- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 06 September 2018 22:15
- Hits: 4498
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selections >> AEONTS, BDMS, UREKA
Stock S R Comment
AEONTS 171.00 190.00 คาดแนวโน้มช่วงที่เหลือของปีกำไรยังเด่น ได้แรงหนุนจากสินเชื่อบัตรกดเงินสด
BDMS 25.00 27.75 คาดแนวโน้มยอดผู้ป่วยในไตรมาส 3 สูงตามฤดูกาล
UREKA 0.77 0.90 ประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง ปรับเป้าการเติบโต ธุรกิจเครื่องจักรกล AI สอดคล้องธีม Thailand 4.0
No need to panic ; CPALL is cheapest in 7.5 years
Institute : มองการปรับตัวลงแรงของ SET Index วานนี้มีสาเหตุหลักมาจากแรงขายแบบ Momentum selling จากกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ ไม่ใช่แรงขายจากธุรกรรม Block trade แต่อย่างใด (ปริมาณการทำธุรกรรม Block trade ยังคงอยู่ในระดับต่ำเพียง 1.5 แสนสัญญาเท่านั้น) การขายของนักลงทุนกลุ่มนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกเนื่องจากมีนโยบายการจำกัดความเสี่ยง แต่หากดัชนีปรับตัวลงไปในบริเวณที่เหมาะสม มองว่านักลงทุนกลุ่มนี้ก็พร้อมที่จะซื้อหุ้นกลับเช่นกัน
Foreign : อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่ากังวลเล็กน้อยได้แก่ พฤติกรรมของนักลงทุนต่างชาติล่าสุดที่เริ่มเปิดสถานะ Short ในตลาดล่วงหน้าอย่างมีนัยสำคัญอีกครั้ง (Short สุทธิ 1.2 หมื่นสัญญาวานนี้) ซึ่งอาจทำให้เรายังคงเห็นการขายสุทธิของนักลงทุนกลุ่มนี้ในตลาด Spot ต่อไปอีกในระยะสั้น ซึ่งสวนทางกับสิ่งที่เราประเมินไว้ก่อนหน้านี้ว่า ภายหลังจากผ่านพ้นการปรับตะกร้าของดัชนี MSCI ช่วงปลายเดือนที่ผ่านมาแล้ว นักลงทุนต่างชาติอาจเริ่มกลับมาเป็นผู้ซื้อสุทธิได้ ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่อาจกดดัน Upside ของตลาดในระยะสั้นเช่นกัน
Relatively strong : ถึงกระนั้น หากเราพิจารณาถึงแรงขายของนักลงทุนต่างชาติวานนี้ ยังคงเป็นระดับที่ต่ำกว่าภูมิภาคโดยเปรียบเทียบ ซึ่งยังเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เงินบาทยังคงเป็นสกุลเงินประเทศเกิดใหม่ที่ปรับตัวได้แข็งแกร่ง เราค่อนข้างมั่นใจว่า ถึงแม้ในช่วงแรก นักลงทุนต่างชาติอาจมีการลดน้ำหนักตลาดหุ้นเกิดใหม่ Across the board แต่ในท้ายที่สุด เม็ดเงินที่จำเป็นต้องลงทุนในกลุ่มประเทศเหล่านี้ น่าจะมีการกระจายออกจากประเทศที่มีปัญหาเข้าสู่ประเทศที่ปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งไทยเราถือเป็นหนึ่งในนั้น
กลยุทธ์การลงทุน : SET Index ปรับตัวลงมาหลุดแนวรับแรกของเราที่ 1700 จุด แนะนำนักลงทุนที่เข้าสะสมหุ้นไปในบริเวณดังกล่าวสามารถถือหุ้นได้ โดยมองกรอบแนวรับสำคัญของเดือนนี้ที่ระดับ 1670 จุดเช่นเดิม ซึ่งเป็นระดับต้นทุนของนักลงทุนต่างชาติที่มีการเข้าซื้อหุ้นไทยในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หากดัชนีปรับตัวลงไปบริเวณดังกล่าว มองเป็นจุดในการเข้าสะสมหุ้นเพิ่มเติม โดยมองกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจตามลักษณะของพอร์ตการลงทุนดังนี้
1) สำหรับพอร์ตระยะสั้นประเภทเก็งกำไร แนะนำกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับโครงการ EEC ได้แก่ AMATA, WHA ซึ่งคาดว่าจะได้ประโยชน์เชิง Sentiment จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่เพิ่มขึ้น
2) สำหรับพอร์ตระยะกลางที่ต้องการผลตอบแทนด้าน Capital gain แนะนำหุ้นที่ถูกลดน้ำหนักจาก MSCI ในรอบล่าสุด ได้แก่ CPALL, PTT รวมถึงหุ้นพื้นฐานดีในดัชนี SETHD ที่ยังคง Laggard ตลาดอยู่ เช่น BBL, LH, PTT, TISCO
3) สำหรับพอร์ตระยะยาวที่ต้องการเงินปันผล แนะนำหุ้น Income Stock ที่มีลักษณะคล้าย Bond เช่น กองทุน Infrastructure fund / Property fund / REIT รวมถึงหุ้นสามัญอย่างเช่น ASP, INTUCH, RATCH
CPALL : ราคาหุ้นปรับตัวลงทำระดับต่ำสุดใหม่นับตั้งแต่เดือนกันยายนปีก่อน ถึงแม้ว่าจะ ผ่านพ้นช่วงการปรับลดน้ำหนักในตะกร้า MSCI ไปแล้ว ซึ่งถือว่าค่อนข้าง Surprise ในมุมมองของเรา อย่างไรก็ดี ประเมินว่าปัจจัยข่าวร้ายอย่างเช่นการปรับลดประมาณการ EPS จากนักวิเคราะห์นั้นได้อยู่ในราคาไปพอสมควรแล้ว ซึ่งทำให้ล่าสุดในมิติของ Valuation หุ้น CPALL ถือว่ามีความน่าสนใจค่อนข้างมากสำหรับการลงทุนระยะยาว เนื่องจากระดับ Forward PBV ปรับตัวลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีครึ่ง (ดูรูป) แนะนำถือหุ้นสำหรับผู้ที่เข้าซื้อไปเมื่อช่วงต้นเดือนตามที่เราแนะนำ และรอจังหวะเพิ่มน้ำหนักที่ระดับราคาแถว 60-62 บาท โดยยังคงให้ราคาเป้าหมายในเชิงพื้นฐานอยู่ที่ 101 บาท
แนวรับ 1,669 แนวต้าน 1,720
Today's Event :
BCP XD 0.85 บาท
HTC XD 0.38 บาท
PACE ลูกหุ้นเข้า 500,000,000 หุ้น
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
OO13463