- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 10 September 2018 20:36
- Hits: 2004
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวันกลยุทธ์วันนี้
สะสม Defensive Stock
Smart Pick
สะสม ADVANC
ราคาปิด 196.50 บาท
ราคาเหมาะสม 237.00 บาท
เรามองว่ากลุ่ม Defensive อย่างกลุ่มสื่อสาร เป็นที่พักเงินได้ดีในสัปดาห์นี้ เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยบวก และประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน เมื่อทรัมป์เตรียมเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก US$2.67 แสนล้าน
ราคาหุ้น ADVANC ลดลง 2.7% ใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เข้าใกล้แนวรับเส้น 200 วันที่ 195.00 บาท จึงมีโอกาสฟื้นตัวได้ทางเทคนิค ขณะที่แนวโน้มกำไร 3Q61 คาดเติบโต YoY และให้ Yield 4% ต่อปี
สะสม DIF
ราคาปิด 14.80 บาท
ราคาเหมาะสม 15.60 บาท
ราคาหุ้นอ่อนตัวลง 2% ใน 2 วันที่ผ่านมา หลังอนุญาโตตุลาการตัดสินให้ TRUE ชดใช้ค่าเสียหายกับ TOT จำนวน 9.4 หมื่นล้านบาท เรามองว่าเป็นโอกาสสะสมสำหรับนักลงทุนที่มองหาปันผล
เนื่องจาก DIF จะไม่ได้รับผลกระทบในช่วง 3 -4 ปีจากนี้ โดย TRUE จะผู้เช่าหลักจะเดินหน้าต่อสู้ในชั้นศาล ซึ่งต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 3-4 ปีกว่าคดีจะสิ้นสุด ขณะที่ DIF ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย ปีละ 6.76%
เก็งกำไร BDMS
ราคาปิด 26.25 บาท
ราคาเหมาะสม 31.40 บาท
หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลแข็งแกว่งกว่าตลาดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหว -0.1% เทียบกับ SET INDEX -1.8%
โดยหุ้นโรงพยาบาลที่ขึ้นมาโดดเด่นเช่น BCH +1.6% WoW และ CHG +4.8% WoW ขณะที่ BDMS ทรงตัว ดังนั้น เราประเมินว่าหุ้นโรงพยาบาลขนาดใหญ่จะเป็นเป้าหมายในการพักเงินของกองทุนในประเทศ เพื่อรอปัจจัยลงทุนใหม่ในการลงทุน
เก็งกำไร BBL
ราคาปิด 202.00 บาท
แนวต้านทางเทคนิค 207.00 บาท
ราคาหุ้นปิดวันศุกร์ที่ผ่านมา ใกล้เคียงแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันที่ 201 บาท จึงมีโอกาสฟื้นตัวทางเทคนิค แนวต้าน 207.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 199.00 บาท
ราคา ณ ปัจจุบัน Valuation ค่อนข้างถูก ซื้อขายที่ PBV2561 เพียง 0.9 เท่า และผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย 4% ต่อปี
Profit-Taking : N.A.
กลยุทธ์วันนี้
ประเด็นที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนรอบใหม่ที่ US$2.67 แสนล้าน มากกว่าที่เคยประกาศไว้ที่ US$2.00 แสนล้านนั้น อาจเป็นเพียง "Noise" ของตลาดหุ้นเท่านั้น เพราะตัวเลขการส่งออก-นำเข้าเดือน ส.ค. ระหว่างสหรัฐฯ และจีน พบว่า จีนนำเข้าจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียง 2.70%YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 11.1%YoY ขณะที่จีนส่งออกไปยังสหรัฐฯ ยังขยายตัวในเกณฑ์ที่ดี 13.20%YoY ใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้าที่ 11.20%YoY สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ประชาชนอเมริกันจะต้องบริโภคสินค้าจากจีนในต้นทุนที่สูงขึ้นจากผลของภาษี นอกจากนี้อียูเตรียมจัดเก็บภาษีรายได้ 3% ของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง Google, Amazon, Facebook เพื่อเป็นการตอบโต้สงครามการค้ากับสหรัฐฯ เรามองว่าประธานาธิบดีทรัมป์อาจเหลือแนวทางการแก้ไขปัญหาได้ไม่มาก ขณะที่กรอบเวลาการเลือกตั้งกลางเทอมที่จะมาถึงในวันที่ 6 พ.ย.นี้อาจทำให้เกิดภาวะเสี่ยงต่อพรรค Republican ที่อาจเสียที่นั่งข้างมากในสภาสูง กลายเป็นแรงกดดันต่อประธานาธิบดีทรัมป์ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เรายังคงแนะนำให้นักลงทุนติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินในภูมิภาคเอเชีย ทั้งเงินรูเปียะห์อินโดนีเซีย / เงินดองเวียดนาม และเงินรูปีอินเดีย หากทรงตัวต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จะทำให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดเกิดใหม่วันนี้แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นไทย เพียงแต่ ณ ปัจจุบันการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุน ทำให้ตลาดหุ้นส่วนใหญ่กลับเข้าสู่โหมดของการแกว่งในกรอบ (Sideways) ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นไทยเราประเมินกรอบแกว่งที่ 1680-1695 จุด มูลค่าการซื้อขายต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท/วัน
กลยุทธ์หลัก สำหรับนักลงทุนรอบสั้น "เน้นเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง/เล็กที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว" ส่วนนักลงทุนระยะกลางอาจพักเงินไว้ที่หุ้น Defensive เพื่อรอดูทิศทางการลงทุนอีกครั้ง
HOT Topic
Hot Topic วันนี้
1. ทรัมป์ขู่จีน อาจเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีก US$2.67 แสนล้าน
2. สัปดาห์นี้ตลาดค่อนข้างเงียบขาดปัจจัยบวก คาดหุ้นกลาง, เล็ก และกลุ่ม Defensive จะ Outperform
3. ติดตามกลุ่มสื่อสาร…DTAC จะได้มาตรการเยียวยาคลื่น 900MHz หรือไม่ กสทช.จะมีการประชุมในวันพุธนี้
4. บทวิเคราะห์ ได้แก่ TCMC
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX แกว่งตัวซึมในกรอบบริเวณ 1680-1695 จุด ก่อนมาปิดที่ 1689.49 จุด ลดลง 4.45 จุด โดนกดดันจากหุ้นขนาดใหญ่นำโดย PTT (-0.99%), AOT (-1.15%), PTTEP (-1.07%), BBL (-1.46%) และ KBANK (-0.95%) กระทบดัชนีราว 4.1 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางเพียง 3.6 หมื่นล้านบาท
กระแสเงินทุน : นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นเป็นวันที่ 11 อีกราว 773 ล้านบาท รวม 11 วันทำการขายสุทธิสะสม 1.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่สถาบันในประเทศกลับมาซื้อสุทธิวันแรกในรอบ 4 วันทำการราว 301 ล้านบาท ตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิวันแรกในรอบ 4 วันทำการราว 2.9 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Long สุทธิราว 6 หมื่นสัญญา โดย S50U18 มี Discount จาก SET50 Index เหลือเพียง 1.5 จุด จากวันก่อนราว 3.7 จุดเช่นเดียวกับกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศและบัญชีบล.มีสถานะ Long สุทธิราว 4.7 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Short สุทธิราว 1.2 หมื่นสัญญา
ตลาดตราสารหนี้ : นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิราว 5.2 พันล้านบาท จากวันก่อนหน้าที่ขายสุทธิราว 1.9 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งสัญญาณพร้อมเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มอีก US$2.67 แสนล้าน พร้อมระบุว่าภาษีนำเข้ามูลค่า US$2.00 แสนล้าน ที่จะเรียกเก็บจากจีนจะมีผลบังคับใช้เร็วๆนี้
สหภาพยุโรป (EU) ส่งสัญญาณเตรียมเก็บภาษีรายได้จากบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ในอัตรา 3%
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของแคนาดา เผยการเจรจาข้อตกลงการค้า (NAFTA) ฉบับใหม่ระหว่างสหรัฐฯและแคนาดามีความคืบหน้ามากขึ้น
สหรัฐฯรายงานอัตราการว่างงาน เดือน ส.ค. อยู่ที่ระดับ 3.9% และการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 2.01 แสนตำแหน่ง หนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเป็น 2.94%
จีนรายงานมูลค่าการส่งออกเดือน ส.ค. ขยายตัว 9.8%YoY ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดที่ 10.0%YoY และมูลค่าการนำเข้าขยายตัว 20.0%YoY ดีกว่าที่ตลาดคาดที่ 18.5%YoY และมูลค่าการส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯขยายตัว 13.2%YoY จากเดือนก่อนหน้าที่ 11.2%YoY ขณะที่การนำเข้าจากสหรัฐฯขยายตัว 2.7%YoY ชะลอจากเดือนก่อนหน้าที่ 11.1%YoY
EU รายงาน GDP 2Q61 ขยายตัว 2.1%YoY ใกล้เคียงกับคาดการณ์ของตลาดที่ 2.2%YoY
ญี่ปุ่นรายงาน GDP 2Q61 ขยายตัว 3.0%YoY ดีกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.6%YoY
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อจีนเดือน ส.ค. วันนี้
ติดตามการประชุม กสทช. เพื่อพิจารณามาตรการเยียวยาของ DTAC วันที่ 12 ก.ย.
ติดตามการรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ (Beige Book), การประชุมของธนาคารอังกฤษ (BOE), การประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการรายงานเงินเฟ้อ CPI เดือน ส.ค. ของสหรัฐฯ วันที่ 13 ก.ย.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO13563
