานการณ์เลวร้ายสุดๆ  ถ้าสังเกตดูตลาดหุ้นไทยร่วงหนักในช่วงสั้นๆ เมื่อราว2เดือนก่อน 

เรามองว่าหากไม่มีวิกฤต EM แบบเต็มสูบ ตลาดหุ้นไทยยังดูน่าสนใจ ถ้าวิกฤต EM หนักๆ ตลาดหุ้นไทยก็ได้รับผลกระทบเหมือนกัน 

          2. ความกดดันทางการเมืองในภูมิภาคเอเชีย ได้ลดความร้อนแรงลงอย่างน้อย ในแง่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือ ที่เมื่อคืนนี้ ได้ประกาศว่ากำลังอยู่ในขั้นตอนของการเปิดการเจรจาระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กับ คิม จอง อีล 

          3. สามในมิติความร้อนแรงของดัชนีทางเทคนิค ดัชนีหุ้นของตลาดเกิดใหม่ น่าจะไม่ห่างจากจุดที่เป็น Rebound Point (ดังรูป) 

คำแนะนำ ในช่วงนี้ เรามองว่าควรจะเลือกลงทุนในหุ้นที่ได้รับผลดีจาก Trade War 

          KCE : น่าจะได้ประโยชน์จากการตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้ามูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์จากจีน ที่สื่อหลายสำนักคาดการณ์ว่าน่าจะประกาศในสัปดาห์นี้  ณ ตอนนี้ KCE ยังมีโอกาสได้รับผลดีจาก Trade War เนื่องจากผู้ผลิตแผงวงจร PCB ในรถยนต์รายใหญ่ส่วนใหญ่มาจากจีน ที่น่าจะรับออร์เดอร์จากสหรัฐลดลงมากกว่าคำสั่งซื้อแผง PCB ที่ลดลงของบริษัทรถยนต์ทั่วโลกจากการตั้งกำแพงภาษีของสหรัฐต่อจีนและประเทศส่งออกรถยนต์อื่นๆ ซึ่งน่าจะทำให้น่าจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมต้นน้ำด้านอิเล็คทรอนิคส์ไหลมาทางบ้านเรามากขึ้นอีก โดยจากการตรวจสอบประกาศรายชื่อสินค้า จากเอกสารของรัฐบาลสหรัฐ พบว่ามีหนึ่งรายการที่น่าจะสามารถตีความได้ว่าเป็นสินค้าที่ KCE แข่งขันกับจีนอยู่ ได้แก่

          ความเห็น : จากผู้บริหารประเมินว่าผลดีจากการตั้งกำแพงภาษีของสหรัฐต่อจีนในผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ KCE จะส่งผลดีออร์เดอร์ของ KCE โดยใช้เวลาส่งผลต่องบการเงินได้ในเกือบทันที

          แนวรับ  1,683  แนวต้าน 1,700

 

 

HMPRO  XD 0.15 บาท

JMT-W2 เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (221.9mn sh 1:1 @ Bt19)